Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขาพระวิหาร
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:43
ชื่อกระทู้:
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขาพระวิหาร
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขาพระวิหาร
วันที่หลายคนรอคอยก็มาถึง วันที่ศาลโลกจะพิจารณาข้อพิพาทระหว่างดินแดนไทยและกัมพูชาที่ปราสาทพระวิหาร จังหวัดศรีษะเกษ หลายคนคงหวั่นใจว่าปราสาทพระวิหารจะตกเป็นของประเทศใดกันแน่ เราก็ไม่สามารถทราบได้ แต่สิ่งที่ทำให้น่าคิดอีกอย่างคืออยู่ๆ ศาลโลกเลื่อนการพิจารณาตัดสินคดีเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน ช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีวิกฤตการเมืองนิรโทษกรรมสุดซอยพอดี คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องที่บังเอิญจริงๆ หรือมีการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้ากันแน่ วันนี้ทาง toptenthailand จึงลองค้นหาเหตุผลที่ว่า ทำไมเขาพระวิหารต้องตกเป็นของประเทศไทย พอสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:43
10. ความสัมพันธ์
สุดท้ายนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าประเทศใดจะชนะคดีเขาพระวิหาร แต่สิ่งที่สำคัญคือวิถีชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศที่ควรคำนึงถึงมากที่สุด
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:44
9. การดำรงชีวิต
การดำรงชีวิตของชาวไทยชายแดนกัมพูชาตอนนี้ค่อนข้างสงบ ทำการค้าขายปกติอาจมีบ้างที่เตรียมเก็บข้าวของแล้วเพราะหวั่นเหตุปะทะ แต่โดยพื้นฐานแล้วการดำรงชีวิตของทั้งสองประเทศค่อนข้างสงบ หากแต่คราวนี้เกิดการแบ่งดินแดนจริงคงกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านทั้งกัมพูชาและไทยอย่างแน่นอน
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:44
8. การเมือง
สำหรับการเมืองในฐานะประชาชนขอให้มองเป็นสองทางทั้งได้ประโยชน์และเสียประโยชน์อย่างมหาศาลกับเรื่องคดีเขาพระวิหาร หากทางฝ่ายไทยชนะคดีนี้การเมืองที่ร้อนระอุอยู่ในขณะนี้อาจมีข่าวดีขึ้นมาบ้าง แต่หากกัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีนี้ คงมีหลายคนตั้งคำถามสำหรับประเด็นนี้
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:44
7. ศรัทธา
ในการสร้างปราสาทพระวิหารสมัยนั้นต้องรวบรวมอำนาจและความเชื่อของคนในละแวกนั้นเข้าด้วยกัน เพราะในอดีตแถบนั้นมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่รวมกัน พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จึงโปรดให้สร้างเขาพระวิหารขึ้น เพื่อเป็นจุดยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมจิตใจของ ชาวบ้านซึ่งจะทำให้การปกครองง่ายขึ้นด้วยทั้งไทยและกัมพูชา
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:44
6. ประวัติศาสตร์
เพราะความเก่าแก่ของปราสาทพระวิหารที่ใช้การสร้างอย่างยาวนนานหลายชั่วอายุคน จึงทำให้มีประวัติศาสตร์ที่น่าติดตามมากมายตั้งแต่การสร้างที่น่าอัศจรรย์ รวมถึงการปล่อยทิ้งร้างในสมัยสงครามที่ไม่ค่อยมีใครได้รับรู้มากนัก
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:45
5. มรดกทางวัฒนธรรม
ถึงแม้ตัวปราสาทจะถูกสร้างขึ้นโดยชาวกัมพูชา แต่ด้วยเขตแดนที่สร้างนั้นอยู่บนพื้นที่ทับซ้อนของประเทศไทย คนไทยจึงถือเป็นสถานที่สำคัญที่ใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจมายาวนาน เรียกได้ว่าเห็นมาตั้งแต่จำความได้ จึงไม่แปลกใจที่ประชาชนชาวไทยจะยกย่องให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ที่คนไทยต้องช่วยกันปกป้องดูแลอีกแห่งหนึ่ง
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:45
4. เป็นแหล่งท่องเที่ยว
เขาพระวิหารถือเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และอยู่คู่ประชาชนสองประเทศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ปี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงบรรยากาศอันงดงาม อีกทั้งการท่องเที่ยวเขาพระวิหารสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศพร้อมกับสร้างรายได้ให้กับประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:45
3. ไม่เสียดินแดน
เป็นที่ทราบกันว่าตัวปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศกัมพูชา แต่ทางขึ้นปราสาทกลับอยู่ทางฝั่งของประเทศไทย สิ่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่กัมพูชาร้องขอต่อศาลโลกเพื่อครอบครองเขตทางขึ้นที่อยู่ฝั่งไทยและจากการสืบค้นแหล่งข้อมูลที่สำคัญๆ ทำให้ทราบว่าแต่เดิมเขาพระวิหารอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์ของไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนกัน หากศาลโลกมีการตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะนั่นหมายถึงประเทศไทยต้องเสียดินแดนจำนวนหนึ่งไป
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:45
2. ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
เป็นที่ทราบกันว่าเขตชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถสร้างรายได้ให้กับอำเภอกันทลักษ์อย่างมากมาย ทำให้เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของชาวกันทรลักษ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกส่วนสำคัญที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลคือแหล่งปิโตเลี่ยมที่อยู่ในเกาะกูด นั่นหมายถึงหากเราชนะคดีในข้อพิพาทดังกล่าวนี้จะทำให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
โดย:
kit007
เวลา:
2014-3-9 09:46
1. ประวัติเขาพระวิหาร
เดิมทีปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตการปกครองของประเทศไทย ขึ้นอยู่กับบ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ (ค.ศ.1899, ร.ศ.-118) ต่อมาเมื่อปี 2450 จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส(ปกครองเขมรขณะนั้น) อาศัยแสนยานุภาพทางทหารบีบให้รัฐบาลสยาม (ไทย) ยอมเขียนแผนที่กำหนดให้เขาพระวิหารอยู่ในดินแดนของกัมพูชา ในการทำสนธิสัญญาเพิ่มเติม รัฐบาลสยามก็ยอมรับแผนที่ที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นมาแต่โดยดีโดยมิได้ทักท้วง (ซึ่งแต่เดิมถ้าแบ่งตามสันปันน้ำเทือกเขาพนมดงรัก เขาพระวิหารจะอยู่ในฝั่งไทยแต่พอแบ่งตามแผนที่ใหม่ของปี 1907จะอยู่ในฝั่งกัมพูชา) วันที่ 6 ตุลาคม 2502 รัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุแห่งกัมพูชา ภายใต้การหนุนหลังของฝรั่งเศส ได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลก ขอให้ไทยถอนกองกำลังทหารออกจากเขาพระวิหาร และขอให้ศาลชี้ขาดว่าอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารคืน (ยื่นฟ้องทั้งหมด 73 ครั้ง) ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ศาลโลกได้ตัดสินให้อธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศกัมพูชา ด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียง โดยบริเวณดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่
ที่มา
http://www.toptenthailand.com/topten/detail/20131111170058154
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2