Baan Jompra

ชื่อกระทู้: พระ ประธาน [สั่งพิมพ์]

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:07
ชื่อกระทู้: พระ ประธาน


พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ “พระแก้วมรกต”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19306

คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น เรื่องประวัติของพระแก้วมรกต
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19699

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:08


พระพุทธปฏิมาแห่งแผ่นดิน
พระพุทธรูปสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=40716

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:09


พระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในพระอุโบสถ
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19307

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:10

พระพุทธชินสีห์และพระโต
พระประธานในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19305

วัดประจำรัชกาลที่ ๖ : วัดบวรนิเวศวิหาร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19342

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:10


พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19303

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:11



พระพุทธไสยาส หรือ “พระนอน”
พระประธานในพระวิหารพระพุทธไสยาส (พระวิหารพระนอน)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38874

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:12


พระพุทธศาสดา พระประธานในศาลาการเปรียญ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=40906

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:13


พระพุทธโลกนาถ พระประธานในพระวิหารทิศตะวันออกมุขหลัง
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46274

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:13


พระพุทธปาลิไลย พระประธานในพระวิหารทิศเหนือมุขหน้า
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41165

พระพุทธรูปปางป่าลิไลยก์ : อนุสรณ์เหตุการณ์พระสงฆ์ทะเลาะกัน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41164

วัดประจำรัชกาลที่ ๑ : วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19426

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:14


พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38541

วัดประจำรัชกาลที่ ๕, ๗ : วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19364




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:14


พระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารหลวง
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38542

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:15


พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ พระประธานในพระอุโบสถ
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38595

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:15


พระพุทธเสฏฐมุนี พระประธานในศาลาการเปรียญ
วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46231

วัดประจำรัชกาลที่ ๘ : วัดสุทัศนเทพวราราม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19319




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:16


พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถ
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38578

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:16


พระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร
พระประธานในพระวิหารหลวง
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38543

วัดประจำรัชกาลที่ ๒ : วัดอรุณราชวราราม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19404

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:17


พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร
พระประธานในพระอุโบสถ วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38568

วัดประจำรัชกาลที่ ๓ : วัดราชโอรสาราม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19388

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:17


พระพุทธกาญจนธรรมสถิต พระประธานในพระอุโบสถ
วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38605

วัดประจำรัชกาลที่ ๙ : วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19317

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:18


พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ “หลวงพ่อทองคำ”
พระประธานในพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19304

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:18

พระประธานในพระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:19


พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ “หลวงพ่อโต”
พระประธานในพระวิหารหลวง วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38571

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:19


หลวงพ่อโต หรือ “พระศรีอริยเมตไตรย”
[พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก]
วัดอินทรวิหาร (พระอารามหลวง) เขตพระนคร กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19735

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:20


หลวงพ่อพระร่วง หรือ “หลวงพ่อร่วง วาจาศักดิ์สิทธิ์”
พระประธานในพระวิหาร วัดมหรรณพาราม วรวิหาร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19302

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:21


พระประธานยิ้มรับฟ้า
พระประธานในพระอุโบสถ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ


ชมหอไตร ไหว้หลวงพ่อโต กราบพระยิ้ม ที่ “วัดระฆัง”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19678

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:21


พระศรีสรรเพชญ์ พระประธานในพระอุโบสถ
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=44986

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:22


พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) พระประธานในพระวิหารหลวง
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46307

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:22

พระพุทธเทววิลาส หรือ “หลวงพ่อขาว”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ


เยือน “วัดเทพธิดาราม” อารามของ “พระราชธิดา”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19669




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:23


พระพุทธสิทธารถ หรือ “หลวงพ่อสมปรารถนา”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพฯ


เที่ยว “วัดพิชัยญาติ” ชมภาพสลัก “สามก๊ก” หนึ่งเดียวในประเทศ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13330

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-19 19:23


พระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45001

ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระพุทธปฏิมาแห่งแผ่นดิน
ฤกษ์ดีปีใหม่ ในระหว่างวันที่ ๑-๓๑ มกราคม ๒๕๕๖

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=44208




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:21
พระพุทธรูปหยกขาว พระประธานในอุโบสถ
วัดถ้ำเสือวิปัสสนา ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่




ในปี พ.ศ. 2518 หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ มีความประสงค์จะหาสถานที่ปฏิบัติธรรมใหม่ ก็เกิดนิมิตในมโนภาพว่าเป็นสถานที่มีภูเขาล้อมรอบ และถ้ำชื่อ “ถ้ำเสือ” ตลอดถึงถ้ำต่างๆ หลายถ้ำ และอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ด้วย ทันทีที่เกิดนิมิตเห็นก็เกิดความรู้สึกนึกรักสถานที่นั้นขึ้นมาจับใจ เหมือนรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก่อน หลวงพ่อได้ให้พระอาจารย์หีด ไปเสาะแสวงหาสถานที่จะตั้งสำนัก จนในที่สุดพระอาจารย์หีดได้พบสถานที่หลายๆ แห่งรวมถึงถ้ำเสือด้วย

หลวงพ่อได้มีโอกาสไปดูสถานที่ถ้ำตามที่พระอาจารย์หีดบอก ก็ตรงกับนิมิตที่หลวงพ่อเห็นจริงๆ หลวงพ่อจำเนียรได้นำคณะพระภิกษุสามเณร 53 แม่ชี 56 ท่าน จากวัดสุคนธาวาส มาอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้อันมีนามว่าถ้ำเสือ หรือในอดีตวัดมีชื่อว่า “สำนักสงฆ์หน้าชิง” ตามชื่อหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2518

ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดถ้ำเสือ” เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2533 มาบุกเบิกเปิดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานจนถึงปัจจุบัน ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่า เหตุที่ได้ชื่อว่า “ถ้ำเสือ” เพราะว่าบริเวณถ้ำด้านหน้าของทิวเขาอ่าวลูกธนูหรือที่เรียกว่า “เขาแก้ว” ในอดีตเคยมีเสือโคร่งขนาดใหญ่จำนวนมากอาศัยอยู่ และภายในถ้ำยังปรากฏหินธรรมชาติเป็นรูปอุ้งเท้าเสือ ส่วนที่มาของวัดนี้น่าจะมาจากพระธุดงค์ที่เดินทางจาริกไปเพื่อหาสถานที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม มาอาศัยอยู่ตามถ้ำ และมีชาวบ้านที่ศรัทธาตามมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นวัดในเวลาต่อมา

วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวต่างประเทศ ทั้งความโดดเด่นของวัดและชื่อเสียงของ “หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ” ประธานสงฆ์วัดถ้ำเสือวิปัสสนา (วัดถ้ำเสือ) ที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สภาพโดยทั่วไปของวัดถ้ำเสือ มีลักษณะเป็นสวนป่า เป็นโพรงถ้ำ มีเพิงผาและแหล่งถ้ำธรรมชาติ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำงู ถ้ำเต่า ถ้ำมือเสือ สิ่งสำคัญใน “วัดถ้ำเสือ” นั้นที่ดูเหมือนจะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ที่มา : http://www.watthumsua-krabi.com/history-temple.htm


.....................................................
".....มหาปุริสภาวสฺส ลกฺขณํ กรุณาสโห....."
".....อัชฌาศัยที่ทนไม่ได้เพราะกรุณาเป็นลักษณะของความเป็นมหาบุรุษ....."



