Baan Jompra
ชื่อกระทู้: >> เหรียญขวัญถุง << [สั่งพิมพ์]
โดย: chakpetch เวลา: 2013-3-24 12:00
ชื่อกระทู้: >> เหรียญขวัญถุง <<
เหรียญขวัญถุง
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ
[attach]168[/attach]
เป็นเหรียญที่หลวงปู่ชื่นได้ให้อาจารย์สรายุทธลูกศิษย์ก้นกุฏิ เก็บจากเศษเหรียญที่คนมาทำบุญในวัด โดยผ่านพิธีแลกเงินแล้ว ( จะได้ไม่ผิดศีล ) จากนั้นนำมาอธิฐานจิตอย่างเข้มขลังได้ทั้งหมดจำนวน 200 เหรียญ ตอกด้วยโค๊ตตัวเฑาะ บางเหรียญก็มีรอยจาร
มี 5 แบบคือ
1. เหรียญ 25 สต. ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังรวงข้าว จำนวน 40 เหรียญ
[attach]174[/attach]
2. เหรียญ 50 สต. ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังรวงข้าว จำนวน 30 เหรียญ
[attach]171[/attach]
3. เหรียญ 25 สต. ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังตราแผ่นดิน จำนวน 40 เหรียญ
[attach]173[/attach]
4. เหรียญ50 สต. ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังตราแผ่นดิน จำนวน 60 เหรียญ
[attach]170[/attach]
5. เหรียญ50 สต. ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้านหลังดอยสุเทพ จำนวน 20 เหรียญ
[attach]172[/attach]
เหรียญขวัญถุง และ จาตุมหาราชิกา
[attach]169[/attach]
เทวดาชั้นนี้ที่หลวงปู่เคยเล่าให้อาจารย์สรายุทธ ฟังว่า พวกกาตุม มาช่วยเสกเหรียญขวัญถุงมากันเยอะแยะมากมาย ครั้งแรกอาจารย์ก็งง ว่าใครหว๋าพวกกาตุม กว่าจะรู้ความจริงต้องสอบถามหลวงปู่ชื่นท่านอยู่นานสองนาน
กาตุมก็คือเทวดาชั้นจตุมหาราชิกา หลวงปู่ท่านพูดไม่ค่อยชัดจากจตุ เลยกลายเป็นกาตุม ท่านมาทุกๆพระองค์ เทวดาชั้นนี้ยังไปมาหาสู่โลกมนุษย์ได้ง่าย ผู้มีบุญญาบารมีที่ยังห่วงแผ่นดินสยามอยู่ ส่วนใหญ่แล้วจะมาจุติทำหน้าที่อยู่ชั้นนี้กันมาก ดั่งกรมหลวงชุมพร เป็นต้นครับ
อาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่า เหรียญขวัญถุง หนึ่งเหรียญจะมีเทวดาชั้นกาตุม (จตุมหาราชิกา) มาคุ้มครองดูแล 1 เหรียญต่อ 1 องค์ ถึงว่าทำไมอาจารย์ถึงหวงนักหวงหนา คงเกรงว่าผู้ได้ไปจะไม่เห็นคุณค่า
เพราะว่าของที่หลวงปู่ท่านสร้างมัน"มีดีอยู่แล้ว"ไม่จำเป็นต้องให้ใครตรวจสอบ เดี๋ยวจะออกทะเลหาทางกลับไม่เจอ
By ศรพระราม
โดย: chakpetch เวลา: 2013-3-24 12:02
เกร็ดความรู้ ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเหรียญขวัญถุง
[attach]176[/attach]
- การใช้เหรียญในทางที่ถูกที่ควร คือ เจริญสมาธิ และแผ่กระแสจิตด้วยจิตที่ประกอบด้วยพรหมวิหาร มีอุเบกขา เป็นต้น
เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมมูล ย่อมสามารถอาราธนาบารมีเเห่งเหรียญเพื่อใช้ทางด้านต่างๆได้ เช่น แผ่กระแสแห่งเหรียญไปยังคนที่เรารักเคารพ หรือมิตรสหาย เพื่อช่วยคำจุนดวงชะตา หรือ แผ่ให้คนที่ผูกพยาบาทเรา หรือคนที่คิดร้ายบ้านเมือง เขาจะพบอุปสรรคตามกรรมที่เขาได้กระทำมา แต่การแผ่ให้กับคนที่คิดร้ายกับเรานั้นทำได้ยากกว่า เพราะจิตเราจะเจือด้วยโทสะได้ง่าย และหากแผ่พลังของเหรียญด้วยจิตที่มีโทสะ ผู้รับจะพบกับความวิบัติบางอย่างในชีวิต แต่นั่นก็เป็นการก่อกรรม และเกิดบาปอกุศล จึงควรแผ่บารมีของเหรียญด้วยจิตที่มีสภาพเหมาะสม หากไม่ถนัดจะแผ่แบบจำเพาะบุคคล ก็ให้แผ่แก่ทุกคนโดยทั่วหน้ากัน เสมอกันหมด ในฐานะสัตว์โลกผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน เมื่อเรามองสัตว์ทั้งหลายด้วยจิตที่เท่าเทียมกันแล้ว ก็จะสามารถแผ่ให้กับคนที่ไม่ชอบได้ การแผ่บารมีของเหรียญนี้ แม้จะฟังดูธรรมดา และมิได้ประกอบกับคาถาใดๆ แต่เป็นวิธีที่ทรงพลานุภาพ ให้ผลเสมือนหนึ่งว่า เรามอบเหรียญนั้นให้เขาแขวนเอง
- เหรียญเงินขวัญถุง ตั้งแต่หลวงปู่ปลุกเสกมา ยังไม่เคยได้แจกใครมาก่อน ก่อนที่อาจารย์สรายุทธจะนำมาแจกให้กับลูกศิษย์ รวมทั้งนำมาประมูลร่วมบุญในงานต่างๆแล้ว ก่อนที่หลวปู่จะละสังขารนั้น ท่านได้มอบเหรียญชุดนี้เอาไว้ ใสถุงเป็นอย่างดี พร้อมทั้งสายสิญที่ปลุกเสกด้วย รวมถึง มวลสารวัตถุมงคล เครื่องใช้ต่างๆ ให้กับอาจารย์สรายุทธแล้ว
- วิชาที่หลวงปุ่ลงเหรียญขวัญถุงนี้นั้น ถือเป็นวิชาเฉพาะที่หาใครยากเทียบ หลวงปู่ไม่ได้ปลุกเสกเหรียญชุดนี้เป็นชุดแรก มีเหรียญขวัญถุงที่หลวงปู่ปลุกเสกก่อนหน้านั้นด้วย แต่เป็นเหรียญที่ลูกศิษยืนมาให้หลวงปู่ปลุกครับ เค้าจะไปเปิดกิจการร้านอาหาร ตั้งแต่เขาได้เหรียญที่หลวงปู่ปลุกเสกไว้ไปกิจการก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ครั้งหนึ่ง มีคณัทัวร์ที่เสร็จสิ้นการปฏบัติธรรม ไปที่ร้านแห่งนี้ ขณะที่กำลังจะจ่ายเงิน หัวหน้าคณะได้เห็นแสงสว่างออกมาจากลิ้นชักเก็บเงินของเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นที่เก็บเหรียญขวัญถุงของหลวงปู่ชื่นอยู่นี่เอง
- จำนวนเหรียญที่อาจารย์สรายุทธแจกลูกศิษย์ไปก่อนหน้านี้ พอสมควรแล้ว ตอนนี้เหรียญเหลืออยู่ไม่มาก อาจารย์เลยไม่ได้แจกใครครับ ดังนั้นเมื่อลูกศิษย์รุ่นหลังๆที่อยากได้ ก็ต้องรองานบุญอย่างนี้แหละครับ ราคาจึงไปถึง 5 หลักแล้ว
โดย: chakpetch เวลา: 2013-3-24 12:04
ถอดรหัสเครื่องหมายตราแผ่นดิน
[attach]175[/attach]
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ เสวกเอก หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมสาย กรมขุนราชสีหวิกรม ผูกตราประจำประเทศขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2416 โดยอิงกับหลักการผูกตราของทางยุโรปที่เรียกกันว่า Heraldry (หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยแปลคำนี้ลงในหนังสือเรื่อง ฝรั่งศักดินา เอาไว้ว่า “มุทราศาสตร์”) ตรานี้เรียกกันโดยทั่วไปว่า ตราแผ่นดินหรือตราอาร์ม อันมีลักษณะดังต่อไปนี้
* ส่วนบนสุดตรงกลาง คือ ภาพพระมหาพิชัยมงกุฎเปล่งรัศมี หมายถึงความเป็นพระมหากษัตริย์ ภายใต้พระมหาพิชัยมงกฎเป็นภาพจักรและตรีไขว้ เรียกว่า ตรามหาจักรี อันเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องหมายแทนนามราชวงศ์จักรี ความหมายโดยรวมจึงแปลว่า พระมหากษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรี
* ทางด้านซ้ายและขวาของพระมหาพิชัยมงกฎเป็นรูปฉัตร 7 ชั้น อันเป็นเครื่องหมายแห่งราชาธิปไตย ที่เป็นฉัตร 7 ชั้น ก็เพราะว่าเป็นฉัตรสำหรับใช้ประกอบกับนพปฏลมหาเศวตฉัตร (ฉัตร 9 ชั้น) ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงพระราชอิสริยศของพระมหากษัตริย์ การใช้รูปดังกล่าวจึงเป็นการประกาศให้รู้ว่า ดินแดนสยามอยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ผู้เป็นสยามินท ราธิราช
* ใต้ลงมาเป็นรูปโล่แบ่งออกเป็น 3 ห้อง โดยส่วนบนแบ่งเป็น 1 ห้อง ส่วนล่างเป็น 2 ห้อง มีความหมายดังนี้
o ห้องด้านบนเป็นภาพช้าง 3 เศียร หมายถึง สยามเหนือ, สยามกลาง และสยามใต้ พื้นโล่เป็นสีเหลือง
o ห้องล่างด้านขวาเป็นภาพช้างเผือก หมายถึงประเทศราชลาวล้านช้าง (กรุงศรีสัตนาคนหุต) พื้นโล่เป็นสีแดง
o ห้องล่างด้านซ้ายเป็นภาพกริชคดและกริชตรงไขว้กัน หมายถึง หัวเมืองประเทศราชมลายู พื้นโล่เป็นสีชมพู
* ความหมายโดยรวมของรูปสัญลักษณ์ภายในโล่จึงหมายถึงขอบขัณฑสีมาทั้งหมดของประเทศสยามในเวลานั้น
* ต่อจากฉัตรทางด้านขวาเป็นภาพคชสีห์ประคองฉัตร ส่วนทางด้านซ้ายเป็นภาพราชสีห์ประคอง ฉัตร คชสีห์หมายถึงข้าราชการฝ่ายกลาโหม ซึ่งเป็นใหญ่ทางฝ่ายทหาร ส่วนราชสีห์หมายถึง ข้าราชการฝ่ายมหาดไทย ซึ่งเป็นใหญ่ทางฝ่ายพลเรือน ทั้งสองฝ่ายนี้มีหน้าที่ป้องกันพระราชอาณาจักรและค้ำจุนพระราชบัลลังก์
* ส่วนขอบโล่ด้านล่างสุดล้อมรอบด้วยพระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ หมายถึง พระพุทธศาสนา มีที่มาจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์์ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งพระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราช อิสริยาภรณ์ชนิดนี้ด้วย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดให้พระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการที่กระทำคุณงามความดีต่อชาติอย่างใหญ่หลวง โดยเงื่อนไขสำคัญในการพระราชทานนั้นกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า จะพระราชทานให้แก่บุคคลที่เป็นพุทธมามกะเท่านั้น
ตราแผ่นดินของสยามซึ่งตีพิมพ์ในเอกสารของทางราชการ (ในภาพ เป็นประกาศนียบัตรกระทรวงธรรมการ ตั้งเปรียญธรรม 3 ประโยค พ.ศ. 2453)
* ส่วนใต้พระมหาสังวาลนพรัตน์รัตนราชวราภรณ์ คือ สายสร้อยจุลจอมเกล้าพร้อมดวงตรา หมายถึงการบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ อันเป็นภาษิตของเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้น เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ที่ปฏิบัติราชการด้วยความซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน และพระบรมราชวงศ์ และบุตรทายาทของผู้ปฏิบัติราชการ โดยพระราชทานสืบสกุลลงไปจนสิ้นสายบุตรชายเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล และเพื่อให้ผู้สืบสกุลกระทำความชอบต่อแผ่นดิน และสามัคคีกันรับใช้ชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
* ส่วนล่างสุดของภาพ คือ คาถาภาษาบาลี จารึกบนแพรแถบด้วยอักษรไทย เป็นข้อความว่า "สพฺเพสํ สงฺฆภูตานํ สามคฺคี วุฑฒิ สาธิกา" แปลว่า "ความพร้อมเพรียงของบุคคลทั้งปวงผู้อยู่เป็นหมวดหมู่กัน ย่อมเป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ" คาถาบทนี้เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ซึ่งได้ใช้เป็นข้อเตือนใจประจำโรงเรียนเตรียมทหารในเวลาต่อมาอีกด้วย
* เครื่องหมายอื่นๆ ที่แทรกอยู่ในตรา แต่เห็นได้ไม่สู้ชัดเจนนัก คือ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้ง 5 อันเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยสมบูรณ์ ดังบรรยายต่อไปนี้
o ตรงกลางภาพส่วนบนสุดเป็นภาพพระมหาพิชัยมงกุฎ
o บนมุมซ้ายด้านบนของโล่เป็นส่วนหนึ่งของพระแสงขรรค์ชัยศรี และพระแส้หางจามรี
o บนมุมขวาด้านบนของโล่เป็นส่วนหนึ่งของธารพระกรไม้ชัยพฤกษ์ และพัดวาลวิชนี
o ส่วนฉลองพระบาทเชิงงอนแยกอยู่ริมฐานฉัตรด้านละ 1 ข้าง
o เบื้องหลังตราแผ่นดินที่มีลักษณะเป็นจีบคล้ายผ้าม่าน คือ ฉลองพระองค์ครุยทอง
* องค์พระราชลัญจกรตราแผ่นดินนั้นเป็นตรากลม มีอักษรตามขอบพระราชลัญจกรจารึกไว้ว่า "สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยมหามกุฎ พระจุลจอมเกล้าเจ้ากรุงสยาม"
อ้างอิง :
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0 ... 4%E0%B8%97%E0%B8%A2
โดย: sriyan3 เวลา: 2013-4-15 10:08
ขอบคุณครับ ของดีสุดยอดอีกชิ้น
โดย: oustayutt เวลา: 2013-4-15 10:21
