วจีกรรมทางอินเตอร์เน็ตมีผลมากแค่ไหน คุณกลางชลเขียนบทบก.ได้ดีมากเลยในความคิดของเรา มีหลายๆ ฉบับที่อ่านแล้วรู้สึกโดนใจ รวมถึงฉบับล่าสุดนี้ด้วย ( ฉบับที่ ๐๒๘ พฤหัสบดีที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ) เลยคัดมาให้อ่านกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ------------------------------------------- กลางชล สวัสดีค่ะ หลายวันก่อนนี้ มีน้องที่รู้จักกัน เดินเข้ามาถามคำถามพร้อมกับสีหน้ากังขาแกมกังวลว่า "พี่คะ... ถ้าหนูสนใจอยากรู้อยากเห็นเรื่อง เมย์-อั้ม-เข็ม มาก ๆ นี่หนูจะบาปมั้ยคะ?" "คือหนูก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะคะ แต่มันแบบอยากรู้อยากอ่านเรื่องของเขาเงี้ยะค่ะ..." : ) ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาคงไม่มีข่าวไหนเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ หรือข่าวเกรียวกราวที่พูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมือง ได้เท่าข่าวนี้อีกแล้วนะคะ แม้แต่หนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้วางตัวอยู่ในสื่อประเภทมายาหรือข่าวชาวบ้าน ก็ยังยกพื้นที่หน้าหนึ่งหรือกระทั่งพาดหัวให้กับข่าวนี้กับเขาไปด้วยจนหลายคนแปลกใจ แต่กว่านิตยสารของเราจะไปถึงคุณผู้อ่าน ข่าวนี้ก็คงซาและเงียบหายไปแล้วล่ะนะคะ : ) ถ้าจะให้เท้าความสั้น ๆ สำหรับคนที่ไม่ทันได้ติดตามข่าวคราวกันก็คือ เป็นเรื่องที่มาจากดาราชายคนหนึ่ง ที่ภายหลังออกมายอมรับว่าคบดาราสาวสองคนซ้อนกัน และเหตุที่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้น ก็เพราะดาราสาวฝ่ายหนึ่ง ไปเห็นรถที่เธอและดาราชายผู้นั้น เป็นเจ้าของร่วมกัน จอดอยู่ในห้างดัง ในขณะที่ดาราชายบอกเธอไว้ก่อนนั้นว่า เอารถไปซ่อม ด้วยความงุนงง เธอจึงชวนดาราสาวเพื่อนรักอีกคนมาดักรอดูด้วยกันว่าใครเป็นคนขับ ก็ปรากฏว่าเป็นดาราสาวอีกคนหนึ่ง ที่ดาราชายคบหาอยู่ด้วยอีกข้างนั่นเอง ความวุ่นวายเกิดขึ้น เมื่อมีการขอรถคืนเดี๋ยวนั้น มีการรั้งประตูรถไว้ไม่ให้ขับออกไป และเมื่อดาราสาวผู้ขับขี่อยู่ก่อน รู้สึกถูกคุกคาม ก็พยายามดิ้นรนขับหนีออกไปจากเหตุการณ์ จากนั้น... ก็เป็นข่าวพาดหัวหน้าหนังสือพิมพ์ว่า นางร้ายนอกจอตบตีกันในที่จอดรถห้างดัง ตามมาด้วยการแถลงข่าวของฝ่ายต่าง ๆ เพื่ออธิบายเหตุผลและความจริงจากฝั่งของตน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับดารา ขนาด "ความจริง" ยังต้องมีคำว่า "จากฝั่งของตน" ต่อท้ายเลยนะคะเนี่ย... : ) เรื่องนี้อ่านผ่าน ๆ แล้วก็เหมือนเรื่องส่วนตัวของชาวบ้านทั่ว ๆ ไป ไม่มีแก่นสารสาระอะไร แต่ที่เรื่องมันดังกินพื้นที่สื่อทุกชนิดขึ้นมา ก็เพราะตัวละครในเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นดารา และหนึ่งในนั้น ก็เป็นดาราที่มีชื่อเสียงระดับประเทศที่มีคนชื่นชมนับล้านนั่นเองค่ะ ช่วงนั้น เว็บไหนที่มีกระดานสนทนาคุยกัน เสียงจ้อกแจ้กจอแจของคนแสดงความเห็น การจับผิดคำพูดของดาราอีกฝ่าย และการแสดงอารมณ์จากแฟนคลับข้างต่าง ๆ แทบจะดังทะลุกระดานออกมานอกจอคอมพิวเตอร์เลยทีเดียวนะคะ ถามว่า แล้วเราเฝ้าสนใจติดตามอ่านทั้งข่าว ทั้งคนแสดงความเห็นเรื่องนี้ทุกวัน ๆ แล้ว จะบาปอย่างที่น้องเขาถามไหม? …ก็คงไม่ถึงกับเรียกว่าบาปหรอกนะคะ เพียงแต่ลองย้อนกลับมาสังเกตใจตัวเองดูสักนิดว่า เมื่อเราเอาตัวเองไปนั่งแช่อยู่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้มากเข้า ๆ แล้ว จิตใจเราเกิดปฏิกิริยาอย่างไร รัก ชอบ ชัง เกลียด แค้น สงสาร เอียน หมั่นไส้ ฯลฯ แล้วตอบตัวเองง่าย ๆ ว่า เสพข่าวและคำวิจารณ์เหล่านี้แล้ว จิตเราสว่างขึ้น หรือหมองลง คนส่วนใหญ่ติดตามข่าวด้วยอาการ "เอามัน" อยู่ลึก ๆ ทั้งที่เมื่อมองออกมาจากคนละมุมเช่นนี้ เถียงกันทั้งปีก็หาคำว่า "ถูก-ผิด" ไม่ได้ มีแต่คำว่า "ถูกใจ" หรือ "ไม่ถูกใจ" ตามความเชื่อหนึ่ง ๆ ของแต่ละคนเท่านั้น และน้อยคนนักที่จะรู้ตัวว่า ยิ่ง "อิน" ยิ่งติดตาม ยิ่งเข้าไปนั่งอยู่กลางวงวิจารณ์ ความรู้สึกชอบ ชัง เกลียด ไม่พอใจ สะใจ แสลงใจ ฯลฯ เหล่านั้น ก็ยิ่งสะสมพอกพูน และการเอาจิตไปจมแช่อยู่กับอารมณ์อันเป็นไปในทางหมองเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราเอาจิตไปแช่อยู่ในน้ำครำ โดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย ข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อทุกวันนี้ มีแต่ข่าวชวนเมาท์เพื่อความเศร้าแห่งจิตมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน ถ้าเรายอมปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามกระแสเรื่อย ๆ แนวโน้มก็คือ เราก็จะซึมซับอารมณ์อันเป็นด้านของความหมองความมืด มากกว่าด้านสว่างเข้าตัว และความจริงของธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกเราก็คือ ยิ่งจิตของเรามืดด้วยการสั่งสมอารมณ์อันเป็นอกุศลมากขึ้นเท่าใด โอกาสที่จะไปอบายเมื่อสิ้นปลายภพ ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น |
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2016-4-6 04:33
ทนให้ไหว นะคร้า.าาาาา
majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-4-6 09:52
ไม่ไหวจะทน ทนไปทำไมครับ
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2016-4-7 08:16
ทนไม่ไหว แล้วไงต่อ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |