Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
เพชรบลูไดมอนด์
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2014-2-6 12:15
ชื่อกระทู้:
เพชรบลูไดมอนด์
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-2-6 12:19
เพชรบลูไดมอนด์
เพชรล้ำค่าชุดนี้ทางเชื้อพระวงศ์ของซาอุฯ ต้องการได้คืนมากที่สุด เนื่องจากเป็น "เพชรอาถรรพณ์" แม้กระทั่งช่างที่เจียระไนก็ต้องมีอันเป็นไปสาบสูญไปจากโลก จึงเป็นเพียงเพชรชุดเดียวที่มีอยู่ในโลก และไม่ว่าจะตกไปอยู่ในมือใคร กษัตริย์ซาอุฯ ก็จะจำได้เสมอ เพราะมีการทำตำหนิไว้ด้วย "แสงอินฟราเรด" อยู่ภายในใจกลางของเม็ด แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครหาพบ..???
แม้จะผ่านมาเป็นเวลานานหลาย ปีแล้ว ทว่า คดีเพชรซาอุฯก็ยังถือเป็นคดีที่สำคัญคดีหนึ่งของไทย ที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างชนิดไม่มีใครคาดถึง ทั้งการที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดิอาระเบียมีรอยร้าวลึกมาจนถึงปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของประเทศที่เสียไป ความด่างพล่อยของวงการตำรวจไทย
นายเกรียงไกร เตชะโม่ง (เสื้อคลุมสีดำ) กำลังให้การกับตำรวจ
การตามหาเพชรเม็ดสำคัญ คือ บลูไดมอนด์ กลับมาตามที่ทางประเทศซาอุดิอาระเบียร้องขอ ก็เป็นเรื่องที่ยากพอๆกับการงมเข็มในมหาสมุทร
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยชาวลำปางที่ทำงานอยู่ในพระราชวังของ กษัตริย์ไฟซาล (King Faisal) แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ขโมยเครื่องเพชรของ เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด (Prince Faisal Bin Fahd Bin Abdul Aziz) มูลค่าหลายร้อยล้านบาทหนีกลับมาประเทศไทย ซึ่งนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรม "คดีเพชรซาอุฯ" อันลือลั่น
[youtube]c4KdiBaMDtc[/youtube]
หลังจากนายเกรียงไกรกลับมาประเทศไทยก็ได้นำเพชรที่ได้มาไปกระจายขายตามที่ต่างๆ หลังจากนั้นทางการซาอุดิอาระเบียก็แจ้ง มายังรัฐบาลไทย โดยในระยะแรกให้การปฏิเสธ
จากนั้นจึงตั้งคณะกรรมการสืบสวนมอบหมายให้ พล.ต.ต. ชลอ เกิดเทศ เป็นหัวหน้า ขณะนั้นนายเกรียงไกรยังไม่ถูกจับกุม นสพ.ลงข่าวเพิ่มความกดดันให้กับผู้ต้องหาอย่างมาก เพราะถ้าถูกจับตัวส่งไปก็ถูกแขวนคอตายสถานเดียว นายเกรียงไกรเห็นตัวอย่างในประเทศซาอุฯมาแล้ว ขนาดลักทรัพย์ธรรมดายังถูกตัดมือ แต่นี่ลักในพระราชวังกษัตริย์ไฟซาลผู้มีอำนาจ ก็คงจะถูกประหารชีวิต
ดังนั้น นายเกรียงไกรจึงหนีสุดชีวิต ถึงขนาดพกยาไซยาไน้ท์ติดตัวตลอดเวลา ถ้าถูกจับตัวได้ก็จะรีบกินยาไซยาไน้ท์ฆ่าตัวตายทันที
ไม่นานตำรวจก็สามารถจับกุมตัวนายเกรียงไกรได้ พร้อมของกลางเป็นเพชรจำนวนหนึ่ง สำหรับส่วนที่หายไปทีมสืบสวนก็ต้องดำเนินการตามหาต่อ
ทางการไทยตัดสินใจไม่ส่งไปดำเนินการที่ซาอุฯ เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายที่นั่นรุนแรงเกินไป โดยศาลได้พิพากษาตัดสินจำคุก นายเกรียงไกร เตชะโม่งในข้อหาลักทรัพย์ 7 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 3 ปีครึ่ง สรุปติดจริงไม่ถึง 3 ปี
ในตอนนั้นกระแสสังคมส่วนหนึ่งเห็นว่า โทษที่ได้รับ ไม่สาสมกับสิ่งที่เขาได้กระทำไว้ แต่คดีถึงที่สุดแล้ว เหลือแค่การตามหาเพชรที่เหลือมาคืน คดีก็ควรจะจบลงแค่นั้น
แต่ต่อมา เรื่องมาแดงขึ้นอีกครั้งเมื่อทางซาอุดิอาระเบียพบว่าเพชรบางส่วนที่ถูกส่งคืนเป็นของปลอม สร้างความไม่พอใจให้ราชวงศ์ซาอุดิอารเบียเป็นอย่างมาก รัฐบาลไทยต้องเจรจาทางการทูต สถานการณ์ในตอนนั้นตรึงเครียดขนาดประเทศซาอุดิอาระเบียไม่รับแรงงานไทยเข้าประเทศ และไม่ยอมให้คนซาอุดิอาระเบียไปประเทศไทย
จากการไล่จับกุมผู้ที่รับซื้อเพชรจากนายเกรียงไกร เนื่องจากของกลางที่มีจำนวนมาก ทำให้ยากแก่การตรวจสอบว่ามีของกลางบางส่วนหายไปหรือมีการสับเปลี่ยนระหว่างการขนย้าย ซึ่งจากการสืบสวนในภายหลังพบว่า เพชรบางส่วนที่หายไป เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในคดีนี้เองที่เป็นคนยักยอกไป
ทีมสืบสวนคดีเพชรซาอุฯที่นำโดยพล.ต.ต. ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมและตั้งกรรมการสอบ แต่เนื่องจากทางการไทยต้องการที่จะนำเพชรที่เหลือกลับคืนมาให้ได้ตามที่ซาอุดิอาระเบียต้องการ
โดยเฉพาะ เพชร บลูไดมอนด์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ มีความงาม และมีมูลค่ามากที่สุด เนื่องจากเป็นเพียงเพชรชุดเดียวที่มีอยู่ในโลก และไม่ว่าจะตกไปอยู่ในมือใคร "กษัตริย์ซาอุฯ" ก็จะจำได้เสมอ เพราะมีการทำตำหนิไว้ด้วย "แสงอินฟราเรด" อยู่ภายในใจกลางของเม็ด
จนถึงวันนี้ เพชรบลูไดมอนด์ ยังคงหายสาบสูญ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2