ขอบคุณครับ
โดย: AUD เวลา: 2013-4-15 11:08
โดนเจ้าตัวเล็กยึดไปแล้ว
โดย: thongaek เวลา: 2013-4-15 20:09
รอแล้วรออีกก็ยังไม่ได้สักที
โดย: Metha เวลา: 2013-4-15 23:54
เก็บรักษาอย่างดีครับ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-4-17 12:26
อยากฟังเรื่องราวของเหรียญขวัญถุงอีกซักครั้งครับอาจารย์
โดย: sriyan3 เวลา: 2013-4-18 08:54
รอฟังด้วยคนคร้าบ
โดย: Metha เวลา: 2013-4-18 20:23
จะหาโอกาสเอาไปเหลี่ยมเงิน
โดย: toywater เวลา: 2013-4-18 22:12
ของผมติดหลัง ล็อกเก็ต
รอจังหวะไปเลี่ยมกรอบเงินเหมือนกัน ครับพี่เมธ
โดย: sriyan3 เวลา: 2013-4-19 09:48
เลี่ยมแล้วมาแบ่งกันชมบ้างนะครับ
โดย: นาคปรก เวลา: 2013-5-3 14:27
สุดยอดของดีในตำนานอีกชิ้นของหลวงปู่ชื่น
โดย: oustayutt เวลา: 2013-5-3 21:41
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oustayutt เมื่อ 2013-5-3 21:43
[attach]2682[/attach]
มีกับเขาแค่นี้ครับ
โดย: troop1411 เวลา: 2013-5-3 22:53
ล็อกเป้า เล็งและยิง
โดย: oustayutt เวลา: 2013-5-4 07:07
troop1411 ตอบกลับเมื่อ 2013-5-3 22:53
ล็อกเป้า เล็งและยิง
ประกาศๆ ใครเจอพี่ หนึ่งกุมาร วันไหว้ครูให้เตรียมล็อคได้เลย กระซิบบอกแล้วนะคร๊าบบบบ
โดย: morntanti เวลา: 2013-5-4 07:19
ยังไม่มีโอกาสได้ครอบครอง เหรียญขวัญถุง เลยครับ...ใครมีแล้วก็เก็บรักษาให้ดีหละ ถ้าเผลอทำตกหรือไปวางไว้ที่ไหนคนอื่นคงนึกว่าใครทำเศษสตางค์หล่นไว้แน่ๆเลย
โดย: Nujeab เวลา: 2013-5-4 08:20
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2013-5-4 07:07
ประกาศๆ ใครเจอพี่ หนึ่งกุมาร วันไหว้ครูให้เตรียมล็ ...
รับทราบครับ เตรียมพร้อม
โดย: Metha เวลา: 2013-5-4 10:36
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-5-4 07:19
ยังไม่มีโอกาสได้ครอบครอง เหรียญขวัญถุง เลยครับ...ใคร ...
ขอรับกระผม
โดย: sritoy เวลา: 2013-5-7 14:36
รายละเอียดดีมากครับ
ต้องให้เป็นที่ปรึกษา
ด้านวิชาการ
โดย: chakpetch เวลา: 2013-5-29 10:30
ว่ากันว่า ...
เหรียญขวัญถุงนี้ มีเทพเทวดาจากสวรรค์ชั้น จาตุมหาราชิกา คอยรักษาดูแลอยู่
ปัจจุบันเหรียญขวัญถุงนี้ได้ลดลงจากท้องพระคลังสำนักไปมาก จนยุติการแจกจ่ายมาหลายปีแล้ว
จากหลายปีผ่านมาที่เหรียญขวัญถุงนี้ ไม่เคยมีการเปลี่ยนผลัดมืออีกเลย
ซึ่งเร็วๆนี้อาจจะมีการส่งมอบเหรียญขวัญถุง ไปสู่ผู้ครอบครองรายใหม่อีกครั้งหนึ่ง !!
ใครจะเป็นผู้ครอบครองวัตถุมงคลที่เกินจะตีค่า ตีราคานี้ได้ ต้องคอยรับชมกันครับ
โดย: sriyan3 เวลา: 2013-5-29 13:17
รอชมด้วยคนครับ
โดย: อัปสรา เวลา: 2013-5-29 19:12
นาทีทองค่า อย่าพลาด อย่าช้า อย่ารีรอ โอกาสพิเศษไม่ได้มีบ่อยๆ นะคะ
http://baanjompra.com/webboard/f ... ;tid=650&extra=
โดย: Metha เวลา: 2013-5-30 18:07
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-5-4 07:19
ยังไม่มีโอกาสได้ครอบครอง เหรียญขวัญถุง เลยครับ...ใคร ...
โอกาสมาแล้วน่ะครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-6-13 11:24
ไปเลี่ยมเงินมาครับ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-6-13 14:12
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-6-13 11:24
ไปเลี่ยมเงินมาครับ
สวยไป อิจฉา
โดย: Metha เวลา: 2013-6-14 08:25
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-6-13 14:12
สวยไป อิจฉา
อยากเลี่ยมเงินนานแล้ว
แต่ไม่มีโอกาสซ่ะที
โดย: morntanti เวลา: 2013-6-14 09:54
ยังรอโอกาส ได้ครอบครอง เหมือนเดิม....
โดย: Metha เวลา: 2013-6-21 07:58
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-6-14 09:54
ยังรอโอกาส ได้ครอบครอง เหมือนเดิม.... ...
คงต้องมีสักวันครับ
โดย: thongaek เวลา: 2013-6-21 20:03
รอด้วยอีกคน
โดย: toywater เวลา: 2013-6-21 22:59
รอด้วยคน ครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-6-22 10:07
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-6-21 22:59
รอด้วยคน ครับ
รออะไร
ได้ไปแล้วยังไม่พออีกหรือไง
โดย: toywater เวลา: 2013-6-22 17:59
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-6-22 10:07
รออะไร
ได้ไปแล้วยังไม่พออีกหรือไง
ได้มาแล้ว แล้วมันอยู่ที่คอไหมล่ะ
(ตอกย้ำจัง)
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-6-23 07:27
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-6-22 17:59
ได้มาแล้ว แล้วมันอยู่ที่คอไหมล่ะ
(ตอกย้ำจัง) ...
สงสัยคงจะไป ลืมไว้ที่ โรงแรมมนตรี
โดย: morntanti เวลา: 2013-6-23 08:27
ได้ไปแล้วถ้าหายหละเสียดายแทน......ขอให้หาเจอนะ น้องต้อย ( toywaterr ) ... ...รอเวลาได้ครอบครอง
โดย: นาคปรก เวลา: 2013-6-23 10:11
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-6-22 17:59
ได้มาแล้ว แล้วมันอยู่ที่คอไหมล่ะ
(ตอกย้ำจัง) ...
ตอนนี้ลูกแก้วท่านเสด็จไปอยู่ที่ไหนครับ
โดย: toywater เวลา: 2013-6-23 20:24
อาการ ประมาณนี้ล่ะครับ
ตอนนี้ ลูกแก้วท่านคงออก ธุดงค์
แสดงว่า เข้าพรรษา ก็คงกลับมา ขึ้นคอ ช่วยเด็กน้อยคนนี้ ดังเดิมครับผม
โดย: Metha เวลา: 2013-6-24 15:24
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-6-22 17:59
ได้มาแล้ว แล้วมันอยู่ที่คอไหมล่ะ
(ตอกย้ำจัง) ...
55555
เห็นแล้วว่าอยู่ที่ไหน
สวยๆๆๆจริงๆๆน่ะ
โดย: Metha เวลา: 2013-6-24 19:10
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-6-24 18:26
ไม่สวดมนต์ ไม่นั่งสมาธิล่ะซี๊
เลยโดนยึด
โดย: sritoy เวลา: 2013-6-25 13:02
เพิ่งเลี่ยมเสร็จสวยดี
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-7-6 12:34
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-6-29 07:52
เป็นอะไรครับเสี่ย
โดย: Metha เวลา: 2013-7-7 08:22
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก
โดย: Metha เวลา: 2013-8-3 15:57
โดย: assava เวลา: 2013-8-6 14:49
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-8-3 15:57
ส้วยสวย
โดย: matmee2550 เวลา: 2013-8-6 18:01
โชคดีมีกี่เหรีญไม่บอก
โดย: Metha เวลา: 2013-8-8 18:02
matmee2550 ตอบกลับเมื่อ 2013-8-6 18:01
โชคดีมีกี่เหรีญไม่บอก
เล็งง
ล็อกเป้า
เตรียมยิง
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-8-10 08:08
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-8-3 15:57
ของแท้หรือเปล่า??
โดย: Metha เวลา: 2013-8-10 11:02
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-8-10 08:08
ของแท้หรือเปล่า??
แท้แน่นอนครับ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-8-10 11:26
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-8-10 11:02
แท้แน่นอนครับ
กรอบพระหรือเหรียญที่ว่าแท้
โดย: Metha เวลา: 2013-8-10 12:01
เหรียญก็แท้
กรอบก็แท้ขอรับ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-8-10 12:13
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-8-10 12:01
เหรียญก็แท้
กรอบก็แท้ขอรับ
แล้วคน แท้หรือเปล่า?
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-9-10 07:33
โดย: Metha เวลา: 2013-9-12 15:43
เหรียญตราแผ่นดิน
อาจารย์บอกว่า มีพลังช่วยแก้ไขแก้อาถรรพ์ เสริมบารมีให้กับบ้านที่อยู่อาศัย
โดยนำเหรียญไปติดที่เสาเอกของบ้าน
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-9-12 19:14
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-9-12 15:43
เหรียญตราแผ่นดิน
อาจารย์บอกว่า มีพลังช่วยแก้ไขแก้อ ...
บ้านเป็น ทาวน์เฮ้าส์ ไม่ทราบว่าเสาไหนเป็นเสาเอก
พี่เมธพอ จะมีวีธีไหนแก้ไขหรือทดแทน บ้างครับ
โดย: kit007 เวลา: 2013-9-12 20:42
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-9-12 15:43
เหรียญตราแผ่นดิน
อาจารย์บอกว่า มีพลังช่วยแก้ไขแก้อ ...
ของผมมีเสาเอกแต่ไม่มีเหรียญ
พี่เมธพอ จะมีแบ่งหรือให้ยืมได้บ้างไหมครับ
โดย: morntanti เวลา: 2013-9-13 00:47
ก็ยังรอโอกาศได้ครอบครอง เหรียญขวัญถุง ของหลวงอยู่เสมอมา....
โดย: Nujeab เวลา: 2013-9-13 11:31
พี่เมธช่วยด้วยนะครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-9-13 22:35
เป็นอะไรครับ ใครทำอะไรพี่หนูใบเตย
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-9-16 20:54
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-4-18 22:12
ของผมติดหลัง ล็อกเก็ต
รอจังหวะไปเลี่ยมกรอบเงินเหมื ...
ของเสี่ยต้อยเลี่ยมเสร็จ แล้ว หรอ
โดย: toywater เวลา: 2013-9-17 19:01
กรอบเงิน ยังไม่ได้เปลี่ยนเลยครับ
ช่วงนี้ กรอบพลาสติก ก่อนละกัน
เหรียญเดียวเที่ยวทั่วไทย ครับ
โดย: bigbird เวลา: 2013-9-17 19:19
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-9-17 19:01
กรอบเงิน ยังไม่ได้เปลี่ยนเลยครับ
ช่วงนี้ กรอบพลาสต ...
เสี่ยถ้ามะรุมมะตุ้มไม่ใช้แล้วยกมาทางนี้ได้นะ
โดย: toywater เวลา: 2013-9-17 22:39
bigbird ตอบกลับเมื่อ 2013-9-17 19:19
เสี่ยถ้ามะรุมมะตุ้มไม่ใช้แล้วยกมาทางนี้ได้นะ ...
ว่าจะหลังไมค์ไปเล่าประสพการณ์ให้ น้องวุ่นสักหน่อย แต่กลัวน้องเค้าถ่ายทอดออกมาผิดวัตถุประสงค์
เดี๋ยวเอาไปใช้ทางผิดๆ (มีตระกุด สามสาวอีก ยิ่งกว่าขุนแผนออกศึก จะบอกให้)
ขุนแผนยุคนี้มือไม่มีดาบฟ้าฟื้น แล้วก็ไม่ขี่ม้าสีหมอกหรอก
มันต้อง ขับสี่ประตู อาวุธถือเป็นไอโฟน แทนซะงั้น ^ ^
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-9-18 07:58
toywater ตอบกลับเมื่อ 2013-9-17 22:39
ว่าจะหลังไมค์ไปเล่าประสพการณ์ให้ น้องวุ่นสักหน่อย ...
ผิดวัตถุประสงค์ หรือ ประสงค์วัตถุ ครับ เสี่ยต้อย ตับๆ
โดย: Metha เวลา: 2013-9-19 14:19
kit007 ตอบกลับเมื่อ 2013-9-12 20:42
ของผมมีเสาเอกแต่ไม่มีเหรียญ
พี่เมธพอ จะมีแบ่งหรือใ ...
ถ้าไม่ทราบว่าเสาร์เอกอยู่ไหน ให้มาติดที่เสาเมธ
พี่กิตจะรับกี่เหรียญครับ เดี่ยวผมพาไปเลือกที่ท่าพระจันทร์ จะเอาแบบไหนปีไหนมีทั้งนั้นครับ
โดย: kit007 เวลา: 2013-9-19 16:16
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-9-19 14:19
ถ้าไม่ทราบว่าเสาร์เอกอยู่ไหน ให้มาติดที่เสาเมธ
พี ...