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:33


หลวงพ่อชินประทานพร หรือ “พระพุทธชินประทานพร”
พระคู่บ้านคู่เมือง วัดถ้ำเสือ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=42490

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:34


พระประธานในพระอุโบสถ
วัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46256



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:35


พระพุทธเบญจนวมงคลกาญจน์
หรือ “หลวงพ่อพระเจ้าเก้าแสนเหรียญ” พระประธานในมณฑปแก้ว
วัดลาดขาม ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46028

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:39
พระนอนวัดภูค่าว
ซึ่งเป็นพระนอนตะแคงซ้าย ซึ่งไม่เหมือนใครในโลก แกะสลักจากหินบริเวณหน้าผา สร้างเมื่อสมัยทราวดี อายุราว 1500 ปี

ในบางที่กล่าวว่า
บริเวณถ้ำภูค่าว เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่งภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ภูค่าว สลักอยู่เพิงผา ขนาดย่อม ซึ่งแตกต่างจากพระพุทธไสยาสน์ทั่วไป คือ นอนตะแคงซ้าย และไม่มีพระเกตุมาลา มีความยาว 2.25 เมตร ตามประวัติกล่าวว่าเป็นพระโมคคัลลานะพระสาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า มีอายุ 2000 ปีล่วงมาแล้ว

มหาธาตุเจดีย์ วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) สร้างเมื่อวัน อาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547

เมือปีจอ เมื่อวันศุกร์ที่11 เดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2549 พระอาจารย์ณรงค์ ชยมงฺคโล เจ้าอาวาสวัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 2 องค์ จากวัดศรีวิชัยโสคตวิทยาลัย เมืองลาวานะ-ปานาธุระ โดยมีพระปานธุระวิตธะนันทะเกโร เป็นประธานสงฆ์ฝ่ายศรีลังกา จากนั้นได้ทำพิธีสมโภชน์พระบรมสารีริกธาตุ โดยมีสมเด็จมหาสังฆนายกสยามนิกายฝ่ายอัสคิริยา (อรัญวสี )เป็นประธาน เมื่อปีจอ วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2549 ณ วัดอัศคิริยา กรุงแคนดี้ ประเทศศรีลังกา

ต่อมาปีกุน วันศุกร์ที่ 19 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2550 ได้รับมอบพระบรมสารีริธาตุ อีกจำนวน 2 องค์ จากพระรัตนรังสี (วีรยทธ์ วีรยุทโธ) เจ้าอาวาส วัดไทยกุฉินาราเฉลิมราชย์ ปัจจุบันใน ตำบลกาเซีย จังหวัดกุสินาคาร์ รัฐอุตรประเทศ ประเทศอินเดีย

พระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวข้างต้น ได้อัญเชิญมาบรรจุไว้ในมหาธาตุเจดีย์พุทธนิมิต แห่งนี้ ณ วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อปีฉลู วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2552 พระธาตุ มีความสูง 80 เมตร พระพุทธเจ้าปรินิพพาน 80 ปี พระมหาธาตุเจดีย์ หลังนี้ไม่มีบริวาร (คือใจ)

ที่มา: http://www.baanmaha.com/community/thread2830.html
http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=22762.new



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:44
วัดพระแก้ว จ.กําแพงเพชร



เป็นพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ ภายในองค์พระก่อด้วยศิลาแลง พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม คล้ายศิลปะอู่ทองของกรุงศรีอยุธยา

วัดพระแก้ว จ.กําแพงเพชร เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ตั้งอยู่บริเวณเขตพระราชวังเก่า เป็นโบราณสถานที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในรูปแบบสกุลช่างกำแพงเพชร ซึ่งเป็นผลจากการเป็นเมืองหน้าด่านของสองอาณาจักร คือกรุงสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา ยังผลให้เกิดการซึมซับศิลปะของทั้งสองอาณาจักรเข้าด้วยกัน เกิดเป็นศิลปะสกุลช่างกำแพงเพชรขึ้น สิ่งก่อสร้างภายในวัดส่วนใหญ่ใช้ศิลาแลง

ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญประกอบด้วย

พระอุโบสถ ตั้งอยู่บนฐานไพทีขนาดใหญ่ มีพระพุทธรูปโกลนจากศิลาแลง เป็นพระประธาน ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ด้านหลัง มีบุษบกทรงมณฑปขนาดใหญ่ ฐานบัวย่อมุม หน้ากระดานประดับด้วยลูกฟัก เชื่อกันว่า บุษบก นี้ เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต จึงเป็นที่มาของชื่อวัดพระแก้ว

พระเจดีย์สิงห์ล้อม เป็นเจดีย์ประธานทรงระฆัง แบบลังกา รูปทรงมีเอกลักษณ์สวยงาม บนฐานสี่เหลี่ยม ที่ฐานมีซุ้มโดยรอบทั้งสี่ด้าน ภายในประดับด้วยสิงห์ปูนปั้นอยู่ในคูหา แต่ได้ชํารุดหมด ถัดจากซุ้มรูปสิงห์ขึ้นไป เป็นซุ้มจระนำ ภายในประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปปูนปั้นที่ชำรุดเกือบทั้งหมด

พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ภายในองค์พระก่อด้วยศิลาแลง เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ 1 องค์ เป็นประธาน โดยมีอัครสาวกเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย 2 องค์ ประดิษฐานอยู่ด้านหลัง ประจำเบื้องซ้ายและเบื้องขวา พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม คล้ายศิลปะอู่ทองของอยุธยา

พระเจดีย์ช้างเผือก เป็นเจดีย์ทรงระฆังบนฐานสี่เหลี่ยม ประดับด้วยช้างปูนปั้นโดยรอบ ภายนอกพระเจดีย์ ล้อมรอบด้วยระเบียงคด

ที่มา : http://www.comingthailand.com/kamphaeng ... akaeo.html

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:51
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-12-20 08:52



ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด

หลวงพ่อพระลับ
พระประธานในพระอุโบสถ วัดธาตุ
พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น


โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:53


ไหว้พระประธาน ๗๗ จังหวัด

หลวงพ่อพระยืนมิ่งมงคล
บ้านพระยืน ต.พระยืน จ.ขอนแก่น


โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:56

หลวงพ่อใหญ่ หรือ “พระมงคลเทพนิมิต”
พระประธานในอุโบสถ วัดโยธานิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19273

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:57

พระประธานในโบสถ์


"เริ่มสร้างวัดเขาสุกิม"

blank
ใน ปี พ.ศ. 2509 พันโทสนิท พร้อมด้วยคุณนายประนอม บูรณะคุณและคุณรัตนา เอกครพานิช ได้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดิน จำนวน 6 ไร่ 50 ตารางวา ถวายเพื่อสร้างวัด

ต่อจากนั้น ประชาชนชาวบ้านได้เข้ามาสนับสนุน ส่งเสริมด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เป็นต้นว่า ได้ช่วยกันบริจาคทุนทรัพย์ในการสร้างกุฎิกรรมฐานขนาดเล็กขึ้นจำนวนหลายหลัง เพื่อทดแทนกุฏิชั่วคราวที่ได้จัดสร้างไว้ในครั้งแรกที่ได้ ชำรุดทรุดโทรมลงไปและได้ทำการปลูกสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอื่นๆ อีกหลายอย่างเพื่อถวายแก่พระภิกษุ สามเณรและผู้ปฏิบัติธรรม

ในระยะเวลาต่อมา กุฏิกรรมฐานขนาดเล็กก็ได้พัฒนาขึ้นเป็นกุฏิกรรมฐานขนาดถาวรขนาด สองชั้นมีทางเดินจงกรมยาว 25 ก้าว ทั้งชั้นล่างและชั้นบน

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:58


สถานที่ปฎิบัติธรรม ปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้ก้าวขึ้นมาบนภูเขาสุกิมแห่งนี้ นับเป็นระยะเวลาถึง 30 ปีเศษ( 2507-2543 ) หลวงปู่ท่านเป็นผู้บุกเบิก ริเริ่มและสร้างสรรค์ภูเขาซึ่งเป็นป่าดงดิบ ให้เป็นวัดที่ร่มริ่น เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสาม เณรและผู้ที่สนใจปฏิบัติกรรมฐาน เป็นสถานที่ทัศนาการของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในเวลา 30 ปีเศษ

วัดเขาสุกิมได้พัฒนา ขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ได้แก่ ศาสนสถาน ศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุ เช่น เสนาสนะ กุฎิ อาคาร สิ่งของต่างๆ และวัตถุโบราณต่างๆ ที่มีอยู่ในวัดเขาสุกิมทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นด้วยบุญญาบารมีของ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ทั้งสิ้น กล่าวคือทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยพลังศรัทธาของประชาชนที่มีความเคารพนับถือเลื่อมใส พิจารณาแล้วจึงได้เสียสละทุนทรัพย์จัดสร้างและบริจาคสิ่งของสนับสนุนเป็นประจำวันมิได้ขาด ทุกสิ่งทุกอย่างเกิด ขึ้น จากผู้ที่มีศรัทธานำมาถวายทั้งสิ้น

ปัจจุบันวัดเขาสุกิมมีเนื้อที่ในการขออนุญาตสร้างวัด จำนวน 6 ไร่ 50 ตารางวา มีเนื้อที่เป็นของวัด 3,344 ไร่ ต่อ มาได้ยกที่ให้ โรงเรียนมัธยมวัดเขาสุกิม 50 ไร่ และโรงพยาบาลวัดเขาสุกิม 14 ไร่ จึงเหลือเนื้อที่ของวัด 3,280 ไร่ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้เริ่มบุก เบิก จนเป็นที่รู้จักของผู้ปฏิบัติธรรมและสาธุชนทั่วไปเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี

ในแต่ละวัน ที่วัดเขาสุกิมจะมีสาธุชนเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เป็น ประจำทุกวันมิได้ขาด ทั้งประชาชนในท้องถิ่น และต่างจังหวัด ตลอดจนทั้งชาวต่างประเทศ บุคคลที่ไปนั้นไม่เฉพาะพุทธศาสนิกชนเท่านั้น ศาสนิกในศาสนา อื่นก็ได้ไปเยี่ยม นมัสการอยู่เป็นประจำ เช่น ศาสนาคริตส์ อิสลาม ซิกส์ เป็นต้น

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ท่านได้จัดระบบการบริหารการปกครอง เป็นไปตามระเบียบแบบแผน ของกรมการศาสนาและมหาเถรสมาคม คือท่านได้แต่งตั้งให้ลูกศิษย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาส มีหน้าที่ในการบริการปกครอง คอยสอดส่องดูแลและอบรม สั่งสอนพระภิกษุสามเณร และเป็นผู้ประสานงานกับทางราชการ คณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง โดยตัวของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เป็นประธานสงฆ์ของวัด

วัดเขาสุกิมตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน มีเจ้าอาวาสมาแล้ว 3 รูป ลำดับได้ดังนี้...

1. พระอธิการคำพันธ์ สิริปญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508-2517 (ค.ศ.1965-1974)
2. พระอธิการคำพันธ์ คมฺภีรญาโณ เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517-2526 (ค.ศ.1974-1983)
3. พระญาณวิลาส (บุญ สิริปญฺโญ) เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526- ปัจจุบัน(ค.ศ. 1983-ปัจจุบัน)


ที่มา: เวป วัดเขาสุกิม ครับ

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 08:59


หลวงพ่อโสธร หรือ “หลวงพ่อพุทธโสธร”
ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าพระประธานในพระอุโบสถ
วัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38565



โดย: Nujeab    เวลา: 2013-12-20 10:19
กราบสักการะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเศียรเกล้า สาธุ
โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:19
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2013-12-20 10:19
กราบสักการะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยเศียรเกล้ ...



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:38


หลวงพ่อดำ หรือ “พระสัมพุทธมหามุนีศรีคุณาศุภนิมิต”
พระประธานในวิหาร วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19288

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:38


หลวงพ่อธรรมจักร พระประธานในพระวิหารเชิงเขา
วัดธรรมามูลวรวิหาร ต.ธรรมมูล อ.เมือง จ.ชัยนาท

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45852

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:39


พระพุทธชัยภูมิพิทักษ์ พระพุทธรูปประจำพุทธวนอุทยาน
ประดิษฐานบริเวณหน้าผาเกิ้ง วัดชัยภูมิพิทักษ์ (วัดผาเกิ้ง)
บ้านนาคานหัก ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46181

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:40


พระพุทธปฏิมากร หรือ “พระรอดสงคราม” พระประธานในพระอุโบสถ
วัดชุมพรรังสรรค์ (พระอารามหลวง) ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=26938

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:41


หลวงพ่อผาเงา พระประธานในวิหาร
วัดพระธาตุผาเงา ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19122

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:41


พระเจ้าล้านทอง วัดพระแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:41


พระเจ้าล้านตื้อ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:44


พระแก้วขาว หรือ “พระเสตังคมณี” พระคู่บ้านคู่เมือง
ณ พระมณฑปด้านหลังพระประธาน ในพระวิหารจตุรมุข
วัดเชียงมั่น (พระอารามหลวง) ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=40984

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:45


พระเจ้าเก้าตื้อ หรือ “พระพุทธรูปพระพุทธเจ้าเก้าตื้อ”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดสวนดอก (วัดบุปผาราม)
พระอารามหลวง บ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:46

พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ พระประธานในวิหาร
วัดโลกโมฬี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ห



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:47


พระพุทธรูปทรงเครื่องล้านนา พระประธานในวิหารลายคำ
วัดมณเฑียร ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่





โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:47




พระศิลา วัดเชียงมั่น ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:49




พระนอนขอนม่วง วัดพระนอนขอนม่วง ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (วัดพระนอนขอนม่วงอยู่ใกล้เรือนจำ และศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่)

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:53


\
พระอัฎฐารส วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:54


พระเจ้าแข้งคม วัดศรีเกิด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:55






พระเจ้าแสงคำเมือง วัดปันเสา (พันเส่า) ตั้งอยู่ภายในศูนย์มาลาเรีย เขต 2 จ.เชียงใหม่ ถ.บุญเรืองฤทธิ์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่


โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:56



พระเจ้าเจ็ดตื้อ วัดศรีสุพรรณ ถ.วัวลาย ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:56


พระเจ้าวัดลอยเคราะห์ วัดลอยเคราะห์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:57


หลวงพ่อดับภัย วัดดับภัย ถ. สิงหราช ต. ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:57

พระเจ้าองค์ขาว (หลวงพ่อขาว) วัดอินทขีลสะดือเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:58


พระเจ้าปันเต้า พระประธานภายในพระวิหารหอคำหลวง วัดพันเตา ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ (ข้างวัดเจดีย์หลวง)




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 18:59


พระพุทธอาตะปะมหามุนีปฏิมากร (พระพุทธรูปตโปทาราม) พระประธานพระวิหาร แห่ง วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:01


พระประธานในอุโบสถ
วัดน้ำผุดเหนือ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=23879

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:02


"พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคลตรัง" เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดตรัง ปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชรแบบขนมต้ม ประดิษฐานบนฐาน 5 ชั้น หล่อด้วยสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.84 เมตร

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530 โดยจำลองแบบมาจากภาพถ่ายของพระพุทธสิหิงค์องค์เดิมที่สูญหายไป มีขนาดใหญ่กว่าองค์เดิม

ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาพระพุทธสิหิงค์ สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์

กล่าวกันว่า พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปหล่อหุ้มทอง ปางสมาธิ ตามประวัติกล่าวว่า พระเจ้ากรุงลังกาองค์หนึ่งได้สร้างขึ้นไว้ ต่อมาเจ้านครศรีธรรมราช ได้ไปขอมาถวายพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย เมื่อพระบรมราชาธิราชที่ 1 แห่งกรุง ศรีอยุธยาได้กรุงสุโขทัยเป็นเมือง ขึ้น

จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพชร และที่เชียงราย

เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ มาประดิษฐานที่เชียงใหม่ พร้อม กับพระแก้วมรกต เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตีเมืองเชียงใหม่ ได้เมื่อ พ.ศ.2205 ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ มาประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลา 105 ปี

เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า เมื่อ พ.ศ.2310 ชาวเชียงใหม่ซึ่งสมัยนั้นยังอยู่ข้างพม่า ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปที่เชียงใหม่

ครั้น มณฑลพายัพได้กลับมาเป็นของไทย ในสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แห่งกรุงรัตน โกสินทร์ สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท จึงได้โปรดให้อัญเชิญลงมายังกรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2338 โดยประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล

พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของไทย มีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ฯลฯ แต่ละองค์มีตำนานแตกต่างกันที่ตรงกัน คือ มีที่มาจากลังกา

สังเกตได้ว่าเมืองที่มีพระพุทธสิหิงค์ส่วนใหญ่ เคยเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการปกครอง เมืองตรังนั้นเป็นเมืองท่า เป็นหนึ่งในเส้นทางเผยแผ่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์เข้ามาสู่อาณาจักรไทย จากตรังแล้วต่อไปยังเมืองนครศรีธรรมราชและพัทลุง ก่อน ขยายไปสู่เมืองอื่น

พระพุทธสิหิงค์ตรังองค์ต้นแบบ มีขนาดหน้าตักกว้าง 12 นิ้ว มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง ประดิษฐานอยู่ที่วัดหัวถนน จ.ตรัง

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:02

ได้สูญหายไปเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2526 เหลือไว้เพียงตำนานเล่าขาน เป็นสิ่งเตือนใจชาวเมืองตรังให้ตระหนักถึงการดูแลรักษาและหวงแหนมรดกอันล้ำค่าของแผ่นดินมิให้สูญหาย


ที่มา : http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... RnMU13PT0

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:03


พระพุทธรูปหยก พระประธานในอุโบสถ
วัดท่าโสม บ้านท่าโสม ต.ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=20884




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:11


หลวงพ่อแสนทอง พระประธานในพระอุโบสถ
วัดมณีบรรพต วรวิหาร (วัดเขาแก้ว) อ.เมือง จ.ตาก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19271

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:13





‘หลวงพ่อทันใจ’
วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก

“ตะกุตะกะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา”
บทสวดนมัสการ “หลวงพ่อทันใจ” วัดพระบรมธาตุบ้านตาก
อ.บ้านตาก จ.ตาก ที่สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธา มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์
ขององค์หลวงพ่อทันใจ ว่าขอสิ่งใด ล้วนแต่ได้สมดังใจปรารถนาทุกประการ

“วัดพระบรมธาตุบ้านตาก” อยู่ที่ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก
ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดแห่งนี้เป็นเมืองตากเก่า
ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ตัวเมืองตากในปัจจุบัน
ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร
อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัย พระนางจามเทวี
ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง
จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก

วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังปรากฏในศิลาจารึของพ่อขุนรามคำแหง
ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะศึกเจ้าเมืองฉอด
บนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ประมาณ ๕๐๐ เมตร


หลวงพ่อทันใจ พระประธานในวิหารหลวงพ่อทันใจ
วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19272

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:13
ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งเขียนเป็นภาษาเหนือ กล่าวไว้ว่า
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์ล่องมาตามลำน้ำปิง
พระองค์ได้เสด็จมายัง ดอยมะหิยังกะ ในเขตตัวเมืองตาก
ตรัสกับพระอานนท์ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่สำราญ ร่มรื่น
หากเราตถาคตปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิและเกศากลับมายังดอยมะหิยังกะ

ภายหลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน
พระอรหันต์ทั้ง ๔ ได้นำพระบรมสาริกธาตุของพระองค์
พร้อมด้วยเกศาอีก ๔ องค์ มาประดิษฐานยังดอยมะหิยังกะ
แล้วก่อเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมแล้ว นำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระเจดีย์
เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

ต่อมา พระครูพิทักษ์พระบรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ไปนมัสการพระธาตุชเวดากอง
ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ท่านจึงได้จำมาก่อสร้างองค์พระเจดีย์
เหมือนเจดีย์ชเวดากองล้อมคลุมองค์เก่าไว้ ปิดทองสวยงาม

พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน) เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุบ้านตาก
กล่าวถึงประวัติของหลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ว่า
ตั้งแต่สมัยที่ท่านเป็นพระลูกวัด พระครูบาตา อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน
ได้ปรึกษากับศรัทธาญาติโยมว่า มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธรูปขึ้นสัก ๑ องค์
และศรัทธาญาติโยมได้พร้อมใจร่วมกันนุ่งขาว ห่มขาว
เริ่มก่อพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางมารวิชัย หน้าตัก ๓๒ นิ้ว
และลงรักปิดทองคำเปลว ก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษก ๑ วัน กับ ๑ คืน เสร็จพอดี

โดยคณะศรัทธาได้ตั้งชื่อว่า “พระเจ้าทันใจ” เพราะทำเสร็จเร็วทันใจ
ต่อมามีญาติโยมได้มาตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรก็ได้สมความปรารถนา
ทุกสิ่งทุกประการ นับเวลาจนปัจจุบันประมาณ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ นายทิพย์ หิงคานนท์ อดีตข้าราชการครู
หลังเกษียณอายุราชการ ได้ล้มป่วยลงอาการหนักมาโดยตลอด
จึงได้มาสักการะพระบรมธาตุ และอธิษฐานต่อองค์หลวงพ่อทันใจ
ขอให้หายป่วย มีสุขภาพดีแข็งแรง จะกลับมาทอดกฐินที่วัดแห่งนี้ ๑๕ ปี

ปรากฏว่า เป็นจริงดั่งคำอธิษฐาน อาการเจ็บป่วยของนายทิพย์ทุเลาลงตามลำดับ
และในปี พ.ศ.๒๕๒๐ จึงมาทอดกฐินพร้อมคณะญาติชาวจังหวัดชลบุรี
ต่อเนื่องจนครบ ๑๕ ปี และต่อมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งนายทิพย์ได้ถึงแก่กรรมในวัย ๘๙ ปี
แต่ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจยังคงแพร่ขยายไปทั่วสารทิศ
เช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทย เคยยกทีมมาไหว้แก้บนเมื่อหลายปีก่อน,
บรรดานักการเมืองระดับชาติ, นักธุรกิจใหญ่
ต่างเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทันใจ เดินทางมาแก้บนตามที่ได้อธิษฐานไว้

หลวงพ่อทันใจ ไม่เพียงแต่ดลบันดาลในเรื่องหน้าที่การงาน
ธุรกิจ การค้าขาย สำเร็จไปด้วยดีเท่านั้น
ยังรวมไปในเรื่องของความรัก คู่ครอง และขอบุตร-ธิดา

โดยเครื่องบูชาหลวงพ่อทันใจ จะเป็นกล้วย ส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล
ส่วนของไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำเข้ามาถวาย
และห้ามนำเข้าเขตพัทธสีมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้นไข่ต้มสุกอย่างเดียว

ส่วนการเสี่ยงทายความสำเร็จ มีช้างเสี่ยงทาย ใช้นิ้วก้อยยกสำหรับผู้ชาย
และนิ้วนางสำหรับผู้หญิง ทำนายดวงชะตา หากสำเร็จครั้งแรกขอให้ยกขึ้นทันที
และอธิษฐานยกใหม่อีกครั้ง ขอให้ยกไม่ขึ้น
หากคำทำนายดีสำเร็จดังหมาย ซึ่งก็สมปรารถนาดังใจทุกประการ





ที่มา: http://www.thai-tour.com/thai-tour/Nort ... mathat.htm

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=16701

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:14


หลวงพ่อปากแดง หรือ “หลวงพ่อปากแดงศักดิ์สิทธิ์”
พระประธานในอุโบสถ วัดพราหมณี อ.เมือง จ.นครนายก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19121

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:14


พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศ
พระประธานพุทธมณฑล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19724

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:15


หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระประธานในพระอุโบสถ
วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) อ.สามพราน จ.นครปฐม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19290

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:16


พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร
หรือ “พระร่วงโรจนฤทธิ์” หรือ “หลวงพ่อพระร่วง”
พระประธานในพระวิหารหลวง วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19289

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:16

พระพุทธรูปศิลาขาว หรือ “หลวงพ่อประทานพร”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=39910

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:17



พระพุทธนรเชษฐ์ เศวตอัศมมัยมุนี ศรีทวารวดีปูชนียบพิตร
หรือ “หลวงพ่อขาว” ประดิษฐาน ณ ลานชั้นลด (กะเปาะ)
ด้านทิศใต้ขององค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=39910

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 19:39


พระติ๋ว-พระเทียม พระคู่บ้านคู่เมืองนครพนม
ประดิษฐาน ณ วิหาร วัดโอกาสศรีบัวบาน จ.นครพนม

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41187




โดย: รามเทพ    เวลา: 2013-12-20 19:41
อยากเห็นพระประธานที่สำนักติคญาโณจังเลย
โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 20:28

พระพุทธสกลสีมามงคล หรือ “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่”
[พระพุทธรูปนั่งปางประทานพรสีขาว ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขากลางป่าเขียว]
วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=38901

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:07
พระพุทธสิหิงค์ พระบรมธาตุเจดีย์
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช



พระพุทธสิหิงค์



พระประธาน

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:08


พระบรมธาตุเจดีย์

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ดู VDO พระธาตุฯ

ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ ภาคใต้และประเทศไทย ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
ตามตำนานกล่าวว่า พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาสู่หาดทรายแก้ว โดยนางเหมชาลาฒ และพระธนกุมาร เมื่อประมาณปี พ.ศ.๘๓๔ จึงได้สร้างพระบรมธาตุ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ผู้ปกครองเมืองนครศรีธรรมราช จะก่อสร้างตกแต่งเพิ่มเติมอยู่เสมอ เพื่อสร้างสมความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อองค์พระบรมธาตุเช่น สมัยศรีวิชัยได้สร้างเป็นเจดีย์ทรงศรีวิชัย ต่อมาในรัชสมัยพระเจ้าจันทรภาณุ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๗๙๐ ได้ทรงสร้างเป็นเจดีย์ทรงลังกาครอบองค์เจดีย์เดิมแบบศรีวิชัยไว้ภายใน

สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
เจดีย์
ท่องเที่ยว

พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานอันเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงสุดของชาวนครศรีธรรมราช และชาวใต้ทั้งปวง ไม่ปรากฎหลักฐานที่แน่นอนเกี่ยวกับประวัติการสร้างตามตำนานกล่าวว่า พระเจดีย์องค์เดิมสร้างตามความเชื่อของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๓๐๐ สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ต่อมาเมื่อได้มีการติดต่อสัมพันธ์กับพระภิกษุลังกา โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราช ได้นิมนต์พระภิกษุลังกามาตั้งคณะสงฆ์ในเมืองนครศรีธรรมราชเป็นการสถาปนาพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในระยะนั้นพระบรมธาตุองค์เดิมชำรุดทรุดโทรมมาก พระภิกษุลังกาจึงได้ช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์ให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบลังกา โดยสร้างพระสถูปแบบลังกาครอบองค์พระเจดีย์เดิม เป็นพระสถูปทรงโอคว่ำปากระฆังติดกับพื้นกำแพงแก้ว ที่มุมกำแพงแก้วมีพระบรมธาตุจำลองประดิษฐานอยู่ทั้งสี่มุม

พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครศรีธรรมราช ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๗๙๓ พระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมราช ได้ยกกองทัพเรือไปตีเมืองลังกาครั้งที่ ๑ ได้พระพุทธสิหิงค์มา จึงได้ฉลองสมโภชรวมกับพระบรมธาตุเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ.๑๗๙๓ โดยมีนางพญาเลือดขาวนำเสด็จแทนพระเจ้าจันทรภาณุจากลังกา

พระพุทธสิหิงค์ มีลักษณะทางศิลปกรรมอยู่ในตระกูลช่างแบบนครศรีธรรมราชที่เรียกกันว่า แบบขนมต้ม ประดิษฐานอยู่ในหอพระพุทธสิหิงค์ ในบริเวณวังเจ้านครเก่า ปัจจุบันเป็นศาลากลางจังหวัด เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะบูชาในเวลาราชการทุกวัน

ในวันสงกรานต์ ชาวนครศรีธรรมราชจะอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์แห่ไปยังสนามหน้าเมือง เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นประจำทุกปี


ที่มา : http://www.thai-tour.com/thai-tour/sout ... hathat.htm

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:09
รามเทพ ตอบกลับเมื่อ 2013-12-20 19:41
อยากเห็นพระประธานที่สำนักติคญาโณจังเลย ...

สร้างเป็น ปางนาคปรค คงจะสวยมากครับ
โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:10

พระพุทธศรีสวรรค์ หรือ “หลวงพ่อศรีสวรรค์”
พระประธานในพระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45692

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:11


ประวัติความเป็นมา

วัดวรนาถบรรพต เดิมมีชื่อเรียกว่า "วัดกบ" หรือ "วัดเขากบ" เหตุที่มีชื่อเรียกเช่นนี้ ก็เพราะเรียกตามชื่อของภูเขา ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่เชิงเขากบ หรือมีชื่อเรียกเช่นนี้ก็เพราะเรียกตามชื่อของภูเขาซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่เชิงเขากบ หรือมีชื่อเรียกตามหลักฐานในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยอีกชื่อหนึ่ง "วัดปากพระบาง" ต่อมาท่านเข้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) อดีตอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ ซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นเจ้าคณะมณฑล ได้มาตรวจการคณะสงฆ์
จังหวัดนครสวรรค์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตเห็นว่า "วัดกบ" หรือ "วัดเขากบ" ตั้งอยู่ที่เชิงเขาจึงได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่และเรียกเป็นทางการว่า
"วัดวรนาถบรรพต"อย่างไรก็ตามประชาชน โดยทั่วไปมักเรียกชื่อ วัดกบหรือ วัดเขากบ กันจนติดปากมาจนตราบเท่าทุกวันนี้


วัดวรนาถบรรพต เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งอยู่เชิงเขากบ เลขที่ ๑--๘๘ ถ.ธรรมวิถี ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ดิน ๑๐๙ ไร่ ๑ งาน ๑๐ ตารางวา วัดนี้มีปูชนียวัตถุที่สำคัญได้แก่ เจดีย์ใหญ่สร้างในสมัยสุโขทัยพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ยาวประมาณ ๑๐ วาเศษ อุโบสถหลังเก่าซึ่งมีรูปปั้นตากบ-ยายเขียดที่หลวงพ่อทองสร้างอยู่ด้านหน้า บนยอดเขากบก็เป็นส่วนหนึ่งของวัดมีปูชนียวัตถุที่สำคัญเช่นกันคือรอยพระพุทธบาทสำลอง สมัยสุโขทัยประดิษฐานอยู่ในวิหารเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธรูปหินปางนาคปรก สมัยเชียงแสน เป็นต้นในอดีตวัดวรนาถบรรพต เคยเป็นวัดร้างมีซาก ปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างต่างๆ หลงเหลืออยู่ได้แก่ซุ้มเสมาของอุโบสถซากวิหาร พระพุทธไสยาสน์(พระนอน)เจดีย์ใหญ่และรอยพระพุทธบาทจำลอง บนยอดเขากบสภาพบริเวณวัดเป็นป่าไม้รวกและปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่บริเวณนอกวัดมีคูรอบวัด สันนิษฐานว่า วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ดังปรากฏในศิลาจารึกสมัยสุโขทัย ๒ หลัก คือ หลักศิลาจารึกหลักที่ ๒๐ มีขนาดสูง ๘๐ ซม. กว้าง๔๗ ซม. หนา ๖ ซม. ผู้ค้นพบคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งค้นพบเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๖๔ ที่ยอดเขากบปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดวชิรญาณท่าวาสุกรี กรุงเทพมหานคร(มนต์ชัยเทวัญวโรปกรณ๒๕๒๖ : ๘๑๐) จากข้อความในหลักศิลาจารึกหลักที่ ๒๐ ได้กล่าวถึงพญาบาลเมืองสร้างวัดเขากบ มีเจดีย์วิหารขุดตระพัง ปลูกบัวนานาพรรณเพื่อเป็นพุทธบูชา ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ในรามอาวาส สร้างพุทธปฏิมา ดูงามนักงามหนาในวิหาร เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่พญารามผู้น้อง ซึ่งมาสิ้นพระชนม์ลง ณ เมืองพระบางเมืองพระบางที่กล่าวไว้ในศิลาจารึกคือ เมืองนครสวรรค์ เดิมซากของเมืองตั้งอยู่บนที่ดอนตั้งชายเขาฤาษีลงมาจรดวัดหัวเมืองมุมเมืองอยู่ตรงวัดนั้นยังพอมีแนวแลเห็นเป็นหลักฐานในปัจจุบัน


ที่มา: http://student.nu.ac.th/54311768/%E0%B8 ... B8%95.html




โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:12


หลวงพ่อใหญ่ พระประธานในวิหารหลวงพ่อใหญ่
วัดไทรม้าใต้ บ้านไทรม้า ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=26884

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:13

พระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปประจำเมืองนนทบุรี
พระประธานในพระอุโบสถ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร
หรือวัดปากอ่าว ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46055

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:14


ประวัติวัดบางจาก ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของ จ.นนทบุรี สร้างขึ้นเมื่อปี
พ.ศ.2365 เดิมวัดบางจากสร้างอยู่ริมคลองบางภูมิ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด เป็นวัดของชาวรามัญ
เพราะสมัยเมื่อ ชาวมอญอพยพเข้ามาในประเทศไทยได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่อำเภอปากเกร็ด
หลังจากนั้นชาวมอญจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้น เพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของประชาชนในแถบนั้น พื้นที่ตั้งของวัดเป็นที่
ราบลุ่มติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านทางทิศใต้ ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะสถานต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นอุโบสถที่มี
ลักษณะทรงไทยสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีกำแพงแก้วล้อมรอบ กฏิสงฆ์ สร้างด้วยไม้ทรงปั้นหยา หอสวดมนต์ สร้างเป็นลักษณะทรงไทยโบราณ



โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:14


ปัจจุบัน วัดบางจากมี “พระปลัดชูเกียรติ ฐิต คุโณ” เป็นเจ้าอาวาสสมัยนั้น ซึ่งท่านเป็นพระนักพัฒนาดึงชุมชนคน
ในย่านปากเกร็ดเข้ามาวัดเพื่อร่วมกัน พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรื่องตลอดมา โดยทางพระปลัดชูเกียรติได้ร่วมกับ
“หลวงพ่อเปรื่อง เขมปัญโญ” วัดบางจาก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัตถุมงคลเบี้ยแก้ ตะกรุดโสฬสมงคล
ตะกรุดยันต์เก้าตัว ตะกรุดพิสมร พระปิดตาสายหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี
สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 19 เมตร สูง 27 เมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นที่บริเวณหน้าวัดบางจาก
ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อไว้เป็นสถานที่ให้ประชาชนเข้าสักการบูชา เป็นสิ่งศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ
ทางพุทธศาสนา และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา


หลวงพ่อค้ำดวง หลวงพ่อหนุนดวง ก่อนหน้านั้น ทางวัดได้ต่อเติมสร้างอุโบสถเป็น 2 ชั้น เนื่องจากอุโบสถหลังเก่า
มีแค่ชั้นเดียว เวลาถึงฤดูน้ำเมื่อไรน้ำจะไหลท่วมอุโบสถทุกครั้ง ทางวัดเลยให้มีการขุดเจาะฐานอุโบสถ
เพื่อต่อเติมเป็น 2 ชั้น ขณะที่เครื่องขุดเจาะไปกระทบวัตถุแข็งเข้าอย่างหนึ่ง คนงานเลยช่วยกันขุดดินกับทรายออก
จึงพบว่าใต้ฐานอุโบสถเป็นอุโมงค์ โดยเครื่องเจาะไปโดนองค์พระโมคคัลลานะ ทำให้บริเวณใบหน้ากับแขนขวาชำรุด
หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ทำให้ชาวบ้านพากันมาปิดทององค์พระ พระองค์หนึ่งใต้ฐานอุโบสถมีป้ายชื่อว่า
พระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้าย (พระหนุนดวง) ส่วนอีกองค์หนึ่งระบุชื่อพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวา
(พระค้ำดวง) โดยพระทั้ง 2 องค์ตั้งวางไว้ลักษณะคล้ายกำลังค้ำฐานของอุโบสถไว้ นอกจากนี้ยังมีลูกนิมิตกลมแต่
แบนอีก 1 ลูก ตั้งวางอยู่บนโขดหิน ส่วนตลอดทางเดินรอบอุโมงค์ซึ่งเป็นดินเหนียว ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมา
ตลอดทาง ชาวบ้านจึงนำภาชนะมารองและเก็บไปอาบกินที่บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทำให้พื้นดิน
เจิ่งนองไปด้วยน้ำ และบางส่วนก็เป็นบ่อขนาดเล็ก ทางวัดต้องนำเครื่องวิดน้ำมาสูบออก แต่ยังมีน้ำไหลเข้ามาเพิ่ม
ตลอดเวลา ทำให้สูบเท่าไรน้ำก็ไม่ลดลงเสียที ทางวัดเลยนำเชือกมากั้นไว้ที่ขอบบ่อ
พร้อมกับเขียนป้ายไว้ว่า “บ่อน้ำพันปี”


คำปรารภของเจ้าอาวาสวัดบางจากในเรื่องของการยกอุโบสถ เนื่องด้วยทางวัดบางจากเป็นที่ลุ่มเมื่อถึงเวลา
น้ำหลากในอุโบสถ จะเต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมขังตลอดมา แล้วก็อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตอนนี้ทางวัดกำลังปรับปรุง
ภูมิทัศน์รอบหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ทำให้ทางวัดต้องย้ายเมรุหรือฌาปนสถาน ออกจากหลังบริเวณองค์พระ
มาไว้ที่บริเวณด้านหลังอุโบสถ เมื่อย้ายมาแล้ว พื้นของเมรุจะสูงกว่าพื้นอุโบสถ ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
เพื่อที่จะไม่ให้น้ำท่วม อุโบสถที่ตอนนี้ก็ต่ำอยู่แล้วเมื่อเมรุย้ายมาก็ทำให้ต่ำคืออยู่ที่ลุ่มลงไปอีก ดูแล้วไม่เหมาะสม
ไม่สง่างาม อาตมาจึงดำริการยกอุโบสถขึ้นเป็นสองชั้น และก็ได้ตกลงทำสัญญากับผู้รับเหมา
เพื่อที่จะให้เจาะลอดอุโบสถ เพื่อที่จะหาทุนทรัพย์ปัจจัย เพราะทางวัดไม่มีทุนสำรอง ไม่มีเจ้าภาพอุปถัมป
์ เมื่อช่างทำการเจาะอุโบสถแล้วประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่าน้ำเหนือไหลหลากมาพอดี ทำให้การขุดเจาะ
ต้องหยุดชะงักลง เมื่อน้ำได้ลงพอสมควรแล้ว อาตมา ผู้เป็นเจ้าอาวาส จึวเร่งช่างให้ขุดเจาะเมื่อเจาะไปใน
กลางอุโบสถ ด้านขวามือ ได้เจอลูกนิมิตลูกเอก ที่แปลกกว่าที่อื่น ก็คือที่เห็นลูกนิมิตไม่กลม เหมือนทั่วไป
จึงสันนิษฐานได้ว่าในสมัยก่อนเครื่องมือเครื่องไม้ไม่ทันสมัย ทำให้ลูกนิมิตไม่กลม เมื่อเจาะไปทางขวมือก
็เจอฐานชุกชี(ฐานพระอุโบสถหลังเก่าที่มีอายุนับร้อยถึงสองร้อยปี) ที่มีสภาพเหมือนแท่นพระทั่วไป
อาตมาคิดว่าภายในน่าจะมีกรุพระถ้ามีหรือขุดเจอจะได้มีทุนทรัพย์มายกอุโบสถหลังใหม่
จนเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 จึงได้ทำการขุดเจาะและก็เจอ เมื่อเวลาประมาณ 3 โมงเย็น แต่ไม่ได้เจอกรุ
เจอสิ่งทีมีค่ายิ่งกว่ากรุ คือเจอองค์ด้านขวามือของเรา เมื่อเจอองค์ที่ 1 ทำให้อาตมาเองและคณะกรรมการม
ีความแปลกใจอัศจรรย์ใจ เป็นอย่างมาก เมื่อเจาะไปอีกด้านหนึ่งก็เจอองค์ที่ 2 อีก ทำให้อาตมายิ่งดีใจ
ว่าท่านคงดลบันดาลใจให้เรามาเจอท่านทั้งที่ฐานพระเก่าไม่น่าจะมีพระฝังอยู่ด้านใน ในตอนนั้นทางทีมงานขุดเจาะ
มีความดีใจ สุขใจ และตื้นตันใจ ว่าสิ่งที่เราเจอต่อให้มีพระกรุเป็นพันเป็นหมื่นองค์ ก็ยังไม่เท่ากับเจอ
หลวงพ่ออัครสาวกทั้งสอง ที่จะเป็นสมบัติคู่วัดบางจากคู่พระพุทธศาสนา ต่อไป อาตมาลองลำดับเหตุการณ์ว่า
วัดบางจากได้มีการพัฒนามาตั้งแต่สมัยใด ท่านอดีตเจ้าอาวาส คือพระครูเกษมจริยาภิรม จนมาถึงอาตมา ได้ทำการ
สร้างพระองค์ใหญ่ โดยมีหลวงพ่อเปรื่อง เขปัญโญ เป็นประธานสร้าง จนองค์พระแล้วเสร็จ อย่างที่เห็นปัจจุบัน
พระพุทธมงคลชัยหรือหลวงพ่อโตท่านคงจะเรียกอัครสาวกของท่านขึ้นมา หรือไม่ก็อัครสาวกเมื่อทราบข่าวการ
สร้างหลวงพ่อโตเสร็จแล้วท่านอยากจะออกมาเอง โดยดลใจอาตมาผู้เป็นเจ้าอาวาสให้ทำการขุดเจาะให้ได้เจอ
อัครสาวกทั้งสอง ฉะนั้น เมือออกมาโปรดพวกเราชาวพุทธหรือชาวบ้านบางจากชาวปากเกร็ดแล้ว
ชาวจังหวัดนนทบุรี หรือทั่วไปทั้งไกลและใกล้ทางวัดโดยพระครุกิตตินนทคุณ เจ้าอาวาสจึงเปิดให้ท่านสธุชน

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:15


ได้ชมบารมีและกราบไหว้ขอสิ่งที่ปรารถนา เพราะว่าพระโมคคัลลานะ(หลวงพ่อหนุนดวง)
เป็นผู้อัครสาวกเบื้องซ้าย ท่านเก่งในทางมีฤทธิ์มากส่วนพระสารีบุตร(หลวงพ่อค้ำดวง)ท่านจะมีปัญญามากเป็น
คู่บารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งพุทธกาล เมื่อถึงเวลาอันสมควน ทางวัดก็จะอันเชิญท่านไว้ ณ ที่อันควร
ขอขอบคุณท่านที่ให้กำลังใจอาตมาผู้เป็นเจ้าอาวาสด้วยดีเสมอมา ขอบอบคุณคณะสงฆ์วัดบางจากที่ม
ีหลวงพ่อเปรื่องเป็นประธาน ขอขอบคุณท่านอาจารย์เปี๊ยก(พระครูเกษมจริยาภิรม)ผู้ที่เป็นอาจารย์ของอาตมา
ว่าสิ่งทีอาจารย์สอนในวันนั้น อาตมาผู้เป็นเจ้าอาวาสได้กระทให้เป็นไปแล้วในวันนี้ บุญกุศลใดที่อาตมาและ
ทางวัดได้กระทำขอน้อมนำให้บูรพาจารย์เจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางจากและท่านพุทธศานิกชน
ทุกท่านทุกคนเทอญ

ที่มา:http://www.klongpraudom.go.th/bangchark_temple.php

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:15


พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล พระประธานคู่เมือง ณ พุทธอุทยาน
วัดเขากงมงคลมิ่งมิตรปฏิฐาราม ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45877

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:17

พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน
[พระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง ๙ เมตร]
วัดพระธาตุเขาน้อย ยอดเขาน้อย ต.ดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:17

พระเจ้าหลวงศรีนครน่าน พระประธานในพระวิหารหลวง
วัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหาร ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:20


พระเจ้ามหาอุตม์ วัดพระธาตุแช่แห้ง ตำบลม่วงตึ๊ด กิ่งอำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถมหาอุตม์ ประดับด้วยลายหม้อดอกปูรณะฆฏะ* สันนิษฐานว่าสร้าง
ในสมัยพระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม ในปีกดสัน จุลศักราช 922 ตัว มีอายุกว่า 451 ปี ลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เอกลักษณ์ศิลปะน่าน นับแต่โบราณใช้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกและเจริญพระพุทธมนต์พิธีมงคลที่สำคัญเท่านั้น เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลความอุดมสมบูรณ์ ทรัพย์สิน โชคลาภ เพิ่มพูนอำนาจวาสนา บารมี และยังช่วยปกปักรักษาคุ้มครองให้พ้นจากภัยอันตราย
ทั้งหลายทั้งปวงได้


โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:20


พระเจ้าทองทิพย์ วัดสวนตาล ถนนมหายศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

"พระเจ้าทองทิพย์" พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยองค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้วเป็นพระประธานในวิหารวัดสวนตาล สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าดิโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นใหญ่ในแคว้นล้านนาไทยในสมัยนั้น

ในพงศาวดารเมืองน่านกล่าวไว้ว่าเมื่อครั้งที่พระเจ้าติโลกราช ยึดเมืองน่านได้แล้ว ก็ได้ปรึกษาเหล่านายทัพนายกอง และเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า การที่กองทัพของพระองค์เข้ายึดเมืองไว้ ได้ในครั้งนี้ มิได้สู้รบให้เสียเลือดเสียเนื้อกำลังไพร่พล เลย เหมือนกับว่ามี เทพเจ้าเข้ามาช่วยเหลือ จึงเห็นควรให้สร้างอะไรไว้อย่างหนึ่งเพื่อเป็นอนุสรณ์ สักขีพยานในชัยชนะ ของพระองค์ครั้งนั้นขุนนางเสนอว่าควรจะสร้างถาวรวัตถุเพื่อประชาชนรุ่นหลังจะรำลึก ถึง เช่น สร้างพระพุทธรูป หล่อด้วยทอง เป็นต้น

ในที่สุดพระเจ้าติโลกราชก็ ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองพระองค์ได้โปรดให้ช่างทั้งหลาย อาทิ พม่า เงี้ยว และชาวเมืองเชียงแสน กระทำพิธี หล่อหลอมทอง และพิธีหล่อองค์พระพุทธรูป ด้วย ช่างได้ กระทำการหล่อทองเทเข้าเบ้าพิมพ์หลายครั้งหลายหน ก็ไม่สำเร็จเพราะ เบ้าพิมพ์แตกเสียทุกครั้งในที่สุดก็มีชายชราแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาวมาช่วยทำ จึงสำเร็จเรียบร้อยสมปรารถนา

เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว พระเจ้าติโลกราชก็ทรงจัดให้มีการสวดปริตถมงคล และจัดให้มีงาน มหกรรมเฉลิมฉลองทำบุญ เป็นการใหญ่มโหฬารยิ่งส่วนชายชรานั้นก็หายสาบสูญไป ไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย ประชาชนชาวเมืองต่างโจษขานกันว่าเป็น เทพยดาแปลงกายลงมา ช่วย จึงได้ขนานพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "พระพุทธรูปทองทิพย์" หรือ "พระเจ้าทองทิพย์" ตั้งแต่นั้นมา


โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:21


หลวงพ่อพระใหญ่ หรือ “หลวงพ่อใหญ่”
พระประธานในอุโบสถ วัดโพธาราม (วัดท่าไคร้) จ.บึงกาฬ

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=45844

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:22


พระสุภัทรบพิตร วนอุทยานเขากระโดง บ้านน้ำซับ ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

เป็นพระพุทธรูปคู่เมือง ภายในเศียรบรรจุพระธาตุ ประดิษฐานอยู่บนเขากระโดง เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปูนขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 12 เมตร ฐานยาว 14 เมตร หันหน้าไปทางทิศเหนือ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2512 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายสุรวุฒิ บุญญานุสาสน์ ในขณะนั้น ร่วมกับพ่อค้าประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในความคิดและโครงการต่างๆ ของหลวงพ่อบุญมา ปัญญาปโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเขากระโดง ได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นบริเวณยอดเขากระโดง เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป จากจุดที่ตั้งขององค์พระ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองบุรีรัมย์ได้

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:24

พระพุทธรูปหยกขาว พระประธานในวิหาร
วัดเจดีย์ทอง ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=21257

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:25


พระพุทธกิติสิริชัย หรือ “หลวงพ่อใหญ่”
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ วัดทางสาย
ริมทะเลบ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=46438

โดย: Metha    เวลา: 2013-12-20 21:36

หลวงพ่ออภัยวงศ์ หรือ “หลวงพ่อปางอภัยทาน”
พระประธานในอุโบสถ วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=41099





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2