Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
พระคาถาโสฬสมงคล-หลวงปู่เอี๋ยม วัดสะพานสูง
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Metha
เวลา:
2014-5-4 23:20
ชื่อกระทู้:
พระคาถาโสฬสมงคล-หลวงปู่เอี๋ยม วัดสะพานสูง
พระคาถาโสฬสมงคล-หลวงปู่เอี๋ยม วัดสะพานสูง
โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา
จัตตาโรจะมหาทีปา
ปัญจะพุทธามหามุนี ตรีปิฏะกะธัมมักขันธา
ฉะกามาวะจะราตะถา
ปัญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ
เตรัสสะธุตังคาจะ
ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ
ทะเวจันทังสุริยังสัคคา
สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ
เอกาทะสะวิษณุราชา
สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปาละยันตุ สัพพะทาเอเตนะ
มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ
โดย:
Metha
เวลา:
2014-5-4 23:21
กล่าวให้ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส
บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ
ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด
เสียชาติเกิดมา เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวิตเกิดมา
เป็นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ดวงแก้วแถม ทองผ่องแผ้ว
กุศลชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จัญไร กันทั้งโรคภัย
ปรากฏคาถากลับจิตคิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึ่งประจำ
เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็นสามทีเกิดสวัสดี มีลาภทุกประการอาหารการกินปรีเปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗
เป็นสำเร็จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั้งหลาย อายุวัณโณ บรมสุขโขภัญโญทั้งปลาย ถ้าไฟไหม้มาให้เสกข้าวสาร
สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้าจะขายของเสกน้ำประพรม
สินค้าสารพันระบือลือสั่น พากันเข้ามาค้าเรือ เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้วยตัวเองปิดหัวนาวา
นำของสินค้าขายมีกำไร ถ้าเป็นความเสกน้ำล้างหน้าทาแป้งเสกเครื่องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้วยาตรา
กระทืบเท้าสามทีแปลกายบ่ายสู่คู่ความตามที่เป่าพ่นอย่าหนี พลุ่งพล่านต้องเวทย์มนต์ถาคาพลัน
ให้ภาวนาเสกน้ำล้างหน้า กันทั้งคุณไสยอุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา
พระคาถาบทนี้ เป็นของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ซึ่งท่านได้ใช้บทนี้ ปลุกเสกสร้างพระปิดตา และ ตะกรดทำให้มีพุทธคุณมาก
จนเป็นที่ต้องการของผู้คนทั้งหลายตราบเท่าทุกวันนี้
โดย:
Metha
เวลา:
2014-5-4 23:21
โดย:
Metha
เวลา:
2014-5-4 23:21
หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม
( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม )
อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู
พ.ศ.2358 (ช่วงรัชกาลที่ 2 ) เป็นเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์ร่วมสมัยกับสมเด็จฯโต
วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ
วัดบวรนิเวศฯ กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ
และเจ้าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อท่านอายุได้ 22 ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ
ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ลุล่วงถึงปี พ.ศ. 2395 (ช่วงรัชกาลที่ 4 ) จึงได้ย้ายมาสู่
วัดสว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ด
จ.นนทบุรี ขณะนั้นมีพระ2 รูปเท่านั้น
ในระหว่างที่ย้ายมาสู่วัดสะพานสูง ท่านได้ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร
เพื่อเล่าเรียนวิชา และธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน
10 ปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่และญาติโยมคิดว่าท่านได้ถึงแก่มรณภาพแล้ว
จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้หลวงปู่เอี่ยม
ทราบด้วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ปลงผม
ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ้ม พร้อมกับมีสัตว์ปา เช่น
หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้วย
โดย:
Metha
เวลา:
2014-5-4 23:22
จากการเจริญกรรมฐานนี้ มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น
หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ 3 วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ
ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ
พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง
จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2438 เวลา 10.00 น.(ช่วงรัชกาลที่ 5 )ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ท่านได้มรณภาพ
ด้วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ 80 ปี ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือ
ศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้
มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัว
เป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครอง
และหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ
สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. 2480 ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวัน
จะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทง
ใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยัง
มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน
เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ
เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว
ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา
ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ใช้ความตั้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ
เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปัจจัยมาสร้างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ และเจดีย์แก่ผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ เงิน 1 ตำลึง
หรือ 4 บาท หรือจะนำทราย หรือ อิฐ หรือหิน จำนวน 1 ลำ หรือกำปั้น ก็จะได้ตะกรุด 1 ดอก
การปลุกเสก...
เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทุกค่ำคืน
และแทบจะตลอดอายุขัยของท่านทีเดียว โดยต้องปลุกเสกด้วยโองการมหาทะมึนให้ครบ 10,000 จบ ในเวลา 3 ปี
การใช้เวลาอันเนิ่นนานปานนี้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุดของหลวงปู่ จะไม่เป็นยอดแห่งบรรดาตะกรุดทั้งหลาย
เป็นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรือค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั้งปวง
ผู้ใดมีไว้ครอบครองหมั่นบูชา กราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวและวงศ์ตระกูล
และพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ ชีวิตจักไม่ตกต่ำเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริญลาภผล จังงัง กำบังภัย
แคล้วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้นจากศัตรูหมู่สัตว์ร้าย อย่าว่า
แต่ปืนผาหน้าไม้เลย แม้แต่อหิงสา หรือฟ้าผ่าก็ยังกันได้ แจ้งเหตุการณ์ให้ทราบก่อนล่วงหน้า ดลใจในทางที่ถูกที่ควร
ถ้าอยู่ในบ้านเรือนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ผู้มีไว้ครอบครองได้สัมฤทธิ์ผล แห่งเดชนุภาพทั้งปวง
แต่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมจึงเด่นขึ้นสู่ความนิยม และมีค่านิยมสูงยิ่ง เป็นอันดับหนึ่ง
ของบรรดาเครื่องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และหายากยิ่งจนมีผู้สืบเสาะ
อยากจะเป็นเจ้าของกันทั่วไป
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2014-6-8 09:22
ท่องให้ได้วันละ 16 จบ จะประเสริฐฺมากๆ ถ้าสวดคาถาได้ขึ้นใจ
ไม่จำเป็นต้องมี พระปิดตา หรือตะกรุดโสฬส ก็มิต่างกัน
โดย:
oustayutt
เวลา:
2014-6-8 17:08
ขอบคุณครับ
โดย:
Metha
เวลา:
2014-6-10 21:23
ครับผม
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2014-8-23 10:32
โดย:
Metha
เวลา:
2014-8-23 23:39
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2016-2-1 11:17
โดย:
ธี
เวลา:
2016-2-1 16:19
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2016-2-1 16:22
ภาวนาทีหนึ่ง สองทีดีจริง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชักลูกประคำ ร้อยแปดเลิศล้ำ
ให้ได้คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้วอย่างง ไม่พบเร่งหา
ผู้ใดไม่พบบุญน้อยถอดถด
เสียชาติเกิดมา
"คาบทรง" น่าจะหมายถึง 3 จบ ตามที่สวดบทนะโม....
ผมว่า "คาบทรง" คงไม่ใช้คำเดียวกับคำว่า "จบทรง"
"18 ที่ดียิ่ง" คือ?????? จะหมายถึง 18 คาบ (54 จบ) หรือ 18 จบ ถ้าสวดได้ 108 สุดยอด
คิดว่าสวดมากๆยิ่งดีคับ
โดย:
Tim
เวลา:
2016-2-2 02:50
บทนี้ท่านว่าก่อนนอนนะวันละจบ
ไม่มีอะไรก็จะมี เขายกตัวอย่างว่า
เช่นไม่มีรักก็จะมี ขายที่ไม่มีคนซื้อก็จะมี
ท่านว่าต้องสวดทุกคืนจริงๆเท่านั้นจึงจะเป็น
ผมเคยพยายามสวดบทนี้เหมือนกันแต่ตอนนั้น
มีเหตุให้ต้องเลิกไป
โดย:
Marine
เวลา:
2016-2-10 20:34
ขอบคุณครับ
โดย:
Metha
เวลา:
2016-2-12 08:50
สาธุ สาธุ
โดย:
nobnob
เวลา:
2016-2-12 12:01
มหาลัยอยุ่ใกล้วัดสะพานสูง. แต่ก่อนไปกราบ รุปหล่อท่านที่วัด บ่อยๆ. พยายามสวด อยุ่นานละ. สวดไม่ได้ซะที. ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม. แต่ สวดชินบัญชร ได้ก่อนเฉยเลย. ยาวกว่าตั้งเยอะ
โดย:
ธี
เวลา:
2016-2-12 13:52
ผมสวดก่อนนอนและทุกเช้า 3 จบ รู้สึกดีมากๆครับ สวดเป็นบทกล่อนเลยครับ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2016-3-23 05:07
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2