Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
~ หลวงพ่อทอง พุทฺธสุวณฺโณ วัดดอนสะท้อน ~
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-3 23:24
ชื่อกระทู้:
~ หลวงพ่อทอง พุทฺธสุวณฺโณ วัดดอนสะท้อน ~
ประวัติหลวงพ่อทอง พุทฺธสุวณฺโณ
วัดดอนสะท้อน จ.ชุมพร
[attach]867[/attach]
หลวงพ่อทอง พุทฺธสุวณฺโณ
เป็นปกติวิสัยที่ชีวประวัติของพระมหาเถระเกจิอาจารย์ทั่วไป จะมีหลายฉบับหลายที่มาเพราะคนสมัยก่อนไม่นิยมที่จะบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นไปได้ว่าในสมัยนั้นการหากระดาษมาบันทึกก็หายากเต็มที แม้แต่นักเรียนก็ยังต้องใช้กระดานชนวนขีดเขียนแทน ซึ่งเมื่อเขียนเต็มหน้ากระดานแล้วก็ต้องลบทิ้งจึงจะเขียนใหม่ได้ อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องกำลังทรัพย์ในการซื้อหา พูดได้ว่าเด็กสมัยโน้นต้องรักษากระดานชนวนให้ดีอย่าเผลอทำตกเป็นอันขาด เพราะมันแตกง่ายแต่การจะได้มาใหม่สักอันมันยากซะเหลือเกิน บ้านที่มีฐานะดีเท่านั้นที่สามารถมีกระดานชนวนได้หลายๆแผ่น จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่พงศาวดารหรือเรื่องราวในอดีต โดยส่วนมากจะเล่ากันต่อๆมา จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก รุ่นลูกสู่รุ่นหลาน แล้วจึงมีการจดบันทึกในภายหลัง ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าประวัติเรื่องราวอาจจะคลาดเคลื่อนได้ ขึ้นอยู่กับมากหรือน้อยเท่านั้น
อย่างประวัติของหลวงพ่อทองก็เช่นเดียวกัน มีประวัติหลายฉบับที่คนรุ่นหลังได้จดบันทึกหรือเขียนขึ้น ซึ่งบางครั้งก็มีคลาดเคลื่อนไปบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นสาเหตุก็คือแหล่งที่มาของข้อมูลนั่นเอง แม้กระทั่งผู้เขียนเองก็ได้ประวัติหลวงพ่อจากหลายแหล่งที่มา แต่เมื่อนำคำบอกเล่ามาผนวกกับข้อมูลหลักฐานที่วัดดอนสะท้อนมีอยู่ จึงประวัติหลวงพ่อครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน
ผู้เขียนได้ศึกษาจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสมัยนั้น ซึ่งนับวันก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว บางท่านอายุเกินร้อยแล้วก็มี บางท่านมาอยู่ที่วัดตั้งแต่เด็กๆ บางท่านเป็นผู้ใกล้ชิดปรนนิบัติหลวงพ่อ บางท่านสมัยเป็นสามเณรได้เดินทางไปธุดงค์กับหลวงพ่อ บางท่านเป็นหลานเป็นเหลน (ลูกหลานของพี่ชายพี่สาว เพราะหลวงพ่อไม่เคยมีครอบครัว)
จากคำบอกเล่าและหลักฐานที่มี จึงขอสรุปประวัติได้พอสังเขปว่า หลวงพ่อทอง ท่านเกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๑๗ ตรงกับปีระกา (ซึ่งมีหลักฐานเป็นรูปปั้นไก่สลักด้วยเลข พ.ศ. ๔๑๗ อย่างชัดเจน ที่ลูกศิษย์หลวงพ่อสมัยนั้นได้สร้างถวาย ปัจจุบันยังอยู่คู่กับรูปเหมือนหลวงพ่อบนมณฑป) หลวงพ่อบ้านปลายอวนหรือปลายยวน หมู่ที่ ๘ ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โยมบิดาชื่อนายสังข์ พรหมสุวรรณ์ โยมมารดาชื่อนางล่อง โดยมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันทั้งหมด ๗ คน หลวงพ่อเป็นคนสุดท้อง
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-3 23:25
รายชื่อพี่น้องทั้งหมด มีดังต่อไปนี้..
พี่สาวคนโตชื่อ หมึก ต่อมาชื่อ นางทองนวล นายรอด นางส้มแก้ว นางส้มแป้น นายเฟืองและสุดท้องคือหลวงพ่อ
เด็กชายทอง เกิดในครอบครัวชาวนาฐานะพอปานกลาง การศึกษาเบื้องต้นเหมือนเด็กชนบททั่วไป ที่ต้องไปเสาะแสวงหาความรู้ที่วัดต่างๆเด็กชายทองก็เช่นเดียวกัน ย่างเข้าวัยหนุ่มหลังจากเสร็จฤดูทำนาแล้ว ได้ชวนเพื่อนไปร่ำเรียนวิชาเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ตามลักษณะนิสัยของหนุ่มๆสมัยนั้น และเต็มใจบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษาที่วัดอินทคีรี หมู่ที่ ๗ ตำบลพรหมโลก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก และอุปสมบทที่วัดนี้ได้รับฉายาว่า “พุทฺธสุวณฺโณ” แปลว่า “ผู้มีผิวพรรณดีดั่งพระพุทธเจ้า” โดยอยู่จำพรรษาอยู่ประมาณ ๒ พรรษา หลังจากนั้นได้ขออนุญาตอาจารย์เพื่อจาริกออกหาความรู้เพิ่มเติม จึงมาเรียนอยู่ที่วัดพระบรมธาตุอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ๒ พรรษา แล้วเดินทางไปยังจังหวัดพัทลุงเพื่อหาสำนักเรียนต่อไป ที่พัทลุงหลวงพ่อได้มาฝากตัวกับพระอาจารย์จันทร์ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่ดังขณะนั้น อยู่พำนักและศึกษาวิชากับท่านพอสมควร พระอาจารย์จันทร์จึงฝากหลวงพ่อให้เป็นศิษย์เรียนวิชาต่อกับพระอาจารย์ทอง (ครูทองเฒ่า) วัดเขาอ้อ ซึ่งเป็นเพื่อนสหธรรมิกของพระอาจารย์จันทร์
ที่วัดเขาอ้อหรือสำนักเขาอ้อ อันเป็นสำนักเรียนที่เลื่องชื่อที่สุดแห่งจังหวัดพัทลุง หลวงพ่อได้สหธรรมิกที่แก่พรรษากว่า คือ หลวงพ่อเอียด อริยวํโส วัดคงคาวงศ์ (พระอาจารย์ของขุนพันธรักษ์ราชเดช) และเป็นสหธรรมิกที่รู้ใจกันมากที่สุด เห็นได้จากระยะหลังจากหลวงพ่อมาอยู่ที่วัดดอนสะท้อน ก็เดินทางไปมาหาสู่กับหลวงพ่อเอียดอยู่เป็นนิตย์ และได้ทดสอบวิชาที่เรียนมาด้วยกันบ่อยๆ
หลังจากที่หลวงพ่อเล่าเรียนวิชาจากสำนักเขาอ้อจนแตกฉานแล้ว ตั้งใจเดินทางออกธุดงค์ขึ้นไปภาคกลาง โดยเดินทางตามทางรถไฟมาเรื่อย จนมาถึงจังหวัดหลังสวน (ปัจจุบันคืออำเภอหลังสวน) หลวงพ่ออยู่จำที่วัดดอนชัยประมาณ ๒ พรรษา ระหว่างนี้ได้รู้จักและแลกเปลี่ยนวิชาที่ร่ำเรียนมากับเพื่อนสหธรรมิกหลายรูป เช่น หลวงพ่อพัน วัดในเขา, หลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อพลอย วัดเชิงคีรี เป็นต้น
จากนั้นหลวงพ่อออกเดินทางมาถึงอำเภอสวี ได้แวะพักจำที่วัดพระธาตุสวี จึงออกเดินทางต่อมายังวัดดอนสะท้อน ระหว่างที่พักจำอยู่ที่นี่หลวงพ่อได้สงเคราะห์ชาวบ้านแถบนี้เป็นอันมาก ด้วยพุทธคุณที่ท่านได้ร่ำเรียนมาทุกครั้งไป จนชาวบ้านนิมนต์ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนสะท้อน นับต่อจากหลวงพ่อพันซึ่งท่านได้ไปสร้างวัดขึ้นใหม่ชื่อว่า “วัดหน้าเมรุ” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก (ปัจจุบันยังมีหลักฐานหลงเหลืออยู่)
