Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
~ หลวงพ่อ ท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน ~
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:40
ชื่อกระทู้:
~ หลวงพ่อ ท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน ~
ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
[attach]2047[/attach]
ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน วัดพระธาตุน้อย
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า
"พ่อท่านคล้าย"
ประวัติ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" นามตามสมณศักดิ์ท่านคือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า "คล้าย สีนิล" เกิดตรงกับ วันที่27ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด จ.ศ.1238 ร.ศ.95 ที่บ้านโคกทือ ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอินทร์ นางเหนี่ยว สีนิล มีพี่สาว 1 คน ชื่อนางเพ็งเป็นภรรยานายซ้าย เพ็ชรฤทธิ์ ไม่มีบุตรสืบสกุลแต่มีบุตรบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อนายครื้น เพ็ชรฤทธิ์
พ่อท่านคล้าย
มีลักษณะนิสัย เป็นคนมีมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดาและครูอาจารย์อย่างเคร่งครัด สุภาพ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย นิสัยอ่อนโยนละมุนละไม จึงเป็นที่รักของบิดามารดา ครูอาจารย์และญาติมิตรเป็นอันมาก
เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลวงพ่อคล้าย ประสบอุบัติเหตุในการถางป่าทำไร่กระดูกปลายเท้า สามนิ้วแตกละเอียด รักษาไม่หาย ด้วยกำลังใจที่เด็ดเดี่ยว พ่อท่านคล้ายได้ใช้มีดตัดปลายเท้าออกด้วยตัวเอง และใช้ยาพอกจนหายเป็นปกติ
ขาของพ่อท่านคล้ายนั้นเสียข้างหนึ่ง คือ ขาด้านซ้ายขาดตั้งแต่ตาตุ่มลงไป (เสียตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดนต้นไม้ทับที่บ้านญาติของท่านที่ จ.กระบี่ ขาเป็นหนองเลยต้องตัดทิ้ง โดยท่านใช้มีดปาดตาลตัดเอง) ท่านเลยต้องใส่กระบอกไม้ไผ่แทน
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:41
พ่อท่านคล้าย
ได้
บรรพชาเป็นสามเณร
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2438 (อายุ 19 ปี) บรรพชาที่วัดจันดี ต.หลักช้าง บรรพชาโดยอาจารย์ พระอธิการจันเจ้าอาวาสวัดจันดี (ทุ่งปอน) และพ่อท่านสามารถท่อง พระปาฏิโมกข์จนได้แม่นยำ
พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณ พระเกจินครศรีธรรมราช
ครั้น
อายุครบ 20 ปี
บริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2439 ได้เข้า
พิธีอุปสมบท
ณ อุทกุกเขปสีมา (ศาลาน้ำ) วัดวังม่วง โดยมีพระอาจารย์กราย คังคสุ วัณโณ เจ้าอาวาสวัดหาดสูง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สังข์ สิริรตโน เจ้าอาวาสวัดไม้เรียง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทอง ปทุมสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดวังม่วงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และมีพระอาจารย์ล้อม ถิรโชโต เป็นผู้ให้สรณคมน์และศีล ได้รับฉายาว่า
จันทสุวัณโณ
แล้วได้ไปจำพรรษา อยู่ที่วัดทุ่งปอน หรือวัดจันดี
การศึกษาเบื้องต้น พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เริ่มศึกษาเบื้องต้นที่บ้าน โดยบิดาเป็นผู้สอน เรียนวิชาคำนวณ และวิชาอักษรโบราณ จนสามารถอ่านออกเขียนชำนาญ ทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอม ต่อมาศึกษาต่อในสำนักนายขำ ที่วัดทุ่งปอน บ้านโคกทือ จนจบหลักสูตร ต่อมาได้ไปฝึกหัดเล่นหนังตะลุงกับนายทองสาก ประกอบกับพ่อท่านคล้ายมีหน้าตาดี น้ำเสียงไพเราะ จึงมีคนติดใจการเล่นหนังตะลุงของท่านมาก
[attach]2048[/attach]
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:42
ต่อมาปี พ.ศ.2441 พ่อท่านคล้าย ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี เรียนมูลกัจจายนะ ในสำนักพระครูกาแก้ว (ศรี) ณ วัดหน้าพระธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จบหลักสูตรมูล พอแปลบาลีได้ ศึกษาอยู่เป็นเวลา 2 พรรษา
ปี พ.ศ.2443 ต่อมาได้ศึกษาทางวิปัสสนากัมมัฎฐานที่สำนักวัดสามพัน อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีอาจารย์หนูเจ้าอาวาสเป็นผู้สอน
ปี พ.ศ.2445 พ่อท่านคล้าย ได้กลับมาอยู่จำพรรษาวัดหาดสูง ใกล้ตลาดทานพอ ในสำนักพระครูกราย ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพ่อท่าน เพื่อศึกษาวิปัสสนาและไสยศาสตร์ โดยเหตุที่พระครูกราย เป็นอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนาและทรงวิชาคุณทางไสยศาสตร์ในสมัยนั้น
ปี พ.ศ.2447 พ่อท่านคล้าย ได้ไปจำพรรษาที่วัดมะขามเฒ่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลาเพื่อศึกษาภาลีและอภิธรรมเพิ่มเติม
ปีพ.ศ.2448 พ่อท่านกลับจากวัดมะขามเฒ่า มาจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งปอน (จันดี) ตลอดเวลาที่ท่านจำพรรษา ณ ที่ใดก็ตาม ท่านได้ศึกษาค้นคว้าภาษา บาลี วิชาโหราศาสตร์ และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ติดต่อกันมาโดยมิได้ประมาท ด้านการก่อสร้างก็ได้สร้างใว้ตามวัดต่างๆพอสมควร
พ่อท่านคล้าย
เป็น
เจ้าอาวาสวัดสวนขัน
ในปี พ.ศ.2448 พระปลัดคง เจ้าอาวาสวัดสวนขัน ลาสิกขาบท คณะอุบาสกอุบาสิกาของวัดสวนขัน ได้ร่วนกันเสนอไปยัง ท่านพระครูกรายเจ้าคณะแขวงฉวาง ขอแต่งตั้ง"พ่อท่านคล้าย"เป็นเจ้าอาวาส วัดสวนขันแทน ท่านพระครูกรายก็เสนอไปยังเจ้าคณะเมือง (ม่วง เปรียญ) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณพระศิริธรรมมุนี เจ้าคณะเมือง ได้แต่งตั้งให้พ่อท่านคล้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนขันแต่นั้นมา
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:43
ประวัติวัดสวนขัน
[attach]2049[/attach]
วัดสวนขันเป็นวัดราษฎร์
เดิมตั้งอยู่ที่
วัดราษฎร์บำรุง
ปัจจุบันชาวบ้านเรียก
วัดคุดด้วน
เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งคลองคุดด้วน มีพระปลัดคงเป็นเจ้าอาวาส แต่ที่ตั้งเป็นที่ไม่เหมาะบางประการ เนื่องจากฤดูน้ำก็ถูกน้ำท่วมบ่อยๆและสถานที่คับแคบ จึงทำการย้ายวัดขึ้นไปทางเหนือของคลองคุดด้วน สร้างวัดขึ้นมาใหม่ใน ป่าไม้ขันอันเป็นที่สวนของอุบาสกผู้มีศรัทธาถวายให้วัด และพร้อมใจกันตั้งชื่อวัดว่า
วัดสวนขัน
วัดสวนขัน
ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ ตำบลสวนขัน กิ่งอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีฯ พระปลัดคงได้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก พระปลัดคงเป็นลูกศิษย์ของพระครูกราย ต่อมาลาสิกขาบทพระครูกรายเสนอพ่อท่านคล้ายให้เป็นพ่อท่านคล้าย ตลอดมาเป็นเวลา65ปี จนถึงวันมรณะภาพ
พ่อท่านเคยแต่งบทกลอนกำดัดสอนนาคใว้น่าฟังดังนี้
ศีลสิบโดยตั้ง รักษาโดยหวัง
องค์ศีลทั่วผอง สองร้อยยี่สิบเจ็ด
สิ้นเสร็จควรตรอง ศีลสิบหม่นหมองสองร้อยมรณา
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:44
สมณศักดิ์พ่อท่านคล้าย
ได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น
พระครูชั้นพิเศษในนามสมณศักดิ์เดิม
แต่ประชาชนทั่วไปเรียกท่านตามชื่อเดิมว่า พ่อท่านคล้าย
ตำแหน่ง
- ดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสวัดสวนขัน
ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๔๕ จนมรณภาพ
- เป็น
เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อย
ใน พ.ศ.๒๕๐๐ เนื่องจากมีการสร้างถนนผ่านกลางวัดจันดีหรือวัดทุ่งปอน ทำให้วัดถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ประชาชนได้ประชุมตกลงสร้างวัดใหม่ในเนื้อที่ที่แยกออกไป เรียกว่า
วัดพระธาตุน้อย
และแต่งตั้งให้
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
เป็นเจ้าอาวาส เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว
วัดนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว
งานด้านศาสนา
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