จะเอาเหรียญนี้
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-10-7 07:12
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-10-7 07:23
[td] |
เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ระดับพระอหังสา ผินพระพักตร์เบื้องซ้าย ริมขอบซ้ายมีข้อความว่า "ประเทศไทย" ริมขอบขวาว่า "รัชกาลที่๙"
กลางเหรียญมีเลขไทยและข้อความบอกราคา ริมขอบซ้ายขวาเป็นลายรวงข้าวเบื้องล่างมีอักษรและเลขไทยบอกปีพุทธศักราชที่ผลิต |
|
|
เหรียญขวัญถุงหลังรวงข้าว ฤากล่าวอ้างบารมีแห่งพระแม่โพสพ
ตำนานพระแม่โพสพ เทวีแห่งข้าวปลาอาหาร
กล่าวไว้ว่าพระพรหมทรงแบ่งภาคส่วนหนึ่งลงมาเป็นพระไพรศรพณ์ เหตุด้วยว่าเพราะตบะอันแก่กล้า เต็มไปด้วยบารมีถึงขั้นสูงสุดของ ประไลยโกฎิดาบส จึงทำให้อาสนะของพระพรหมเบื้องบนสวรรค์ถึงกับ ร้อนอาสน์ขึ้นมา ทันใดนั้นพระพรหมจึงทรงตรวจตราดูบนโลกมนุษย์ว่ามีเหตุใดให้พระองค์ช่วยเหลือ เหล่ามนุษย์ได้บ้าง และทรงมองเห็นพระดาบส นามประไลยโกฎิได้บำเพ็ญตบะด้วยความมุ่งมั่น แต่ต้องหิวโหยอดอยากเพราะ ขาดอาหารอยู่ในชายป่าริมแม่น้ำ
เมื่อเป็นดังนั้นพระองค์จึงแบ่งภาคส่วนหนึ่งลงมาเป็นพระไพรศรพณ์ ได้เนรมิตบันดาลให้เกิดฝนตกทั่วบริเวณอาศรม ต่อมาเมื่อฝนซา พระดาบสได้พบกับเมล็ดข้าวสาลีโปรยทั่วบริเวณพื้นดิน และงอกเติบโตขึ้นเป็นรวงข้างสุกเหลืองอร่ามทั่วบริเวณอาศรมนั้น พระดาบสจึงได้เก็บเกี่ยว รวงข้าวมารับประทาน และได้นำไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน บางส่วนให้เป็นอาหารของนกกาจิกกิน
พระดาบสได้ดูแลรดน้ำต้นข้าวสาลีอย่างสม่ำเสมอ และได้แบ่งเมล็ดพันธ์ไปให้ชาวบ้านนำไปเพาะปลูกจนมีข้าวสาลีมากมายในหมู่บ้านใกล้ๆ และที่อยู่ห่างไกลออกไปบริเวณชายป่านั้น ทำให้ชาวบ้านพ้นจากความอดอยากดังเช่นอดีต
ประไลยโกฏิดาบส จึงบอกชาวบ้านเหล่านั้นให้บูชาบวงสรวงพระแม่ไพรศรพณ์ด้วยความเคารพนับถือ ที่พระแม่เป็นผู้มอบข้าวปลาอาหารให้แก่พวกตนและเหล่ามวลมนุษย์สืบต่อไปจนปัจจุบัน
บางตำรากล่าวไว้ว่าชื่อของพระแม่โพสพนั้นมีอีกชื่อคือ พระไพรศรพณ์ เพราะพระแม่นั้นได้อวตาร คือมีภาคที่เป็นเทพบุตรทรงนามว่า พระไพรศรพณ์ ส่วนอีกภาคเป็นสตรี มีพระนามว่าพระแม่โพสพ
คนไทยเราจะคุ้นเคยพระแม่องค์นี้ในชื่อ พระแม่โพสพ ซึ่งคนไทยโบราณเมื่อรับประทานข้าวเสร็จแล้วจะยกมือพนม เพื่อไหว้ขอบคุณพระแม่โพสพพระแม่แห่งอาหาร ซึ่งบันดาลให้มนุษย์มีความอิ่มท้องไม่อดอยาก มีสุขภาพที่สมบูรณ์
ลักษณะทางศิลปะ ...พระแม่ไพรศรพณ์ เป็นสตรีมีใบหน้างดงามยิ่งนัก รัดเกล้าเพียงน้อยแล้วปล่อยสยายประดับด้วยอัญมณี และทองคำสีเหมือนรวงข้าวภาพหนึ่ง นั่งอยู่บนอาสน์ที่งดงามยิ่ง บางภาพประทับนั่งอยู่บนพาหนะซึ่งเป็นหงส์ พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือพระขรรค์ ส่วนอีกพระหัตถ์ถือรวงข้าว
กำเนิดแม่โพสพ เจ้าแม่แห่งข้าว
แม่โพสพ เป็นเมล็ดข้าวประเสริฐสุด เป็นเทพีกลางท้องทุ่งนา ผู้ทรงอานุภาพศักดาเรืองฤทธิ์ ช่วยชุบชีวิตมนุษย์ให้ยืนยาง มีน้ำม่นวลผิวพรรณผ่องใส ช่วยสำรองท้องให้อิ่มหมีพีมัน อีกทั้งเสริมเพิ่มพลังกายามีเรี่ยวมีแรงขมีขมัน แบกหามตรากตรำงานหนักได้ทุกวี่ทุกวัน ก็ด้วยเมล็ดข้าวแม่โพสพนี่แหละ แม่ผู้มีบุญคุญล้ำเลิศ สงเคราะห์ลูกผู้ทุกข์โศก มิต้องอนารร้อนใจ ตราบจนชั่วชีวิต
โอม..แม่โพศรี แม่โพสพ แม่นพดารา แม่จันทร์เทวี แม่ศรีโสภาได้เลี้ยงลูกมา ใหญ่กล้าเพียงนี้ลูกขอบวงสรวงด้วยพวงมาลี ธูปเทียนอัคคี ตามมีบูชาลูกขอนี้ไซร้ ขอยกบุญคุณ แม่โพสพ ขึ้นนบนอบเหนือเศียร
ตำนานหนึ่งเล่าว่า มีฤาษีมหากระไลย์โกฏอยู่สันโษในอรัญ บำเพ็ญพรหมขันธุ์ในกุฏิ เพลาหนึ่งเกิดอสุนีฟ้าฟาด อากาศวิปริตโกลาหล ฟ้าฝนก็ตกลงมามิหยุดหย่อน มีเมล็ดข้าวปลิวว่อนกระจาย พอฟ้าฝนหายฤๅษีก็เห็นเป็นอัศจรรย์ จึงจัดสรรนำไปปลูกริมฝั่งนทีสระน้ำ ฝนชะตลอดมา จนข้าวกล้าแตกรวง
กาลล่วงเข้าฤดูหนาว เมล็ดข้าวก็แก่จัด พระฤๅษีก็โสมนัสยิ่งนัก ครั้นจะนำมากินก็กริ่งเกรงจะเบื่อเมา อันตัวเราก็พึ่งพบคราวนี้ คราวหนึ่งสกุลณีสกุณามาเป็นหมู่ บินจู่โจมกินข้าวสาลี ฤๅษีเห็นดังนั้นพลันรู้ว่า หมู่ปักษามิได้ตายวายชีวิต ก็คิดว่าคงเป็นอาหารอันโอชารส พระดาบสจึงเก็บพันธุ์ข้าวไว้เพาะปลูกกระจายลูกหลานเหลน ได้เป็นอาหารของมนุษย์สุดประเสริฐ โดยกำเนิดขององค์ดาบส ตราบเท่าทุกวันนี้
ในขณะที่ ตำนานเรื่องแม่โพสพ ฉบับชาวพัทลุง ได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าสนใจของ เจ้าแม่แห่งข้าว เอาไว้ดังนี้ กล่าวคือ นานมาแล้ว มีเทพธิดาองค์หนึ่ง เป็นเทพธิดาแห่งข้าว อาศัยอยู่บนสวรรค์ มีความประสงค์จะให้มวลหมู่มนุษย์ทั้งหลายนี้มีข้าวกิน จึงจำแลงกายลงมาบนโลก ในร่างของหญิงชรา อันนำพาห่อผ้ามาด้วย ซึ่งในห่อผ้านี้เอง มีเมล็ดพันธุ์ข้าวอยู่
หญิงชราเดินไปในหมู่บ้าน มีแต่ผู้คนรังเกียจ จนไปพบกระท่อมเก่าๆ หลังหนึ่ง ซึ่งมีผัวเมียผู้ใจบุญ แต่ยากไร้ซึ่งเงินทอง อาศัยให้ที่พักพิง หญิงชราซึ้งในน้ำใจของผัวเมียคู่นี้ จึงมอบห่อผ้าที่มีเมล็ดข้าวอยู่ข้างในให้ โดยบอกให้เอาเมล็ดข้าวนี้ไปโปรยลงสู่พื้นดิน
เมื่อเมล็ดข้าวได้รับน้ำ ก็เกิดความชุ่มชื่น เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ออกรวงแล้วก็สุก และนำมากินเป็นอาหารได้ หญิงชราจึงให้ผัวเมียเอาเมล็ดพันธุ์ข้าวนี้ไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน แล้วบอกว่า นี่คืออาหารที่ใช้กินต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อพูดจบหญิงชราก็หายตัวไป
ต่อจากนั้น เมื่อถึงเดือนหกฝนก็เริ่มตก ชาวนาจะแรกไถนา และทำพิธีอัญเชิญแม่โพสพลงมาเพื่อช่วยดูแลรักษาต้นข้าว ต้องมีพิธีเรียกขวัญข้าว การกระทำทุกอย่างนี้ เพื่อตอบแทนคุณ และบูชาแม่โพสพ ที่ให้ข้าวแก่มนุษย์กิน จวบจนปัจจุบัน
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-10-7 07:16
บทเชิญขวัญแม่โพสพ
ทุกวันนี้ก็ยังคงมืดมน ไม่ทราบชัดว่าผู้ใดเริ่มรจนาเรื่องราววของแม่โพสพ อาจมีเค้ามาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เมื่อ 700 ปีก่อน ดังปรากฏสำนวนว่า "ในน้ำมีปลาในนามีข้าว" อยู่เป็นหลักฐานบนหลักศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่หนึ่ง ที่เชื่อกันว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราช โปรดจารึกขึ้น ยังมีข้อความพิศดารปรากฏอยู่ด้วย กล่าวว่า มีพระขพุงผี เทพยดาในเขาอันนั้น(เขาหลวง)เป็นใหญ่กว่าทุกผีในเมืองนี้ ผิวไหว้บ่ดีพลีบ่ถูแ ผีในเขาอันนั้นบ่คุ้ม บ่เกรงเมืองนี้หาย กาลครั้งนั้น คงมีแต่ พระขพุงผี ผู้เป็นใหญ่เท่านั้น
บทเชิญขวัญแม่โพสพ โบราณาจารย์ท่านว่าไว้ดังนี้
*
ศรี ศรี วันนี้เป็นวันเลิศลม ข้าขอเชิญขวัญแม่พระโพสพ ในนา จะเข้ามาอยู่ในยุ้งฉางวันนี้ ขวัญแม่อย่าหนีตื่นตกใจ เมื่อลมพัดสะบัดใบใม้ร่วงหล่น ขวัญแม่อย่าได้หนีจรดลเที่ยวหนี อย่าได้หลงกินนรีร่ายรำ ขวัญแม่อย่าได้ถลำในไพรพฤกษ์ แม้สัญจรอยู่ในห้วงลึกก็กลับมา ขวัญแม่อย่าได้หลงชมสิงสาราสัตว์ แม้ถูกเขี้ยวตระหวัดอย่าตกใจ แม้จะถูกไถคราด ถูกฟัดฟาดลงกลางดิน ถูกขบกินเป็นอาหารมวลมนุษย์ ขวัญแม่อย่าได้รุดหน่ายหนี จงอยู่เป็นศรีในยุ้งฉาง ขอเชิญแม่นางชมบายศรี ซึ่งมากมีทั้งคาวหวานสารพัด เจ้าของได้จัดมาสังเวยบวงสรวง ขอให้ลาภทั้งปวงเกษมสันต์ มีเงินทองอนันต์ยิ่งนัก มีความรักมั่นคงสถาพร พ้นจากความเดือดร้อนทั้งปวง ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวางทางเดิน ขอให้มีแต่สรรเสริฐลาภยศ มีลูกปรากฏเกียรติขจร มีหมอนหนุนอุ่นใจไม่หน่ายหนี ทั้งพาชีโคกระบือมากมาย มีข้าทาสหญิงชายไว้ใช้สอย มีข้าวร้อยเกวียนเต็มยุ้งฉาง เป็นขุนนางปรากฏปรากฏยศลือชา มีลูกยาเสียแต่วันนี้ ท่านจะเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี ขอให้มีเมียสวยรวยทรัพย์ อย่าได้ยกอับหม่นหมองมีแก้วแหวนเงินทองเอนกอนันต์ มีสุขสันต์ทุกวันคืนด้วยเดชแห่งพระแม่โพสพ เป็นที่เคารพของปวงประชาได้อาศัยเลี้ยงชีวาไม่หิวโหย ได้กอบโกยซึ่งเงินทอง สิ่งใดที่คะนองทำล่วงเกิน เหมือนย่ำโดยบังเอิญไม่เจตนา ขอให้แม่โพสพอย่าได้โกรธหน้าบึ้ง ขอให้เป็นที่พึ่งของมวลมนุษย์สืบไปเทอญ ลั่นฆ้อง 3 ที โห่ร้องเอาชัย
"แม่โพสพ" ตามสารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า "เทวดาประจำพืชพันธุ์ธัญญาหารทั้งปวง" มวลมนุษยชาติเชื่อถือ และกราบไหว้บูชามาตั้งแต่ครั้งโบราณของชาวไทย ลาว และละแวกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา บูชาเพื่อขอความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญชาติ ที่เพาะปลูกตามฤดูกาล โดยจะทำพิธีบูชาแม่โพสพ ด้วยอาหาร มี ข้าวปากหม้อ กล้วย อ้อย เป็นต้น
แม่โพสพเป็นสตรีเพศ ร่างงาม แต่งกายด้วยผ้าผ่อนแพรพรรณสมัยโบราณห่มสไบเฉียง นุ่งผ้าจีบชายกรอมลงมาถึงปลายหน้าแข้ง ทรงเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ตระการตา ไว้ผมยาวสลวยประบ่า มีกระจังกรอบหน้า คล้ายมงกุฎ และจอนหูงอนชดช้อย มือข้างหนึ่งชูรวงข้าว ส่วนอีกข้างถือถุงโภคทรัพย์เต็มถุง ประทับนั่งพับเพียบ เรียบร้อย แบบแพนงเชิงอย่างไทยโบราณ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-10-7 07:19
คนผู้ใหญ่แต่เก่าก่อนนับถือแม่โพสพมาก มักกราบไหว้ท่านก่อนเปิบข้าวคำแรกเข้าปาก และสั่งสอนลุกหลานให้นั่งล้อมวงเปิบข้าวพร้อม ๆ กัน และต้องสำรวมกิริยามารยาทระหว่างเปิบข้าวให้เรียบร้อยอย่าให้มีเม็ดข้าวหายหกตกหล่น แม้ข้าวเหลือก้นจานสังกะสีก็ต้องกินให้หมด ห้ามเททิ้งลงถึงโสโครกให้เอาใส่ปากหม้อข้าวทับบนข้าวที่หุงมื้อต่อไป หรือไม่ก็ต้องนำไปผึ่งแดด ทำเป็นข้าวตากแห้งเอาไว้ เคยเห็นป่าย่ากินข้าวอิ่มหนำสำราญแล้ว ต้องยกมือไหว้เพื่อสำแดงความกตัญญูรู้บุญคุณข้าว จึงต้องขอบคุณท่าน เหล่าชาวนา เมื่อแรกทำนา จนกระทั่งถึงเวลาไถคราด เก็บเกี่ยวรวงข้าวด้วยเคียวเหล็ก ก็จะต้องประกอบพิธีเซ่นบูชาแม่โพสพทุกระยะไป เช่น ก่อนหน้าเวลาฤกษ์แรกนาจะปลูกศาลเพียงตา สูงระดับสายตาคนขึ้น ณ ที่ใดที่หนึ่ง ที่กำหนดไว้เป็นที่แรกนา ตระเตรียมเครื่องสังเวยบูชาแม่โพสพให้ครบถ้วน พร้อมทั้งกล่าวคำขวัญเป็นถ้อยคำไพเราะอ้อนวอนแม่โพสพให้คุ้มครองรักษาต้นข้าว ขอให้ปีนี้จงทำนาได้ผล ไม่ว่าจะเป็นนาหว่าน นาดำ เพราะแม่โพสพเป็นหญิงขวัญอ่อนง่าย
ต้องทำพิธีเรียกขวัญเสมอ พอเริ่มลงมือไถพรวนดินทำนา ทอดกล้า ซึ่งต้องเอาข้าวแม่โพสพที่ไปเรียกเชิญเอามาจากนา เมื่อครั้งเก็บเกี่ยวปีผ่านมา นำเอามาปนพอเป็นกิริยา เพื่อให้ "ข้าวปลูก" มีเชื้อเป็นชีวิตจิตใจ ขอให้ลุล่วงขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อแสดงว่าข้าวเริ่มต้นทำงานแล้ว ดังนี้ ถ้าเป็นนาดำใช้เมล็ดข้างเปลือกที่คัดเลือกไว้ทำพันธุ์แล้ว เก็บไม่นานเกิน 1 ปีไปแช่น้ำหนึ่งวันแล้วพรมน้ำ 1 วัน จนได้ข้าวแตกหน่อ แตกรากออกมา นำไปหว่านในแปลงนาที่เตรียมดินดีแล้ว รอจนเจริญเติบโต หย่อนรากลงดินแตกใบจึงถอน แล้วนำ "กล้าตั้งหน่อ" เหล่านี้ไปปักดำในที่ที่ตระเตรียมไว้อีกแห่ง กล้าตะแตกใบ ลำต้นค่อย ๆ ดต สูงขึ้นทุกทีพอ 7 วัน หลังจากปักดำในนาที่มีน้ำขังไว้ ยอกใบจะสุงจนเรียกว่า ข้าวถอดหางไก่
พอ 20 วัน ใบเก่าจะหลุดกลายเป็นข้าวแตกกอ ในระยะนี้แหละ ข้าวจะสูงขึ้นเป็นปล้อง เรียกว่า ข้าวแต่ง พอลำต้นเติบโตเต็มที่ ก็จะส่งยอดใบชูสลอนเรียกว่า ข้าวซดมาน ข้าวมา หรือ ข้าวท้อง ก็เริ่มตั้งแต่ท้องอ่อน ๆ จนถึงท้องแต่งตึง ท้องใหญ่ขึ้นทุกทีจยเริ่มโผล่ให้เห็นปลายรวง ข้าวที่รวงโผล่จากกายห่อมีลักษณะคล้ายคนยิงฟัน ก็เรียกว่า ข้าวยิงฟัน ชาวอีสานเรียกว่า ข้าวยิงแข่ว (ยิงฟัน) ครั้นพอข้าวโผล่รวงพ้นจากกาบห่อหมดสิ้นทั้งแปลงเรียกว่าข้าวสุ่ม ข้าวจะเริ่มมีน้ำนมจากเมล็ดที่ปลายสุดของรวงขข้าว พอรวงข้าวโตมีน้ำหนัก เพราะมีน้ำนมแต่งตึงมาก ทำให้ปลายรวงค้อมต่ำลง
ขณะที่ข้าวทุกเมล็ดเต่งตึงเต็มที่ ก็เริ่มแข็งตัวเป็นข้าวสารอ่อน ๆ และต่อมาเปลือกเมล็ดเริ่มมีสีเหลืองทั่วท้องทุ่งจะมีสีเหลืองอร่ามดุจดัง "ทุ่งรวงทอง" วันที่ข้าวสารอ่อนก็คือ ข้าวเม่า ชาวนาเก็บเกี่ยวส่วนหนึ่งมาตำในครกกระเดื่องได้เป็น ข้าวเม่า นิ่ม ๆ นำไปถวายพระภิกษุสงฆ์ พร้อมกับกล้วยไข่สุก อุทิศส่วนกุศลให้ "ตากับยาย"
บรรพบุรุษผู้เคยทำนามาก่อนถื่อว่าเป็นผู้ที่มีส่วนให้กำเนิดข้าว พอข้าวแต่ละเมล็ดบนต้นแข็งตัวเต็มที่ จะมีเปลือกสีเหลืองอร่าม ใบชั้นล่างเริ่มเหี่ยวพับลงทาบกับลำต้น ก็ถือว่า ข้าวสุก ดีแล้ว รอสักหนึ่งหรือสองสัปดาห์ก็เริ่มเกี่ยวข้าวหมดทั้งแปลงภายในวันเดียวกัน เมื่อผ่านการฝักข้าวแล้วก็จะได้ เมล็ดข้าวเปลือก นำไปสีที่โรงสีไฟ ก็ขัดผิวเปลือกภายนอกออกจนเหลือ ข้าวสาร สีขาวที่เรียกว่า ข้าวเจ้า ที่มีเมล็ดเรียวยาวงดงาม นับเป็นอาหารหลักของคนไทยทั้งชาติยกย่อง เป็นสุดยอดแห่งความโอชะ เปิบข้าวที่ไหนๆ ก็เอร็ดอร่อยสู้ข้าวไทยไม่ได้เลย
โดย: troop1411 เวลา: 2013-10-7 13:07
ยืนยันอีกเสียงครับว่าข้าวไทยอร่อยที่สุดในโลก
โดยเฉพาะถ้าได้กินข้าวบ้านอาจารย์จะอร่อยเป็นพิเศษอย่างมากมาย
โดย: bigbird เวลา: 2013-10-7 16:22
เหนด้วยเลยข้าวบ้านอาจารย์อร่อยฝุดๆ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-10-7 16:56
troop1411 ตอบกลับเมื่อ 2013-10-7 13:07
ยืนยันอีกเสียงครับว่าข้าวไทยอร่อยที่สุดในโลก
โดยเฉ ...
กินผลไม้ที่บ้านอาจารย์ก้ออร่อย เยี่ยม
โดย: wind เวลา: 2013-10-7 19:58
ถ้าวาสนาพอจะมี คงจะได้มีกะเค้าสักเหรียญ ของหลวงปู่ทุกชิ้นเป้นมงคลแก่ชีวิตผม ตามกาละและโอกาสจะได้ครอบครอง ที่สำคัญเราเจออะไรดีๆก็นึกถึง พี่น้อง เพื่อนๆ อยากให้เค้าได้บูชาด้วย จึงบูชาของอาจารย์และหลวงปู่แบบที่พอกำลังแจกจ่ายเพื่อนๆ เพื่อให้เค้าเจออะไรดีๆเหมือนเรา และได้ ประกาศเกียตริ์คุณ ครูบาอาจารย์ด้วย
โดย: voon เวลา: 2013-10-7 23:22
มีรุ่น 2 ครับ ของอาจารย์ ^^
โดย: taka_jipata เวลา: 2013-10-8 00:52
voon ตอบกลับเมื่อ 2013-10-7 23:22
มีรุ่น 2 ครับ ของอาจารย์ ^^
ยังไม่มีเลยซักรุ่น
โดย: Metha เวลา: 2013-10-11 08:07
voon ตอบกลับเมื่อ 2013-10-7 23:22
มีรุ่น 2 ครับ ของอาจารย์ ^^
ของวุ่นหรอ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-11-19 21:15
voon ตอบกลับเมื่อ 2013-10-7 23:22
มีรุ่น 2 ครับ ของอาจารย์ ^^
จวยจัง
โดย: Metha เวลา: 2013-11-19 22:00
taka_jipata ตอบกลับเมื่อ 2013-10-8 00:52
ยังไม่มีเลยซักรุ่น
ยังไม่เคยเห็นรุ่นสองเลย
ใครมีโชว์บ้าง
โดย: chakpetch เวลา: 2013-11-20 10:27
ย้อนไปในอดีต ครั้นเมื่อตอนเปิดเวพยุคแรกๆ
อาจารย์ได้นำเหรียญขวัญถุงมาแจกบางส่วน ในกิจกรรมตอบคำถามสนุกๆ
เพื่ออยากให้ลูกศิษย์ได้ใช้แล้วมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง
มีวันหนึ่ง บังเอิญผมไปที่พาต้า เพื่อจะไปเช่าหาวัตถุมงคลของหลวงปู่
ก็เจออดีตสมาชิกท่านหนึ่ง กำลังคุยกับพี่จ๊อและได้กำลังรับเหรียญขวัญถุงพอดี
ขณะที่พี่ท่านนั้นกำลังนำเหรียญขวัญถุงใส่ลงกระเป๋าสตางค์
โทรศัพท์พี่จ๊อก็มีเสียงดังขึ้นมา....
เมื่อวางสายเสร็จ.....
พี่จ๊อก็พูดขึ้นมาว่า.....
อาจารย์โทรมาบอกว่า อย่าเอาเหรียญใส่ในกระเป๋าสตางค์
อย่าเอาไว้ที่ต่ำ เพราะเป็นของสูง !!
เป็นครั้งหนึ่งที่แบบ...อึ้ง...เหมือนกันครับ
เหมือนกับอาจารย์จะมีกล้องวงจรปิดไว้ติดตามทุกแห่งหนได้ซ่ะงั้นอ่าาา !!
โดย: รามเทพ เวลา: 2013-11-20 10:41
chakpetch ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 10:27
ย้อนไปในอดีต ครั้นเมื่อตอนเปิดเวพยุคแรกๆ
อาจารย์ได้ ...
ตามนั้นครับ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-11-20 12:04
chakpetch ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 10:27
ย้อนไปในอดีต ครั้นเมื่อตอนเปิดเวพยุคแรกๆ
อาจารย์ได้ ...
กล้องคมชัดระดับ HD
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-11-20 12:09
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-20 12:18
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 12:04
กล้องคมชัดระดับ HD
เจ้หนูเคยมีประสบการณ์. หรอครับ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-11-20 12:16
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 12:09
เจ้หน่อยเคยมีประสบการณ์. หรอครับ ...
หลายครั้งจนคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ
โดย: Metha เวลา: 2013-11-20 13:47
voon ตอบกลับเมื่อ 2013-10-7 23:22
มีรุ่น 2 ครับ ของอาจารย์ ^^
สวยจริงๆครับ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-11-20 13:52
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 12:16
หลายครั้งจนคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ ...
อยากรู้ ๆๆๆ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-11-20 14:15
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 13:52
อยากรู้ ๆๆๆ
เช่นว่า บางเวลานึกถึงอาจารย์ แล้วโทรสับก็ดังขึ้นทันที
หรือบางทีซื้อกับข้าวไปฝากอาจารย์ แบบไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า ก็เหมือนกับอาจารย์รอกินข้าวอยู่
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-11-20 14:19
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 14:15
เช่นว่า บางเวลานึกถึงอาจารย์ แล้วโทรสับก็ดังขึ้นทั ...
กิ๊กโทรมา..
โดย: Nujeab เวลา: 2013-11-20 14:21
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 14:19
กิ๊กโทรมา..
ก็ต้องเป็นอาจารย์โทรมาจิ
โดย: Sornpraram เวลา: 2013-11-20 14:27
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 14:21
ก็ต้องเป็นอาจารย์โทรมาจิ
สีผึ้งเจ็ดเพ็ญ (แต่เพิ่งทำได้สามเพ็ญ)..รุ่นหนูลองยา เป็นงัยบ้างครับ???
กระซิบ เบาๆ นะเดี๋ยวอ้ายเมธได้ยิน
โดย: Nujeab เวลา: 2013-11-20 17:46
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-11-20 14:27
สีผึ้งเจ็ดเพ็ญ (แต่เพิ่งทำได้สามเพ็ญ)..รุ่นหนูลองยา ...
คือว่าแบบนี้ครับ.... พูดดังไม่ได้เด๋วพี่เมธได้ยิน
แต่ก็ได้ข่าวมาว่าวันนี้พี่เมธจะใช้สีผึ้งขึ้นเวที
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-6 13:05
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
[attach]5941[/attach]
เครดิตรูปภาพจากคุณ sathaporn
โดย: morntanti เวลา: 2013-12-7 23:56
ยังรอว่าเมื่อไรมีวาสนาได้ครอบครอง เหรีญขวัญถุง ของหลวงปู่ สักที ...
โดย: Metha เวลา: 2013-12-8 18:07
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-12-7 23:56
ยังรอว่าเมื่อไรมีวาสนาได้ครอบครอง เหรีญขวัญถุง ของห ...
ขอให้สมหวังไวๆๆน่ะครับ
โดย: chakpetch เวลา: 2013-12-13 12:17
[attach]5996[/attach]
แหวนนพเก้าตราแผ่นดิน ที่อาจารย์สวม
ได้ถ่านโอนพลังสู่เหรียญขวัญถุง
แสนยานุภาพฉัพพรรณรังษีมหาสิทธิโชค
[attach]5995[/attach]
เหรียญขวัญถุงแสนยานุภาพฉัพพรรณรังษีมหาสิทธิโชค
ที่เข้าพิธีมาตั้งแต่เสาร์ห้าเดือนห้าปีห้าห้า
ซึ่งตรงกับวันฉัตรมงคลอีกด้วย
เป็นเหรียญที่ระลึกพิธีกาญจนาภิเษก ต๊อกโค๊ต ช ทุกเหรียญ
มีน้อยซ่ะด้วยใครได้ไปถือว่าคุ้มค่าจริงๆ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-13 13:25
หนึ่งสิ่งที่ต้องใช้ใจศรัทธา..ไม่อาจซื้อหาด้วยเงินตราได้
โดย: sritoy เวลา: 2013-12-16 15:45
พี่ที่รู้จักกัน แกเชื่อมั่นในเหรียญที่มีตราแผ่นดินมาก
แกพกติดตัวอยู่เสมอ ที่โชว์ให้ดูมีสามเหรียญเป็น
เหรียญหนึ่งบาทครับ
โดย: Metha เวลา: 2013-12-23 08:13
sritoy ตอบกลับเมื่อ 2013-12-16 15:45
พี่ที่รู้จักกัน แกเชื่อมั่นในเหรียญที่มีตราแผ่นดิน ...
เหรียญตราแผ่นดิน อาจารย์เคยบอกว่าสามารถแก้อาถรรพ์ที่ไม่ดีได้
โดย: lnw เวลา: 2013-12-23 18:44
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-23 09:58
สาธุ คือ ดีแล้ว ถูกแล้ว
ดีแล้ว. แต่. ไม่ถูกแล้วนะครับ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-23 21:56
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-23 09:58
สาธุ คือ ดีแล้ว ถูกแล้ว
5 หลักแล้วครับพี่เมธ
โดย: Nujeab เวลา: 2013-12-24 17:04
metha ตอบกลับเมื่อ 2013-12-24 16:47
ขอสวมสิทธิพี่เมธได้ไหม
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |