Baan Jompra

ชื่อกระทู้: วัดราชบูรณะ [สั่งพิมพ์]

โดย: Metha    เวลา: 2014-5-1 11:20
ชื่อกระทู้: วัดราชบูรณะ
วัดราชบูรณะ

ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดมหาธาตุ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา
ภายในวัดประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งล้อมรอบด้วย ระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทาง
ทิศตะวันออก ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดทางทิศตะวันตกในแนวประธานเดียวกัน
วัดราชบูรณะ โด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่
และประชาชนยังสามารถลงไปชมภาพจิตรกรรมฝาฝนังสมัยอยุธยาตอนต้น ภายในกรุได้ด้วย
วัดราชบูรณะจึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ



โดย: Metha    เวลา: 2014-5-1 11:21
ประวัติ
วัดราชบูรณะปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารว่า สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒
หรือ เจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. ๑๙๖๗ คือภายหลังจากสมเด็จพระนครินทราธิราชาสวรรคต
พระราชโอรสองค์ใหญ่สองพระองค์ คือเจ้าอ้ายพระยา ทรงครองเมืองสุพรรณบุรี
และเจ้ายี่พระยาทรงครองเมืองสรรค์บุรี สองพระองค์เสด็จลงมาชิงพระราชสมบัติกันเอง
ต่างทรงช้างเคลื่อนผลมาปะทะกัน ทรงพระแสงของ้าวต้องพระศอขาดพร้อมกัน
เจ้าสามพระยาทรงเป็นโอรสองค์ที่สาม เสด็จลงมาจากชัยนาทมาถึงภายหลัง จึงได้
เสวยราชสมบัติ ทรงพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒
เมื่อเจ้าสามพระยาทรงขึ้นครองราชย์แล้ว จึงจัดการถวายเพลิงพระศพ พระเชษฐาธิราช
ทั้งสองพระองค์พร้อมกัน สถานที่ที่ถวายพระเพลิงนั้น ก็ทรงอุทิศสร้างพระปรางค์และพระวิหาร
มีนามว่า เจดีย์เจ้าอ้ายพระยาเจ้ายี่พระยา



โดย: Metha    เวลา: 2014-5-1 11:21
จุดที่น่าสนใจ
ปรางค์ประธาน มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยม
ซึ่งมีเจดีย์อยู่ทั้งสี่ทิศ มีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ทางทิศตะวันออกถือเป็นปรางค์แบบไทย
ที่นิยมทำฐานสูง ต่างจากปรางค์แบบขอมที่มักมีฐานเตี้ย นอกจากนี้หน้าปรางค์เป็นมุขใหญ่
ยืนออกมาเป็นห้องคูหา ส่วนยอดเรียวแหลมสูง คล้ายฝักข้าวโพด ยอดมีฝักเพกาในขณะ
ที่ขอมไม่มี