เป็นผู้นำในการสร้างวัดพระเจดีย์ พระพุทธรูป และร่วมกันในการปฏิสังขรณ์บูรณะศาสนสถานเป็นจำนวนมาก ผลงานสำคัญ ดังเช่น สร้างวัด พ่อท่านคล้ายเห็นความสำคัญของปูชนียสถาน จึงได้สร้างวัดขึ้นหลายแห่ง ได้แก่ วัดมะปรางงาม ตำบลละอาย อำเภอฉวาง ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๐ ทายาทอึ่งค่ายท่าย ถวายที่ดิน และวัดที่สำคัญที่สุดคือ
วัดพระธาตุน้อย
หรือคนทั่วไปเรียกว่า วัด
พ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
พ่อท่านคล้าย สร้างวัดพระธาตุน้อยและเจดีย์
[attach]2050[/attach]
ปี พ.ศ.2505 นายกลับ งามพร้อม อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่9 ตำบลช้างกลาง อำเภอฉวาง ได้ยกที่ดินโคกไม้แดง มีเนื้อที่40ไร่ ถวายพ่อท่านโดยมอบให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ที่ดินแปลงนี้อยู่ใกล้สถานีรถไฟคลองจันดี ประมาณ1กิโลเมตร พระครูพิศิษฐ์อรรถการได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นในที่ดินแปลงนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อ 14 มกราคม 2505 ตรงกับวันขึ้น 9ค่ำ เดือนยี่ ปีฉลู เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่นายประคอง ช่วยเพ็ชร ถวายมาจากกว๊านพะเยา (ปัจจุบันเป็นจังหวัดพะเยา) โดยยึดรูปแบบมาจากวัดพระมหาธาตุทั้งหมด ทุนรอนในการก่อสร้างได้มาจาก พ่อค้า คหบดี ข้าราชการ และประชาชน ฝ่ายสงฆ์มีพระใบฏีกาครื้น โสภโณ เจ้าอาวาสวัดจันดีในสมัยนั้น เป็นผู้อำนวยการสร้าง ฝ่ายฆราวาสมี พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ ราชเดช เป็นประธาน พระเจดีย์องค์นี้มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ27เมตร สูง 70เมตร การก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๕๑๓ องค์พระเจดีย์ มองเห็นเด่นแต่ไกล ถ้านั่งรถไฟเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ก่อนขบวนรถจะถึงสถานีคลองจันดี จะมองเห็นพระเจดีย์อยู่ทางซ้ายมือ
พ่อท่านคล้ายได้สร้างพระเจดีย์ไว้หลายองค์ ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขัน เจดีย์บ้านควรสวรรค์ ตำบลนาแว อำเภอฉวาง เจดีย์วัดยางค้อม อำเภอพิปูน และที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้แก่ เจดีย์วัดสวนขันอำเภอพระแสง และเจดีย์หน้าถ้ำขมิ้น บนภูเขาอำเภอนาสาร
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:46
งานด้านพัฒนาท้องถิ่น
พ่อท่านคล้าย
จัดได้ว่าเป็นนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ตลอดชีวิต ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้เดินทางไปพัฒนาในที่ต่าง ๆ มากมาย สร้างถนน สะพานมากมาย ด้วยเมตตาบารมีและความเคารพศรัทธาของศิษย์และประชาชน ดังเช่น
สร้างถนนเข้าวัดจันดี
ถนนจากตำบลละอายไปพิปูน
ถนนจากวัดสวนขันไปยังสถานีรถไฟคลองจันดี
ถนนจากตำบลละอายไปนาแว
ถนนระหว่างหมู่บ้านในตำบลละอาย
สะพานข้ามคลองคุดด้วนเข้าวัดสวนขัน
สะพานข้ามแม่น้ำตาปีจากตลาดทานพอไปนาแว
สะพานข้ามคลองเสหลา หน้าวัดมะปรางงาม
สะพานข้ามคลองจันดี เป็นต้น
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:47
ด้านความมีเมตตาและวาจาสิทธิ์
ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย
คนที่ไปนมัสการ"พ่อท่านคล้าย"หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด
พ่อท่านคล้าย มรณภาพ
พ่อท่านคล้าย
หรือ
พระครูพิศิษฐ์อรรถการ
เมื่อครั้นถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2513 ตรงกับแรม 9ค่ำ เดือน12 ปีจอ พ่อท่านจะต้องเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เนื่องในงานพุทธาภิเษกที่คณะพุทธบริษัท จังหวัดนั้นนิมนต์ใว้ เวลา 16.00 น. ของวันเดินทาง คณะศิษย์เป็นว่าพ่อท่านอาพาธกระทันหัน จึงนิมนต์พ่อท่านขึ้นรถด่วนเข้ากรุงเทพ ถึงวันรุ่งขึ้นได้นำพ่อท่านเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในวันนั้น แพทย์ได้พยายามรักษาจนเต็มความสามารถ เป็นเวลา14วัน อาการมีแต่ทรงกับทรุด ครั้งถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2513 เวลา23.05 น.
พ่อท่านคล้าย
มรณะภาพ
ด้วยอาการสงบ
รวมอายุได้ ๙๖ ปี
เมื่อบำเพ็ญกุศลครบ ๑๐๐ วัน จึงได้บรรจุสรีระของท่านไว้ในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ใน
วัดพระธาตุน้อย
จนถึงปัจจุบัน
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-19 16:48
[youtube]wiogioahMEU[/youtube]
โดย:
sriyan3
เวลา:
2013-4-19 17:31
กราบนมัสการพ่อท่านครับ
โดย:
AUD
เวลา:
2013-4-20 14:45
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ
โดย:
Metha
เวลา:
2013-12-11 18:41
กราบนมัสการครับ
ขอบพระคุณข้อมูลครับ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2015-1-30 08:05
ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา
พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา
ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ
เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร
เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย
คนที่ไปนมัสการ"พ่อท่านคล้าย"หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง
บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน
ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด
************************
ชานหมากพ่อท่านคล้ายที่ท่านเคี้ยว มีเรื่องเล่าว่าได้กลายเป็นเหล็ก แตกต่างจากชานหมากทั่วไป
ชานหมาก รุ่นว่าน(สมัยนั้นใครโดนสัตว์มีพิษ ขบ กัด ใช้ ฝนว่านในรูปพระ ผสมกับปูน และน้ำมะนาว ทาที่แผล คืนเดียวหาย)ฯลฯ
เดี้ยวนี้ชานหมากของพ่อท่านคล้ายจริงๆหลายคนได้รับแต่สูญหายไปเสียมาก คงมีแต่ชายหมากที่ปลุกเสกภายหลังพ่อท่านคล้ายมรณภาพแล้ว
*************************
ความศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านคล้ายมีให้ได้ยินอยู่เสมอๆ
เช่นครั้งหนึ่งพ่อท่านคล้ายปักกรด นั่งอยู่ใต้ต้นกระโด ข้างสะพานโค้งฉวางใกล้กับวัดวังม่วง
มีผู้หญิงชาวบ้านบังเอิญเดินมาพบท่านจึงได้ นั่งลงกราบและบอกว่าตัวเองลำบากต้องหาของป่าขาย
อยากขอหวยสักสามตัว พ่อท่านคล้ายจึงพูดในเชิง สัพยอก ว่า "อะไรกัน เลขแค่ สอง-สามตัว ซึ้อไม่ถูกเทียวหรือ"
ในงวดนั้นปรากฎว่าหวยออก 222 จึงเป็นที่กล่าวขานโจษจันษ์ กันทั้งอำเภอ
*********************************
สมัยนายอำเภอ ระบิน มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตาปี เชื่อม ต.ฉวาง กับ ต.ไม้เรียง
บังเอิญมีกอไผ่สีสุก ขวางทางและ รถแมคโฮเข้าขุด แต่ขุดทุกครั้ง เครื่องต้องดับทุกครั้ง
การสร้างจึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ชาวบ้านจึงสงสัยว่าในกอไผ่มีอะไร จึงถางไม้ไผ่เข้าไปดูจึงพบว่า
ตรงกลางก่อไผ่มีงูบองหลา(จงอาง)กำลังนอนกกไข่อยู่ และดุร้ายมากจนชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปถางต่อ
จึงทำให้งานสร้างสะพานต้องหยุดชะงัก ไปโดยปริยาย
ผู้รับเหมาเจ้าของงานเครียดมากกลัวส่งงานไม่ทันและกำลังจะเข้าฤดูฝนซึ่งจะทำงานยากกว่าเดิม
เมื่อไม่มีทางออกจึงระลึกถึงพ่อท่านคล้าย
นายช่างจึงไปแจ้งความลำบากใจที่ตนประสพอยู่กับพ่อท่าน
และพ่อท่านคล้ายเห็นว่าการสร้างสะพานเป็นการพัฒนา
ท้องถิ่นจึงรับนิมนต์ไปดูรังงูบองหลา เมื่อไปถึงพ่อท่านก็ตรงเข้าไปในกอใผ่
และทำการกอบ ใข่ของงูทั้งรัง แล้วเดินนำไปวางไว้ที่กอไผ่กอข้างๆ
โดยที่มีแม่งูบองหลาเลื้อยตามหลังมาแบบ สงบเสงี่ยม
และหลังจากนั้นรถแมคโฮ ก็เข้าไปทำงานได้ราบรื่นจนงานเสร็จโดยไม่มีอะไรเกิด
โดย:
ธี
เวลา:
2015-1-30 13:30
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-1-30 13:54
เยียมครับ แต่มีบางส่วนที่รับรู้มาต่างจากประวัติข้างตนจะเล่าให้ฟัง
ครั้งหนึ่งในขณะที่ผมบวช เจ้าอาวาสที่วัดไปเยียมเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดสวนขันธ์ และพาไปที่วัดอีกแห่งหนึ่ง ในขณะที่เจ้าอาวาสไปพบเจ้าอาวาสที่วัดนั้น ผ
มเดินไปริมคลองและเห็นภิกษุชรายืนอยู่ริมน้ำกำลังให้อาหารปลาในแม่น้ำ
ผมเข้าไปไหว้ ท่านถามและพาผมไปที่กุฎิซึ่งเป็นกระท่อมมุ่งจากฝากระท่อมทำด้วยไม่ไผ่สาน หลังจากสนทนาเล็กน้อย ภิ
กษุชราก็เล่าประวัติของท่านโดยบอกผมว่า ก่อนบวชท่านเป็นลูกพี่สาวของพ่อท่านคล้าย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นลูกแท้หรือลูกบุญธรรม(
ซึ่งต่างจากหนังสือบางเล่มเขียนไว้) ภิกษุชราบอกว่า สมัยก่อนท่านเป็นคนขี้เมากินเหล้าทุกวัน วันหนึ่งโยมแม่นำไปพบพ่อท่านคล้ายซึ่งเป็นลุง พ่อท่านคล้ายถามว่าจะขอให้ไม่กินเหล้าได้หรือไม่??? ท่านรับว่าจะไม่กินแต่ในใจตอนนั้นก็รับไปก่อน พ่อท่านคล้ายก็ส่งชานหมากให้ หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก ตั้งแต่นั้นมาไม่รู้สึกอยากกินเหล้าเลย ปัจจุบันชานหมากก็แข็งเป็นหินอยู่ในกุฎิและท่านก็นำมาให้ผมดู ผมดูแล้วมันแข็งจริงๆ จึงคืนท่านไป(คนอื่นคงขอแต่ผมไม่ขอของรักของคนอื่น) และถามว่าท่านมาบวชนานแล้วหรือครับ ท่านบอกผมว่า นานแล้วตอนนี้ก็อายุ 82 ปีแล้ว ผมบอกว่าท่านยังแข็งแรงดีอยู่ ภิกษุชราบอกผมว่า สาเหตุที่ท่านบวชเพราะมีช่วงหนึงที่ท่านป่วยหนักมาก พ่อท่านคล้ายมารักษาให้จนหาย ท่านจึงได้คิดบวชเมือก่อนไม่เคยคิดเลย ท่านเล่าว่า นักเลงสุราจะไม่เดินผ่านวัดพ่อท่านคล้ายเพราะกิติศักดิ์วาจาสิทธิ์ ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า นักเลงสุรา 3 คน นำไหเหล้าจะผ่านวัดก็กลัวพบพ่อท่านคล้าย อ้อมไปหลังวัด ได้เจอกับพ่อท้านคล้าย ท่านถามว่า ถืออะไรมา นักเลงสุราบอกว่าไหน้ำผึ้ง พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า เป็นน้ำผึ้งก็ดี หลังจากออกจากวัดได้นำไหเหล้ามาจะดืมกัน ก็ปรากฎว่าเป็นน้ำผึ้งไม่ใช่เหล้า คนจึงพูดต่อๆกัน
ในส่วนที่ขาถูกตัดข้างหนึ่ง
ตามหนังสือตำนานก็เป็นแบบที่เขาเขียน แต่ผมรู้มาแตกต่างครับจึงขอเล่า พ่อท่านคล้ายในขณะเป็นฆราวาสมีเพือนรักคนหนึ่ง ทั้ง 2 คนจะแต่งงานก็ตกลงกันว่าจะแต่งวันเดียวกัน ก่อนแต่งงาน พ่อท่านคล้ายถูกงูกัด ไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องตัดขาไม่เช่นนั้นขาจะเน่า พ่อท่านคล้ายท่านตั้งใจจะบวชเมื่ออายุมากแล้ว
ท่านกลัวว่าจะไม่ครบ 32 ซึ่งทำให้บวชไม่ได้
ท่านก็ขอบวชก่อนที่จะตัดขา หลังจากบวชแล้วท่านจึงให้หมอตัดขาข้างที่งูกัดทิ้งไป ดังนั้นท่านจึงพิการขาข้างหนึ่ง ส่วนเพื่อนรักของท่านที่สัญญาว่าจะแต่งงานวันเดียวกัน เมื่อพ่อท่านคล้ายไม่สึกจากพระ เพือนของท่านก็ไม่แต่งงาน (คนโบราณเขายึดถือสัจจะมากครับ) เรื่องนี้ที่ผมเล่าอาจต่างจากข้อความกระทุู่้ข้างบนบ้าง......เป็นเรื่องเล่าครับพิจารณาด้วยนะครับ เป็นการแช่ร์ความรู้.....
โดย:
ธี
เวลา:
2015-1-30 13:47
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-1-30 13:48
มีอีกเรื่องเล่าเกี่ยวกับพ่อท่านคล้าย มีเศรษฐีคนหนึ่งไปพบพ่อท่านคล้ายและแต่งตัวแบบคนจนๆ บอกพ่อท่านว่า จะมาขอหวย พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า มีมากแล้วไม่ควรเลยที่จะแต่งตัวเหมือนคนจนมาแบบนี้ เศรษฐีก็หัวเราะย่อมรับว่าพ่อท่านคล้ายพูดถูกต้องและขอของขลัง พ่อท่านคล้ายก็ให้ชานหมากแก่เศรษฐี เรื่องนี้มีคนเล่าให้ผมฟังครับ...พิจารณาด้วย พ่อท่านคล้ายท่านมัญาณวิเศษที่รู้ลักษณะของคนได้ด้วยนะครับ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2015-1-30 15:01
ธี ตอบกลับเมื่อ 2015-1-30 13:30
เยียมครับ แต่มีบางส่วนที่รับรู้มาต่างจากประวั ...
คุรธีเล่าเรื่องขาของพ่อท่านคล้าย มีเหตุผลน่าเชื่อถือครับ
เคยฟังคนใต้ท่านหนึ่งเขาเล่าว่า ท่านใช้มีดตัดขาด้วยตัวท่านเอง
ฟังแล้ว คิดว่า ไม่น่าเป็นไปได้ อย่าลืมว่าช่วงนั้นท่านก็เป็นปถุชนธรรมดายังไม่บรรลุธรรมขั้นสูง
จนสามารถแยกจิตจากกายได้ ถ้าตัดขา ตนเองโดยขาดความรู้ โอกาสเสียชีวิตมีสูงมากครับ
โดย:
ธี
เวลา:
2015-1-30 19:08
ผมฟังมาจากพระภิกษุชราที่พบซึ่งท่านบอกว่าเป็นหลานลูกฟี่สาวพ่อท่านคล้าย ไม่น่าจะผิดพลาดครับ
พ่อท่านคล้าย ท่านเป็นคนไม่ยึดติดกับวัตถุครับ เขาเล่าว่า มีคนชมโบสถ์ที่วัดว่า พ่อท่านสร้างได้สวยงาม พ่อท่านคล้ายบอกว่า "
ท่านไม่ได้สร้าง โยมที่ศรัทธาสร้าง ส่วนท่านเป็นเพียงประธานในการสร้างเท่านั้น
" ถ้าเป็นเจ้าอาวาสบางวัดคงบอกว่า "ของกูๆๆๆๆๆๆ" แน่ๆครับ เหมือนกเขาขันเลย...
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2018-8-13 07:08
โดย:
nubwo23
เวลา:
2018-11-13 15:32
ขอบคุณที่มาแชร์ให้กับทุกคนรับรู้ฉันชอบทุกๆเรื่องราวของคุณมันดีและยอดเยี่ยมมากๆเลย
เที่ยวต่างประเทศ
โดย:
oustayutt
เวลา:
2018-11-15 23:14
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2018-11-16 06:40
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2