Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
10 อันดับโรคร้าย ที่คืบคลานมาพร้อมกับวันสงกรานต์
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:12
ชื่อกระทู้:
10 อันดับโรคร้าย ที่คืบคลานมาพร้อมกับวันสงกรานต์
10 อันดับโรคร้าย ที่คืบคลานมาพร้อมกับวันสงกรานต์
เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลดับร้อนของชาวไทยในความสนุกนั้นอาจมีความร้ายแรงปะปนรวมอยู่ด้วย น้ำที่ใช้สาดกันในวันสงกรานต์ใช่ว่าจะสะอาดเสมอไปไม่ได้มีแค่สิ่งสกปรกแต่มีทั้งเชื่อโรค และโรคร้ายแรงตามมา การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ห่างไกลจากความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยนับเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน toptenthailand จึงได้จัด 10 อันดับโรคร้ายที่มาพร้อมกับน้ำในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์
ที่มา : ทีมงาน toptenthailand
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:13
10. โรคฉี่หนู
ฉี่หนูเป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์ มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควาย ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนูนี้เข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:13
9. โรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
อันตรายจากปรสิตในน้ำสงกรานต์ นีเกลอเรีย (Naegleria) เป็นอะมีบาที่พบในแหล่งน้ำจืด รวมทั้งน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ตามปกติเชื้อนี้อาศัยเป็นอิสระในธรรมชาติ คนได้รับเชื้อโดยบังเอิญโดยการสําลักน้ำทางจมูก เชื้อจะเข้าสู่โพรงจมูกแล้วผ่านเข้าสู่สมอง ทําให้เกิดโรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีไข้ คัดจมูก สูญเสียการรับกลิ่น ปวดศีรษะอย่างมาก คอแข็ง หลังแข็ง คลื่นไส้ อาเจียน ซึมลง ชัก และหมดสติ ผู้ติดเชื้อนีเกลอเรียมักเสียชีวิตหลังจากเริ่มปรากฏอาการภายใน 7 วัน
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:14
8. ภาวะลําไส้อุดตัน ภาวะขาดสารอาหาร
อันตรายจากปรสิตในน้ำสงกรานต์ไข่ของพยาธิไส้เดือน เมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่มีไข่ของพยาธิไส้เดือนปนเปื้อน พยาธิระยะตัวอ่อนที่ออกจากไข่จะเจริญเติบโตเป็นพยาธิระยะตัวเต็มวัยอาศัยที่ ลําไส้เล็ก พยาธิไส้เดือน มักไม่ทําให้เกิดอาการ แต่ในผู้ที่มีพยาธิไส้เดือนจํานวนมากอาจทําให้เกิดภาวะลําไส้อุดตัน ภาวะขาดสารอาหาร บางคนเกิดอาการไอเนื่องจากพยาธิระยะตัวอ่อนเดินทางผ่านปอด นอกจากนี้ของเสียจากพยาธิทําให้เกิดลมพิษได้
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:14
7. โรคนอกลําไส้ได้ทําให้เกิดบิดที่ตับ ปอด และสมอง
อันตรายจากปรสิตในน้ำสงกรานต์ เอนทะมีบา (Entamoeba) ระยะที่พบในน้ำเป็นระยะซีสต์ เมื่อเข้าสู่ร่างกายเชื้อจะออกจากซีสต์ แล้วเจริญเติบโตเป็นระยะโทรโฟซอยต์ ทําให้เกิดแผลที่ลําไส้ใหญ่ และถ่ายอุจจาระเหลวเป็นมูกปนเลือดเก่า กลิ่นเหม็นเน่า เชื้อเอนทะมีบาอาจก่อโรคนอกลําไส้ได้ทําให้เกิดบิดที่ตับ ปอด และสมอง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:14
6. โรคลมแดดหรือ ฮีตสโตรก
เป็นอีกโรคที่คนมักมองข้ามและคิดว่าอาจจะไม่ร้ายแรงมาก แต่แท้จริงแล้วอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว โดยโรคนี้คือการเป็นลมจากอากาศร้อน ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส เกิดได้ในผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อนจัดทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเป็นเวลานานๆ ร่างกายปรับตัวไม่ทัน สูญเสียเหงื่อมาก ระดับความเข้มข้นของเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นเกินไป อาการเบื้องต้นได้แก่ รู้สึกกระหายน้ำมากๆ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หมดสติได้
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:15
5. โรคผิวหนัง
ได้แก่ กลาก เกลื้อน ผดร้อน มักจะเกิดขึ้นได้ในหน้าร้อน จากการไม่รักษาความสะอาดของผิวหนัง และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเล่นน้ำที่ไม่สะอาดก็จะเกิดโรคได้ง่ายมาก จึงควรรักษาความสะอาดร่างกาย ใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาหรือคับจนเกินไป จะมีได้ทั้ง ตุ่มใส ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ผื่นวงแดง ผื่นจุดสีขาว คันตามจุดอับชื้น หากมีผื่นที่น่าสงสัยให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:15
4. โรคตาแดง
เป็นอีกโรคที่พบบ่อย เมื่อเราเล่นน้ำแล้วน้ำที่ไม่สะอาดที่มีเชื้อโรคปะปน เช่น น้ำในคลอง น้ำบาดาล หากน้ำกระเด็นเข้าตาและมือเราที่ไม่สะอาดอาจไปขยี้ตาก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบบวมแดงขึ้นมาได้ ถ้ามีอาการเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล ปวดตา มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา หลังการเล่นน้ำสงกรานต์ ควรให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจลุกลามรุนแรง ควรให้บุตรหลานล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที หรืออาจลืมตาในน้ำและกลอกตาไปมา เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออก แต่ถ้าสิ่งแปลกปลอมนั้นมีสารเคมีปนเปื้อนอยู่ด้วย ควรล้างโดยให้น้ำไหลผ่านเข้าตา หรือถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการและรับการรักษา
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:16
3. ปอดอักเสบ
เนื่องจากการเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน ยิ่งในต่างจังหวัดมีการเล่นติดต่อกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นด้วยแล้ว ควรต้องระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำและในกลุ่มเด็ก ไม่ควรสาดแรงจนเกินไปอาจทำให้สำลักน้ำ จนกลายเป็นที่มาของโรคปอดอักเสบได้ หากรู้สึกมีไข้หรือไม่สบายควรงดเล่นน้ำทันที เพราะจะทำให้อาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งการเล่นน้ำสงกรานต์ เล่นกัน 3-4 วัน การพักผ่อนก็น้อย ดังนั้น ผู้เล่นน้ำสงกรานต์นาน ๆ จึงเสี่ยงต่อโรคติดต่อเฉียบพลัน ระบบหายใจ ได้แก่ โรคหวัด คออักเสบ หูอักเสบ หลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:16
2. โรคไข้หวัด
อีกโรคหนึ่งที่มักพบบ่อยเมื่อเล่นน้ำสงกรานต์นาน ๆ คือ โรคหวัด และไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากอุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ร้อนจัดจากอากาศร้อน เย็นจัดจากการสาดน้ำ โดยเฉพาะน้ำเย็นจัด จากการละลายของน้ำแข็ง อาการเริ่มต้นของโรคหวัดจะมีอาการน้ำมูกใส คัดจมูก จาม อาจมีตัวร้อนเล็กน้อยไม่สบายตัว ไอ และหลอดลมอักเสบตามมา ต่อมาน้ำมูกจะข้นขึ้น อาการไอมากขึ้น หลักจากนั้นอาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ลดลงและหายเองได้ 1-2 สัปดาห์ ถ้ารู้สึกป่วยเป็นหวัด ให้หยุดเล่นน้ำสงกรานต์และพักผ่อนอยู่กับบ้าน หากทนเล่นน้ำสงกรานต์ต่อไปโรคอาจลุกลาม อาจเป็นไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมในที่สุด ผู้ปกครองควรสังเกตอาการป่วยของบุตรหลาน ถ้ามีอาการแทรกซ้อน เช่น หอบ ไข้สูง ควรพาไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่
โดย:
kit007
เวลา:
2014-4-9 11:17
1. โรคอาหารเป็นพิษ
โรคท้องร่วง โรคอหิวาตกโรค โรคไวรัสตับอักเสบเอ เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนและแห้งเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียส่งผลให้อาหารที่ทำออกมารับประทานนั้นอาจบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะพวกแกงที่มีส่วนผสมของกะทิหรือนมด้วยแล้ว รวมถึงการทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อโรค อาจทำให้เกิดโรคดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน แต่หากมีภาวะขาดน้ำรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้
ที่มา
http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20140409094041531
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2