-ภาพปรางค์ประธาน วัดราชบูรณะ มองจากช่องประตู-


โดย: Metha    เวลา: 2014-5-1 11:23
กรุมหาสมบัติ สิ่งจะมี 2 ตอน คือตอนที่เป็นเรือนธาตุ และตอนกลางองค์พระปรางค์
กรุชั้นบนสูงจากระดับพื้นดินประมาณ 5 เมตร มีลักษณะเป็นกรุสี่เหสี่ยมจัตุรัส
ขนาดกว้างด้านละ 4 เมตร มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยาตอนต้น มีภาพเทพชุมนุมลอยอยู่
บางองค์มีดอกไม้เป็นก้านชูออกไปข้างหน้า ลวดลายเครื่องประดับต่างๆมีลักษณะแบบศิลปะ
สุโขทัย และมีรูปกษัตริย์ หรือนักรบจีนองค์หนึ่งสวมชุดเขียวองค์หนึ่งสวมชุดขาว และอีกองค์
สวมชุดแดง ภาพแสดงเป็นเรื่องราว
กรุชั้นล่างอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 2.20 เมตร มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ
1.20เมตร สูง 2.65 เมตรฝาผนังกรุชั้นล่างเจาะลึกเข้าไปเป็นช่องคูหาทั้ง 4 ด้าน
เพดานเขียนลายดาวตรงกลางล้อมรอบด้วยลายและเขียนกรอบด้วยเส้นลวด
เขียนเป็นลายเส้นดอกไม้สีแดงปิดทองเป็นวงกลมๆ ผนังเหนือซุ้มคูหาแบ่งเป็น 4 ชั้น
ชั้นบนเขียนรูปพระพุทธรูปสลับกับสาวก ผนังซัมคูหา สันนิษฐานว่า เขียนภาพชาดก
ในพระพุทธศาสนานับได้ 60 ชาติ มีภาพพระโพธิสัตว์ในชาดกต่างๆนั้น มีภาพที่พอเห็นชัด
คือภาพโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น นก กวาง ช้าง กาเผือก คนขี่ม้า นกเขา สุนัข และหงส์
นอกนั้นเลือนลาง
ภายในห้องกรุชั้นนี้ เคยเป็นสถานที่เก็บสมบัติและของมีค่าไว้มากมาย อาทิ เช่น พระแสงขันธ์
มงกุฎ และมงกุฏราชินี เสื้อทองคำ และพระพุทธรูปต่างๆ พระแก้ว พระทองคำ พระนาก เป็นต้น
ซึ่งในปี พ.ศ.2499 ขณะที่กรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่งภายในวัดมหาธาตุ คนร้ายได้ลักลอบ
ขุดกรุในองค์ปรางค์ประธานวัดราชบูรณะได้ของมีค่าจำนวนมาก กรมศิลปากรจึงดำเนินการขุดกรุ
ในองค์ปรางค์ประธานอีกครั้ง พบเครื่องราชูโภคซึ่งทำด้วยทองคำ พระพิมพ์ส่วนหนึ่งนั้น
กรมศิลปากรได้เปิดให้ประชาชนเช่าไปบูชา เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เจ้าสามพระยา และนำสิ่งของที่ได้จากกรุมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้



โดย: Metha    เวลา: 2014-5-1 11:24




การเดินทาง
หากเดินทางมาจากรุงเทพโดยใช้ถนนสายเอเชีย(ทางหลวงหมายเลข 32)เลี้ยวซ้าย
ตรงสี่แยกเข้าอยุธยา ตรงเข้ามาผ่านสะพานนเศวร ตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ ๒
เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกลนัก ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ แล้ว
วัดราชบูรณะจะอยู่ถัดออกไป
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท หมายเหตุ ตั้งแต่เวลา
ประมาณ 19.30น.- 21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:11
[attach]14059[/attach][attach]14060[/attach]

พระปรางค์ประธาน วัดราชบูรณะ


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:15
[attach]14061[/attach]

บันไดทางลงไป กรุสมบัติ ห้องที่ 2 และ 3


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:18
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:31

[attach]14062[/attach]

ห้องชั้นที่ 1 ที่ห้องนี้จะบรรจุพระพิมพ์และพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก บริเวณฝาผนังจะมีจิตรกรรมฝาผนังโบราณเป็นรูปชุมชนชาวจีน และรูปเทวดา เสียดายครับไฟไม่สว่างถ่ายรูปมาเบลอหมดเลย

[youtube]uV_uqiaV5-4[/youtube]


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:30
[attach]14063[/attach][attach]14064[/attach][attach]14065[/attach][attach]14066[/attach]


ห้องชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่เก็บเครื่องทองคำมากมายหลายร้อยกิโลกรัม กลุ่มโจรได้ขุดเจาะลงมาถึงเพียงชั้นนี้ ก็ได้รีบร้อนหนีแล้วขนเครื่องทองคำล้ำค่าไปบางส่วน ซึ่งสันนิษฐานว่าได้ไปไม่ต่ำกว่า 75 กิโลกรัม บริเวณผนังของห้องชั้นที่ 2 จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เป็นรูปพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ ซึ่งเป็นไปตามความเชื่อที่ว่า พระพุทธเจ้าในอดีตมีอยู่หลายพระองค์จนมาถึงยุคปัจจุบันคือพระพุทธโคดม ของพวกเราเองครับ

[youtube]nX1_artvC0o[/youtube]


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:33
[attach]14067[/attach]

โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:34
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:36

[youtube]eguyP66Sk98[/youtube]
[youtube]CwdwZurGzvE[/youtube]

โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:44
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:46


[youtube]ggLD6RA-ICA[/youtube]

