Baan Jompra
ชื่อกระทู้: "นักมวยขมังเวทย์" [สั่งพิมพ์]
โดย: AUD เวลา: 2014-3-2 12:38
ชื่อกระทู้: "นักมวยขมังเวทย์"
ถ้าหากสืบค้นจากประวัติยอดมวยไทยในอดีต นักมวยที่ขึ้นชื่อว่ามีเครื่องราง “ของขลัง” ประจำตัวไว้ใช้เวลาชิงกับคู่ชก คนหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงเสมอก็คือ “หลุย เดชศักดา”
เจ้าของฉายา “หมอผี” นั่นเอง
หลุย เป็นมวยดังจากโคราช มีหมัดอันหนักหน่วง เคยน็อกนักมวยชั้นนำในรุ่นเฟเธอร์เวทมามากมาย และ ว่ากันว่า หลุยส์ ยังมีเวทมนต์คาถาอาคม ที่สามารถจะเสกสะกดให้คู่ต่อสู้งงงวยจนต้องตกเป็นเหยื่อกำปั้นไปในที่สุด
และก่อนชกทุกครั้ง หลุยจะเริ่มต้นพิธีทางไสยศาสตร์เสียก่อน โดยจะขึ้นไปนั่งบริกรรมร่ายคาถาปลุกตัวบนอัฒจันทร์ชั้นสาม จากนั้นจึงปีนข้ามอัฒจันทร์ลงมาบนเวทีชก โดยไม่ยอมเดินลอดอัฒจรรย์ขึ้นเวที เพราะกลัวว่าจะทำให้ของขลังเสื่อม
พฤติกรรมอันแปลกประหลาดสร้างความฮือฮาให้กับนักมวยยุคนั้นเป็นอย่างมาก จนถูกสวมสมญานามว่า “หมอผี” ในเวลาต่อมา
แม้จะเป็นหนึ่งในนักมวยหมัดหนัก (ชิปโผง) แต่ระยะหลัง หลุย เริ่มปล่อยตัวกินเหล้าหัวราน้ำ จนวันหนึ่งตกเป็นข่าวใหญ่ว่าคลุ้มคลั่งฆ่าเมียตาย ติดคุกอยู่ร่วมยี่สิบปี พ้นโทษมาก็ยังเลิกเหล้าไม่ได้อีก การงานไม่ทำ จนที่สุดวันหนึ่งก็เสียชีวิตนอนหัวใจวายตายอนาถอยู่ข้างสนาม
อีกคนที่เป็นนักมวยที่เกี่ยวข้องกับมนต์ขลังก็ไม่พ้น ปราบธรณี เมืองสุรินทร์ เจ้าของฉายา “หมัดผีพราย” ปราบธรณี เมืองสุรินทร์ สมัยที่ชกอยู่แถวอีสานใต้ ชกคู่ต่อสู้ไม่น็อกก็นับแทบทุกราย ซึ่งแต่
ละคนต่างเล่าตรงกันว่า ขณะที่อยู่บนเวทีตนรู้สึกงงๆ คล้ายตกอยู่ในกฤตยาคม หรืออำนาจลึกลับ บางทีเห็นปราบธรณีเป็นสองหน้าสามหน้า ไม่รู้หน้าไหนจริงหน้าไหนปลอม เลยชกไม่ถูกและบางทีก็เห็นมีคนแก่ๆ มาเสกคาถาเดินวนอยู่รอบๆ สังเวียนอีกด้วย เป็นเรื่องแปลกๆ พิลึกๆ ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในชีวิต
หรืออย่างนักมวยฝีมือดีรุ่นเมื่อ 3-40 ปีจากพิษณุโลกอย่าง “ณรงค์ พิษณุราชันย์” เวลาก่อนขึ้นชกชอบสวมสร้อยเส้นโตห้อยพระเครื่องหลายองค์ ยังไม่นับเครื่องรางของขลังประเภทอื่นทั้งผ้ายันต์ ท่องคาถา สารพัดสารพัน ถือเป็นนักมวย “เล่นของ” คนหนึ่ง
แต่มีอยู่หนหนึ่ง ที่ณรงค์ ไปชกชิงแชมป์ภาคที่เกาหลี กับ โจ แด ยูห์ ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมีใครแย่งแชมป์ภาคของนักชกโสมได้เลยในการชกในบ้านตัวเอง นับจำนวนดูแล้วเป็นจำนวนถึง 48 คน
และยังไม่เคยปรากฎในประวัติศาสตร์ของวงการมวยเกาหลีที่นักชกต่างชาติเอาชนะ หรือ แม้แต่เสมอได้เลย เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่า กรรมการผู้ตัดสินใช้กรรมการเกาหลีทั้งหมดนั่นเอง
ถึงวันชก ณรงค์ ไม่ยอมเอาสร้อยเงินห้อยพระ ผ้ายันต์ หรือ เครื่องรางของขลังใดๆ ติดไปที่สนามมวยเลย ผลปรากฎว่า ณรงค์ แพ้คะแนน แต่แบบไม่เจ็บตัวอะไรเลย
แพ้แต่ไม่ถึงกับเป็นผลเสีย แต่เป็นผลดีเสียมากกว่า
เพราะ ณรงค์ ยืนต่อสู้กับ โจ แด ยูห์ ได้ครบ 12 ยก เป็นคนแรกในรอบปี นักชกชาวไทยจึงได้รับเกียรติเลี้ยงอาหารค่ำอย่างโก้หรู ขนาดเหมาเรือนเกาหลีเลี้ยงกันเลยทีเดียว มีเกอิชา นั่งคอยป้อนเหล้ายาอาหารอย่างพร้อมพรั่ง
การไม่ยอมผ้ายันต์ใส่มือ ไม่ปลุกเสกของขลัง สู้ เลยกลายเป็นผลดีไปเสียฉิบ
อย่างนี้ก็มี
ที่มา http://www.sportclassic.in.th/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99/%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95/
โดย: oustayutt เวลา: 2014-3-2 17:52
ดีจิง^^
โดย: Sornpraram เวลา: 2014-3-2 18:26
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2014-3-2 17:52
ดีจิง^^
เกิดทัน หรอเสี่ยป้อม
โดย: oustayutt เวลา: 2014-3-2 20:58
คนแรกไม่ทันแน่ๆแต่คนหลังๆไม่แน่ครับ^^
โดย: sriyan3 เวลา: 2014-3-3 08:33
ขอบคุณคร้าบ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) |
Powered by Discuz! X3.2 |