Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
ขึ้นไปนั่งบนกำแพงแกล้งตีขิม พยักยิ้มให้ข้าศึกนึกฉงน
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2013-12-28 08:16
ชื่อกระทู้:
ขึ้นไปนั่งบนกำแพงแกล้งตีขิม พยักยิ้มให้ข้าศึกนึกฉงน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-12-28 08:29
ขึ้นไปนั่งบนกำแพงแกล้งตีขิม พยักยิ้มให้ข้าศึกนึกฉงน
.
"กลยุทธ์"
ที่ขงเบ้ง ...ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร ตัดสินใจใช้เป็นไว้ตายรอทัพใหญ่ของสุมาอี้
ศึกครั้งนั้น เมื่อเพระเจ้าเล่าปี่สวรรณคต ขงเบ้งก็รวบรวมกำลังพลปรากบถภาคใต้สำเร็จ
พร้อมเคลื่อนทัพหลวงเข้าสู่เมืองหลวงที่มี
"สุมาอี้"
คุมทัพอยู่ และสุดท้ายขงเบ้งก็พ่ายศึกที่เกเต๋ง
แต่ทัพครั้งนั้น ขงเบ้งหัวซุกหัวซุน"หนีตาย"พร้อมทหารไม่กี่คน เข้าไปพำนักในเมืองเล็กๆ
กองทัพสุมาอี้ยังคงติดตามด้วยกำลังหทารที่ระบุในหนังสือ
"สามก๊ก"
ว่า
" เมื่อสุมาอี้ทราบข่าวว่าขงเบ้งคุมกองหลังล่าถอยมาที่เมืองนี้
จึงยกกองทัพสิบหมื่นตามมา หมายจับเอาตัวขงเบ้งให้จงได้ "
โดยระบุว่ากำลังพลเปรียบเทียบกันแล้ว "กองทัพสุมาอี้ ดังหนึ่งจะเหยียบเมืองเสีย"
*ขงเบ้งรู้ว่าขืนยกทัพสู้มีแต่แพ้ แพ้ แล้วก็แพ้*
ว่าแล้ว ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทรก็ตัดสินใจใช้กลยุทธ์
"*ใจดีสู้เสือ*"
โดยใช้อุบายเมืองร้าง สั่งให้เปิดประตูเมืองทั้งสี่ด้าน ให้คนแก่และทหารสิบสี่สิบห้าคนออกไปทำทีกวาดขยะที่หน้าประตูเมือง ส่วนขงเบ้ง ก็แต่งตัวแบบนักพรตในลัทธิเต๋า สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ขึ้นไปนั่งตีขิมบนกำแพงเมือง
มีเด็กน้อยสองคน คนหนึ่งถือธงสุริยัน อีกคนหนึ่งถือธงจันทรา ตั้งกระถางธูปใหญ่ จุดธูปใหญ่ปักไว้สามดอกบนโต๊ะข้างหน้า ถัดมาเป็นเตาเผากำยาน ควันกำยานพวยพุ่งโชยกลิ่นหอมเย็นลึกลับ
**สุมาอี้ยกทัพมาถึง..ทำอะไรไม่ถูก**
"กองทัพหน้าสุมาอี้เคลื่อนมาถึงแล้วเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็ชะงักอยู่ในระยะห่างประตูเมือง สุมาอี้ขี่ม้ามาถึงกองหน้าแล้วออกไปยืนพินิจพิเคราะห์ดู เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็รำลึกถึงกลในพิชัยสงครามที่ว่าน้อยแกล้งทำเป็นมาก มากแกล้งทำเป็นน้อย ไม่มีแสร้งทำเป็นมี มีแสร้งทำเป็นไม่มีแล้ว ก็คิดว่าขงเบ้งคงซุ่มทหารแล้วลวงให้รุกตีเข้าไปในเมือง จึงแสร้งทำเป็นไม่มีทหาร "
*
สุมาอี้ นอกจากเก่งการรบแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเรื่องดนตรี และเมื่อฟังเสียงพิณที่ขงเบ้งเล่น ..สุมาอี้ถึงกับสะดุ้ง เพราะแม่ทัพแคว้นเว่ยใช้สมาธิฟังเสียงขิมที่ขงเบ้งบรรเลงเพื่อพิเคราะห์จิตใจของผู้เล่นขิมแล้วพบว่า
"เป็นท่วงทำนองที่สะท้อนถึงจิตใจของผู้เล่นพิณว่ามีความเบิกบานมั่นอกมั่นใจ อย่างเต็มเปี่ยม ทำนองเพลงรื่นไหลดุจดังกระแสน้ำ ไม่มีติดขัด จังหวะเบาไร้ร่องรอยดุจดังสายลมพัด *จังหวะหนักก็หนักหน่วงดุจขุนเขาถล่มทลาย หาใช่จิตใจของผู้ที่มีความหวั่นเกรงหรือสะทกสะท้านแต่ประการใดไม่ "
บทเพลงขิมที่ขงเบ้งเล่นนั้น เนื้อเพลงกล่าวว่า....
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ไหนเลยจะไร้คลื่นลม
ท้องน้ำอันยากหยั่ง ไหนเลยจะมีแต่ปลาน้อย
จึงน่าจะมีมฤตยูใต้ห้วงน้ำลึกแอบแฝงอยู่
ในพงพฤกษา ไหนเลยจะมีแค่ผีเสื้อหลากสีสัน
หากแต่ย่อมต้องมีฝูงนกป่านานาพันธุ์
สุมาอี้ยินเสียงเพลงจากขิมของผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร ก็ตีความว่าเป็นกลอุบายของขงเบ้งที่ต้องการลวงให้ตนบุกเข้าไปในเมืองแล้วใช้ทหารซุ่มโจมตี และอาจจะมีทหารรุกตีกระหนาบเข้ามาอีกหลายทิศทาง
"ก็ตกใจด้วยความประหวั่นครั่นคร้าม เม็ดเหงื่อขนาดใหญ่ไหลลงโทรมหน้าโดยไม่รู้ตัว"
นั่นคืออาการของสุมาอี้
ขงเบ้งจึงรอดตายเพราะ
*-*"ไม่ทำอะไร" *-*
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2013-12-28 08:27
ท่านเสิงเสี้ยน ทัพสุมาอี้ถอยทัพไปแล้ว
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2013-12-28 08:28
เสี่ยงเหลือเกิน......เสี่ยงเหลือเกิน
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2