แกะรอยเปิดกรุ เจดีย์วัดราชบูรณะ

จากบันทึกสอบสวนปากคำให้การของคนร้าย


“...ผมได้คิดทำการขุดตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๐  ได้คิดกับพวก ๒๐ คน  ว่าเราไปขุดกันในวันที่ ๒๕ เถิด  เพราะวันนั้นไม่มีคนพลุกพล่าน  พอเวลาเย็นที่ ๒๕ ผมกับพวก ๒๐ คน  พร้อมกันเริ่มทำงานในเวลาทุ่มเศษ ได้เอาเหล็กปลายแหลมเหมือนเหล็กขูดชาฟท์ ๓ อัน  พร้อมกับเชือกมนิลาหนึ่งเส้นยาว ๔ วา  แล้วค้อน ๘ ปอนด์หนึ่งอัน  ได้ทำการขุดที่กรมศิลป์ได้กลบเอาไว้  ได้ขุดศิลาขึ้นมา  ลึกลงไปประมาณ ๑ วาเศษ ได้เห็นศิลาทำเป็นวงกลมไว้ในระยะกลางใจตัวพระปรางค์  ได้เห็นปล่องทำด้วยเนื้อโลหะเป็นวงกลมขนาดเท่าลำไม้ไผ่อย่างใหญ่  ตอนกลางต้องขุดลงตามปล่องลงไปประมาณ ๓ เมตรเศษ ก็สุดปล่อง  ได้พบปูนเพชรทำอย่างชนิดแข็งมาก  ทำเป็นวงกลมมีรูตรงกลาง  แล้วปล่องอยู่ในรูนั้น ได้ถอดเอาปล่องนั้นออก  แล้วจึงได้เปิดเอาปูนเพชรนั้นออก  ได้พบซุ้มลวงเป็นรูปสี่เหลี่ยม  ตอนมุมสี่เหลี่ยมมีรูทางทิศตะวันออก  รูกว้างในราว ๔ นิ้วเศษ  เป็นแผ่นหินอ่อนปิดอยู่ กว้างเท่ากับตัวกรุหนาในราว ๒ คืบ  ผมได้เอาค้อน ๘ ปอนด์ตีลงไป  ได้ทำการตีอยู่เป็นเวลา ๓ ชั่วโมงเศษ  จึงได้ทะลุลงไป ผมใช้ไฟฉาย ๆ ลงไปดูในกรุนั้นเห็นเป็นเครื่องทอง  พอทะลุลงไปเป็นรูปกรุสี่เหลี่ยมทำด้วยศิลาเอาปูนทาไว้ แล้วเขียนเป็นภาพน้ำมัน  

พอลงไปข้างล่างผมจึงใช้ให้เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งลงไปข้างล่าง ที่ข้างล่างนั้นมีโต๊ะสำริด ๓ ตัว  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกตัวหนึ่ง  ทางทิศเหนือตัวหนึ่ง  ทางทิศใต้ตัวหนึ่ง  ตอนกลางของตัวกรุนั้น ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมกว้างในราว ๑ วาเศษ  ข้างบนแท่นศิลาตรงกลางกรุนั้นมีถาดทองคำ ๓ ใบ  ข้างบนถาดนั้นมีกระโถนทองคำ ๔ ใบวางอยู่บนถาดนั้น  มีไข่มุกเจาะเป็นรูอยู่เต็มกระโถนทั้งสี่ลูกนั้น  ยังมีตลับทองคำอีกหลายใบวางอยู่ข้างแท่นสี่เหลี่ยมนั้น  เป็นร่องสี่เหลี่ยมเหมือนกัน  มีแหวนประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าวง เพราะในนั้นกว้างมาก  ข้างบนของแท่นนั้นมีโต๊ะสำริด ๓ ตัว  บนโต๊ะนั้นทางทิศเหนือมีพระแสงทองคำปักไว้ข้างของโต๊ะนั้นทางเหนือ  บนโต๊ะทางเหนือมีเสื้อทองคำอยู่ ๘ ตัว และมหามงกุฎอีกอันหนึ่ง กว้างประมาณ ๑ ศอก สูง ๒ ศอกเศษ  บนยอดของมหามงกุฎมีหัวมุกดาหาร ๑ หัว ขนาดเท่าไข่ห่าน  มีจอกทองคำหลายลูก เป็นทองคำประดับด้วยทับทิม และมงกุฎพระราชินี ๓ อัน  วางไว้บนโต๊ะนั้น ตลับทองคำ ๑๒ ใบ  ฝาตลับมีหัวทับทิมหัวใหญ่เท่าเม็ดข้าวโพดทุกใบ  บนโต๊ะทางทิศตะวันออกมีมหามงกุฎราชินี ๕ อัน วางไว้ข้างบนโต๊ะนั้น  และตลับทองคำหัวประดับทับทิม ๒๐ ใบ  จอกหลายใบ  เสื้อทองคำของพระมหากษัตริย์ ๓ ตัว  เรือหงส์ ๑ ลำเป็นทองคำ  คนพายเรือทองคำ และพระพุทธรูปทองคำ ๒๐ องค์  กระบวยทองคำ ๘ อัน  โหล ๔ ใบ  ทำด้วยหินสีขาว  พร้อมม่านทองคำขึงท้องพระโรงก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง  

[attach]14068[/attach]

พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗)
พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:48
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AUD เมื่อ 2017-1-3 13:50

พระสุวรณมาลา ทองคำถัก เป็นศิราภรณ์สำหรับสตรี
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)



[attach]14070[/attach]

สุวรรณภิงคารทองคำประดับอัญมณี เป็นเครื่องราชูปโภค
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)

[attach]14071[/attach]

พระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัย ในซุ้มเรือนแก้วโพธิ์พฤกษ์
ศิลปะอยุธยาตอนต้น (พุทธศักราช ๑๙๖๗) พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา
ปัจจุบัน เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเจ้าสามพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เปิดให้เข้าชม)


โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:50
โต๊ะทางทิศใต้ข้างบนโต๊ะมีพระพุทธรูปทองคำ ๒๕ องค์  ตลับทองคำ ๑๓ ตลับ  ฝาตลับประดับด้วยทับทิมสีแดง พระแก้วยืนสีน้ำผึ้ง ๗ องค์   พระแก้วนั่งสีขาว ๕ องค์  พระมหามงกุฎราชินี ๘ อัน  พระแก้วมรกต ๔ องค์  ทางด้านทิศตะวันตกผ้าพับไว้อย่างดีมากมาย เมื่อไปถูกเข้าก็ป่นเป็นผงไปหมด  แล้วมีพระทองคำ ๓ องค์  หน้าตักกว้าง ๑ ศอก   ตันด้วย  หนักในราวประมาณ ๔ กิโลกรัม  พระนาคนั่ง ๑๒ องค์  หน้าตักกว้าง ๑ คืบเศษ  พระพุทธรูปทำด้วยทอง นาก เงิน ๘ องค์  พระปั๊มทองและเงิน ๒ กระสอบ  พระแก้วยืน ๑๖ องค์สีขาว  มีพระราชรถหนึ่งคัน มีม้าเทียมคู่หนึ่งทำด้วยทองคำ  มีขวด ๖ ลูก  ทำด้วยหินสีขาว  มีแหวนในนั้นเต็มขวด  และเศษทองคำอีกมากมายประมาณ ๑๐ กระสอบ  

พอเห็นของพวกนี้แล้ว เราพูดกันว่า  พวกเรารวยกันแล้ว ตั้งแต่เริ่มทำงานมาได้ใช้เทียนไขจุดส่องดูในกรุนั้น  เพราะเทียนไขแสงสว่างดีกว่าอย่างอื่น  ได้ลำเลียงส่งของอยู่เป็นเวลา ๔ ชั่วโมงเศษ  ได้เริ่มขุดเป็นเวลา ๒ คืนครึ่ง  ขนของขึ้นยังไม่ทันหมดดี  เพราะพวกข้างนอกเอาของที่ลำเลียงไปไว้ที่บ้านหมด  เหลือคนอยู่ในกรุ ๒ คน  ผมเห็นว่าไม่ค่อยดี  จึงให้คนทั้งสองขึ้นกันหมด  เพราะขณะนั้นฝนตกมากหนทางที่ขึ้นนั้นรอบต้นไม้ยังเห็นเป็นรอยเท้ามากมาย  หัวทับทิม  เศษทอง  และรูปช้างม้าทองคำยังอยู่อีกมากมาย  หัวทับทิมก็ยังอยู่อีกมากมาย  คนทั้งสองเห็นว่าจะเสียท่าพวกข้างขน  จึงรีบขึ้นมาจากกรุตรงไปที่บ้านคนที่อยู่ทางข้างเจดีย์เจ้าอ้าย  เจ้ายี่  ของทั้งหมดนี้ได้แบ่งกันคนละ ๒ กิโลครึ่ง  พวกที่ไปขุดด้วยมีด้วยกัน ๒๐ คน เช่นมีพี่น้องก็ไปบอกให้มาเอาส่วนแบ่งกลายเป็นคนได้รับส่วนแบ่งรวม ๓๐ กว่าคน  ถึงกับจะฆ่าจะแกงกัน  พอของมาถึงบ้านแล้วได้จดรายชื่อไว้  แล้วเอากิโลมาชั่งแบ่งของกัน  จำพวกมหามงกุฎ หรือของใหญ่ ๆ ไม่ได้แบ่งกัน ของที่เหลือ เช่น พระแสง ราชรถ เรือหงส์  ของอย่างอื่นอีกหลายอย่างที่กองเอาไว้  เพราะของที่แบ่งกันนั้นได้ไปหมดทุกคนแล้ว  มีคนอีกคนหนึ่งได้ยืนขึ้นบอกว่าเอาอย่างไรก็เอากันเถอะ  พวกทั้ง ๓๐ กว่าคนได้ชักมีดชักปืน  ต่อจากนั้นมาก็เลยแย่งกันจนล้มไปทับเอาเด็กเล็ก ๆ ที่อยู่ในบ้านนั้นร้องขึ้น  พอได้รับส่วนแบ่งแล้ว เอาห่อผ้าขาวม้าคนละสองห่อ  พอมาตามทางก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมไว้ได้บ้าง และหนีหลุดรอดไปได้บ้าง  

พอรุ่งเช้าวันที่ ๒๘ ตำรวจก็ได้จับกุมหัวหน้าคุมขุดกรุวัดราชบูรณะ  ซึ่งพอได้มหามงกุฎมาถึงบ้านแล้วก็เอามาสวมใส่ แล้วถือพระแสงดาบออกมารำเล่นพร้อมกับลูกชายแถวๆ ตลาดหัวรอ  ตำรวจไล่จับข้าวของตกเรี่ยราดตามถนน  พวกชาวบ้านเก็บได้กันก็มากมาย  บางคนถึงแก่ไปขายแล้วปลูกบ้านได้อย่างใหญ่โตก็มี  บางคนแทบจะเป็นบ้าเป็นหลังไปเพราะความเสียดายของที่ได้มาแล้วไปฝากพี่น้องไว้  เขายักยอกเอาไปจนเกือบหมดที่มาเป็นของกลางนั้นนิดหน่อย......


คัดจาก : “เครื่องทองสมัยอยุธยา” หน้า ๘๑–๘๕ กรมศิลปากร จัดพิมพ์เผยแพร่ ปีพุทธศักราช ๒๕๔๘

โดย: AUD    เวลา: 2017-1-3 13:54
นาทีที่ 8 วินาทีที่ 35 มีเด็กวิ่งด้วยหรอ ขนลุก!!!

...คลังสมบัติของชาติ - กรุวัดราชบูรณะ
• โดย mckaforce
•  ดู  733,692 ครั้ง

[youtube]ggLD6RA-ICA[/youtube]


เผยแพร่เมื่อ 26 ก.ย. 2012

แกะรอยเปิดกรุวัดราชบูรณะ ตอนที่ ๑ บันทึกคำให้การของคนร้าย
http://www.sookjai.com/index.php?topi...
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์


ส่วนหนึ่งของผู้แสดงความคิดเห็น จากผู้เข้าชม 205,686 ครั้ง

    Parami  Aussawadechagul...3 เดือนที่ผ่านมา   
สวยงามเหลือเกิน ช่างในสมัยนั้นฝีมือประณีต บรรจง งานแต่ละชิ้นที่เห็น แสดงออกให้เห็นว่า ศิลปะวิจิตรบรรจงถึงเพียงนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า คนสมัยก่อน เป็นช่างที่มีฝีมือประณีตและงดงามถึงเพียงนี้ สมบัติทีเห็น บ่งบอกให้รู้ว่า สมัยกรุงศีอยุธยา มีความสัมพันธ์ กับ จีน และ อาหรับ ไม่น่ามีคนมาขโมยไปได้เลย เป็นความบกพร่องของเมืองไทยอย่างมากที่ทำให้ สมบัติชาติสูญหายไป อยากเห็นของจริง


   Todsaporn  Wilaiwan...6 เดือนที่ผ่านมา        
นาทีที่ 8 วินาทีที่ 35 มีเด็กวิ่งด้วยหรอ ขนลุก!!!  


   hanatoshi  Zeed...6 เดือนที่ผ่านมา  
8.35 ดู กัน ดีๆ แมร่ง...วิ่งง


   akiwie  indhamusika...1 เดือนที่ผ่านมา  
8.35 เฮ้ยยยยย จิงด้วยอ่ะ กรี๊ดดดดดดด



โดย: majoy    เวลา: 2017-1-4 08:58
ขอบคุณครับ
โดย: Metha    เวลา: 2017-1-7 08:43

อ่านไปมาเริ่มหลอน




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2