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-3 23:25
ระหว่างที่หลวงพ่ออยู่ที่นี่ ด้วยสติปัญญาและพุทธคุณที่หลวงพ่อมีอยู่ ได้ทำนุบำรุงวัดให้เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง สร้างศาสนสถานหลายอย่างและยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน ทั้งเป็นกำลังหลักในการบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุสวี รวมทั้งตั้งโรงเรียนระดับประถมศึกษา(ประชาบาล)ขึ้นครั้งแรกที่นี่ เข้าใจว่าหลวงพ่อคงมีเจตนาที่ดีและความเมตตาแก่เด็กชนบทที่ไม่ค่อยได้รับการศึกษาเท่าที่ควร และเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาโรงเรียนที่ ๖ ของจังหวัดชุมพร (ป.ชพ.๖) ปัจจุบันได้ทำการรื้อถอนเรียบร้อยแล้ว
ด้วยอำนาจพุทธคุณ หลวงพ่อเป็นที่รู้จักในฐานะเกจิอาจารย์สายใต้ ได้รับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกหลายจังหวัดรวมทั้งกรุงเทพมหานครก็หลายครั้ง จนเป็นสุดยอดเกจิอาจารย์ ๑๐๘ แห่งแผ่นดินสยาม มีศิษยานุศิษย์จำนวนมากหลายฐานะหลายอาชีพ
[attach]868[/attach]
บริขารบางอย่างของหลวงพ่อที่ยังเก็บรักษาไว้อย่างดี
โดย:
kit007
เวลา:
2013-4-3 23:27
หลวงพ่อท่านมรณภาพลงที่วัดดอนสะท้อน เมื่อตอนสายของวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๔๙๕ ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๔ รวมสิริอายุ ๗๘ ปี ในงานฌาปนกิจศพหลวงพ่อได้มีญาติโยมศิษยานุศิษย์มาร่วมอย่างล้นหลาม เสร็จงานแล้วต่างก็แย่งกันเก็บอัฏฐิ(กระดูก)หลวงพ่อเพื่อนำไปบูชาและระลึกถึง รวมทั้งให้ช่างปั้นปูนฝีมือดีจากบ้านทุ่งคาใช้นามศิลปินว่า “ก.ทุ่งคา” ปั้นรูปเหมือนหลวงพ่อเพื่อไว้กราบไหว้สักการะ ตอนนี้รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อประดิษฐานอยู่บนมณฑปตรีมุข ที่สร้างถวายโดยหลวงพ่อแช่มเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และจัดงานรำลึกหลวงพ่อทุกวันขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๔ ของทุกปี
[attach]870[/attach]
รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อ
[attach]869[/attach]
สถานที่ฌาปนกิจศพหลวงพ่อ ปัจจุบันคือหอระฆัง
ที่มา
http://www.zoonphra.com/catalog.php?category2=57
โดย:
sriyan3
เวลา:
2013-4-13 16:42
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ
โดย:
AUD
เวลา:
2013-4-20 14:35
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ
โดย:
Metha
เวลา:
2013-12-11 18:40
กราบนมัสการครับ
ขอบพระคุณข้อมูลครับ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2