ขอขมา อโหสิ ล้างเท้าพ่อแม่ แล้วเอาน้ำล้างเท้ามาอาบน้ำ .... เหตุการณ์หนึ่งหลังจากการอกหัก ที่อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ หลังจากวันที่แฟนเราบอกเลิกไม่นาน ก็ได้แง่คิดจากเพื่อนๆที่เคยอกหักมาเหมือนกัน รวมทั้งทุกคนที่เข้ามาเป็นกำลังใจ ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ ต่อไปนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ ในคืนวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา จิตใจเราที่รู้สึกบอบช้ำมากๆ ทำให้เราคิดถึงบุคคล 2 คน ที่สำคัญกับชีวิตเรามากที่สุด มากกว่าผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่เห็นความสำคัญของเราแล้ว ท่านทั้งสองก็คือ พ่อ และ แม่ ความจริงเรื่องความรักของเรา แม่จะรู้ตลอด รู้แบบละเอียดลึกซึ้งมาก มีอะไรเราจะบอกแม่หมด ไม่ปิดบัง เพราะแม่เราค่อนข้างหัวสมัยใหม่ และใจดีกับลูกมาก เหมือนเป็นเพื่อนกัน เราจะทำอะไร ไม่เคยว่าเลย จะมีก็แต่คอยเตือน ตลอดเวลาที่เราจะเลิกไม่เลิกกับแฟน คาราคาซังอยู่นั้น แม่เราก็คอยปลอบมาตลอด บอกว่าคนอื่น ถึงยังไงก็เป็นคนอื่น เลิกกันไปก็กลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่เหมือนพ่อแม่ ไม่มีใครจะหวังดีและรักเรา เท่ากับพ่อแม่อีกแล้ว นี่คือคำพูดของแม่เรา ที่เตือนสติเราตลอดเวลา แต่กับพ่อเรา เค้าไม่รู้เรื่องนี้เท่าไหร่ รู้แต่ว่าเรามีแฟนเท่านั้น ซึ่งเค้าก็ไม่ว่าอะไร เพราะเราโตแล้ว (จริงๆวัยเราสมควรจะแต่งงานไปแล้วด้วยซ้ำ) เรากับแม่ รู้ดีว่าพ่อเป็นคนคิดมาก ยิ่งถ้ารู้ว่าเราเลิกกับแฟน เดี๋ยวก็คิดมากอีก |
จนกระทั่งคืนนั้น เรารู้สึกแย่มากๆ ไม่ไหวแล้ว สิ่งแรกที่เราคิดคือ วันที่เราเสียใจที่สุด คนที่หวังดีและอยู่เคียงข้างเราจริงๆคือใครกัน ตอนนี้เรานึกถึงธรรมะ ขึ้นมาเลย (จริงๆเราเป็นคนชอบทำบุญมาก ชอบศึกษาเรื่องศาสนาอยู่แล้ว) แต่วินาทีนี้ เรานึกถึงเรื่อง เวรกรรม เรื่องบาปบุญที่ทำกับพ่อแม่ขึ้นมาเลย ในช่วงเวลาที่เราคบกับคนๆหนึ่ง และรักคนๆหนึ่งมาก แต่เราได้ทำอะไรให้พ่อแม่ และแสดงออกว่ารักท่านบ้างหรือยัง นิสัยเราเป็นคนที่ค่อนข้างกระดากใจ ถ้าจะต้องแสดงออกความรักกับพ่อแม่ แต่วันนั้นสิ่งที่เราอยากทำมากเลยคือ การขอขมา เราเดินไปบอกแม่ทั้งน้ำตาว่า ให้แม่กับพ่อเข้ามาในห้องนอนเราหน่อย เราจะล้างเท้าขอขมา แม่เราก็ไปตามพ่อมาที่ห้องเรา พ่อก็งงๆว่ามีอะไร เราก็ไปเอากะละมังใบเล็กๆมาใส่น้ำ แล้วเราก็เอาเข้าไปในห้อง ให้พ่อแม่นั่งบนเตียง เรานั่งอยู่ข้างล่าง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรเลย จับเอาเท้าพ่อมาแช่ลงในน้ำ แล้วก็ค่อยๆล้างถูอย่างตั้งใจ น้ำตาก็ไหลตลอด ล้างได้สักพักก็เอาผ้าเช็ดตัวที่เราใช้อยู่ มาวางรองที่เท้าแล้วเช็ดเท้าพ่อ หลังจากนั้นก็เปลี่ยน เลื่อนกะละมังมาวางตรงหน้าแม่ แล้วก็ทำเหมือนกัน พอเสร็จขั้นตอน เราก็ยกมือไหว้ แล้วบอกว่า สิ่งที่เราเคยทำไม่ดีกับพ่อแม่ไว้ ทั้งเคยเถียงพ่อแม่ หรือคิดไม่ดีอะไรกับพ่อแม่ ก็ขอให้อโหสิให้เราด้วย รวมทั้งเวรกรรมที่เราทำในอดีต จนส่งผลมาถึงปัจจุบัน เราก็ขออโหสิกรรม ให้จบลงในชาตินี้ พ่อเราก็ลูบหัวเรา อโหสิให้เรา แล้วก็พูดถึงความรู้สึกต่างๆที่มีต่อลูกคนนี้ ส่วนแม่เราก็ร้องไห้ เข้ามากอดเรา แล้วบอกว่าขอให้เราเจอคนที่ดีๆ แม่ภาวนาและอวยพรให้เราได้เจอคู่แท้ คู่ที่ดีกว่านี้ และก็อโหสิกรรมทั้งหมดให้เรา แม่เราจะพูดซ้ำวนเวียนแต่เรื่องให้เราเจอคู่แท้คู่ที่ดี พูดไปแม่ก็ร้องไห้ไป เพราะแม่รู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง แล้วตอนนี้เราเสียใจแค่ไหน เราก็ร้องไห้ตลอดเวลาเลย ก้มลงกราบเท้าพ่ออยู่นานมาก แล้วก็หันมาก้มลงกราบเท้าแม่ ก็คุยกันแบบเปิดใจอยู่นาน เราก็บอกว่าเราอยากทำอะไรให้พ่อแม่ ตอบแทนบุญคุณให้ท่าน ที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโตอย่างลำบาก พ่อเราก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่เราบอกว่า พ่อแม่เลี้ยงเรามาตั้งหลายปี ถึงแม้เราอาจจะมีเวลาเลี้ยงเค้าอีกสัก 10-20 ปี เป็นการตอบแทน เราก็ต้องทำให้ได้ |
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |