Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-3-10 09:37
ชื่อกระทู้: ขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ



[youtube]jDApXJtisOg[/youtube]



มณิกัณฐชาดก ชาดกว่าด้วยขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ใน พระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ซึ่งมีทรัพย์สมบัติมาก แม้ในเวลาพระโพธิสัตว์นั้นเที่ยววิ่งเล่นไ ด้ สัตว์ผู้มีบุญอีกผู้หนึ่งก็บังเกิดในครรภ์ มารดาของ พระโพธิสัตว์นั้น พี่น้องทั้งสองนั้นเจริญวัยแล้ว มารดาบิดาก็ทำกาลกิริยา จึงมีความสังเวชสลดใจพากันบวช เป็นฤๅษีสร้างบรรณศาลาอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำคง คา บรรดาฤๅษีทั้งสองนั้น บรรณศาลาของฤๅษีผู้พี่ชายอยู่เหนือแม่น้ำค งคา บรรณศาลาของฤๅษีผู้น้องชายอยู่ใต้แม่น้ำคง คา

อยู่มาวันหนึ่ง .

พระยานาคนามว่ามณิกัฏฐะออกจากนาคพิภพ จำแลงเพศเป็นมาณพน้อยเที่ยวไปตามฝั่งแม่น้ำคงคา ไปถึงอาศรมของฤๅษีผู้น้อง จึงไหว้แล้วนั่ง ส่วนข้างหนึ่ง ต่างกระทำสัมโมทนียกถาได้เป็นผู้สนิทสนมคุ้นเคยกัน ไม่อาจเว้นว่างห่างกัน. มณิกัณฐนาคมายังสำนักของพระดาบส ผู้น้องแล้วนั่งสนทนาปราศัยกันเมื่อเวลาจะ ไป ด้วยความสิเนหาพระดาบส จึงเปลี่ยนแปลงอัตตภาพแล้วเอาขนด หางตระหวัดรัดรอบพอบรรเทาความสิเนหานั้นแล้วจึงคลายร่างไหว้พระดาบแล้วกลับไปนาคพิภพ ของตน เพระ ความกลัวพระยานาคนั้น พระดาบสจึงซูบผอมเศร้าหมอง ผิวพรรณไม่ผ่องใส เกิดเป็นโรคผอมเหลือง มีเนื้อตัว สะพรั่งไปด้วยแถวเส้นเอ็น. วันหนึ่ง จึงไปหาดาบสผู้พี่ชาย ลำดับนั้น ดาบสผู้พี่ชายจึงได้ถามดาบสผู้น้องชายนั้น ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญเพราะเหตุไรท่านจึงซูบผ อม เศร้าหมอง มีผิวพรรณทราม เกิดเป็นโรคผอมเหลือง เนื้อตัวสะพรั่ง ด้วยแถวเส้นเอ็น ดาบสผู้น้องชายจึงบอกเรื่องราวนั้นแก่ดาบส ผู้พี่ชาย ผู้อันดาบสผู้พี่ชายถามว่า ท่านผู้เจริญ ก็ท่านไม่ต้องการให้พระยานาคนั้นมาหรือ จึงตอบว่า ไม่ต้องการ เมื่อดาบสผู้พี่ชายกล่าวว่า ก็พระยานาคนั้น เมื่อมายังสำนักของท่านประดับเครื่องประดั บอะไรมา จึงกล่าวตอบว่า ประดับแก้วมณีมา....


โดย: bigbird    เวลา: 2014-3-10 12:04
รออ่านต่อเลยก๊าบพี่ศร
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-3-10 16:51
ขอบคุณครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-3-10 21:39
bigbird ตอบกลับเมื่อ 2014-3-10 12:04
รออ่านต่อเลยก๊าบพี่ศร



ขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ



ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่อัคคาฬวเจดีย์เมืองอาฬวี ทรงปรารภกุฏิการสิกขาบทที่ภิกษุชาวเมืองอาฬวีพากันสร้างกุฏิด้วยการเที่ยวขอไม่มีขีดจำกัด เป็นเหตุให้ชาวเมืองอาฬวีเดือดร้อนเห็นพระภิกษุที่ไหนก็กลัวหลบหนีหน้าไปหมด พระองค์จึงตรัสติเตียนพวกภิกษุว่า " ภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าการขอ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้พวกนาคในนาคภิภพ ก็ไม่ชอบใจ " แล้วทรงนำอดีตนิทานมาสาธก ว่า...


     

   กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในตระกูลมั่งคั่งมีทรัพย์สมบัติมากตระกูลหนึ่ง ท่านมีน้องชายอยู่คนหนึ่งรักกันมาก ต่อมาเมื่อมารดาบิดาเสียชีวิตแล้ว พราหมณ์สองพี่น้องก็พากันสละทรัพย์สมบัติบริจาคทานออกบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญพรตอยู่ฝั่งแม่น้ำคงคา ฤาษีพี่ชายอยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำ ส่วนฤาษีน้องชายอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำ

  

     อยู่มาวันหนึ่ง พญานาคมณิกัฏฐะได้แปลงเพศเป็นชายหนุ่มเที่ยวเล่นไปตามฝั่งแม่น้ำคงคา ผ่านไปถึงอาศรมของฤาษีผู้น้องจึงแวะเข้าไปสนทนาปราศรัยด้วยเกิดความสนิทสนมคุ้นเคยชอบพอกันกับฤาษีผู้น้องนั้น จึงเทียวมาเยี่ยมเยือนทุกวันมิได้เว้น เมื่อสนทนาเสร็จก่อนจะกลับก็จะคืนร่างเป็นพญานาคเอาขนดหางตะหวัดรัดรอบฤาษีแผ่พังพานไว้เหนือหัวด้วยความสิเนหาในฤาษีนั้น นอนพักอยู่หน่อยหนึ่งแล้วค่อยคลายร่างออกไหว้ฤาษีแล้วจึงกลับนาคพิภพ จะเป็นเช่นนี้ประจำ

  

     ฤาษีนั้นทุกครั้งที่ถูกรัดตัวเกิดความกลัวจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับจนร่างกายซูบซีดผ่ายผอมลงทุกวัน วันหนึ่ง ท่านได้แวะไปหาฤาษีพี่ชาย เล่าเรื่องให้ฟังแล้วปรับทุกข์กับพี่ชายว่า " ผมไม่อยากให้พญานาคมาหาผมเลย พี่ช่วยผมหน่อยซิ" พี่ชายถามว่า " พญานาคเวลามา มีเครื่องประดับอะไรไหมละ" " ประดับแก้วมณีมาครับพี่" ท่านตอบพี่ชาย ฤาษีพี่ชายจึงแนะนำว่า "


  เมื่อพญานาคมาถึงอาศรมของท่าน ยังไม่ทันได้ไหว้ ท่านก็ขอแก้วมณีของมันเลย มันก็จะหนีไป วันที่สองพอมันมาถึงประตูอาศรมเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีของมันอีก พอถึงวันที่สาม ท่านไปยืนดักรอที่ฝั่งแม่น้ำ พอมันโผล่หัวขึ้นจากฝั่งแม่น้ำเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีอีก ทีนี้แหละมันก็จะไม่มารบกวนท่านอีกเลย "  


     ฤาษีผู้น้องได้ทำตามนั้น ในวันที่ ๓ พญานาคขณะยืนอยู่ในน้ำเมื่อถูกฤาษีขอแก้วมณีอีก จึงพูดว่า " ท่านฤาษี ข้าวและน้ำอันไพบูลย์ยิ่งมีแก่ข้าพเจ้าก็เพราะแก้วมณีดวงนี้ ข้าพเจ้าจักให้แก้วมณีแก่ท่านได้อย่างไร ท่านก็ยิ่งขอหนักขึ้น ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจักไม่มาอาศรมของท่านอีกแล้วละ เมื่อท่านขอแก้วมณีดวงนี้ทำให้ข้าพเจ้าหวาดเสียวเหมือนชายหนุ่มถือดาบอันคมกริบ "


     กล่าวจบก็ดำน้ำลงไปนาคพิภพไม่กลับมาที่นั้นอีกเลย


      ฝ่ายฤาษี เมื่อพญานาคไปแล้วไม่มาหาอีกกลับคิดถึง เกิดความเศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงยิ่งซูบผอมลงไปมากกว่าเดิมอีก หลายวันต่อมาฤาษีพี่ชายอยากจะทราบเรื่อง จึงแวะมาที่อาศรมน้องชาย เมื่อเห็นน้องชายแล้วยิ่งตกใจจึงถามถึงสาเหตุ ฤาษีน้องชายจึงตอบเป็นคาถาว่า


   
" บุคคลไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา
       อนึ่ง เพราะขอเกินไปย่อมเป็นที่เกลียดชัง
       นาคราชถูกฤาษีขอแก้วมณี จึงไม่หวนกลับมาให้ฤาษีเห็นอีกเลย "



     ฤาษีพี่ชายได้ปลอบน้องชายให้หายเศร้าเสียใจแล้วจึงกลับอาศรมของตน ฤาษีสองพี่น้องบำเพ็ญฌานสมาบัติได้ไปเกิดในพรหมโลกในที่สุด



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
โดยธรรมชาติของคนและสัตว์ไม่ชอบการขอ ควรขอเท่าที่จำเป็นและขอในสิ่งที่เขาจะสามารถให้ได้เท่านั้น

โดย: bigbird    เวลา: 2014-3-11 17:43
รู้สึกผิดที่ติสใส่ญาติ
โดย: matmee2550    เวลา: 2014-3-11 20:47
เยี่ยมๆๆๆๆ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2