Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
พระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2013-11-28 06:01
ชื่อกระทู้:
พระอาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-11-28 06:09
รูปพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตทันต์บรรพตหรือพระอาจารย์ทองเฒ่า
ประวัติพระครูสังฆวิจารณ์ฉัตทันต์บรรพตหรือพระอาจารย์ทองเฒ่า
พระอาจารย์ทองเฒ่าท่านเกิดในปี พ.ศ. ๒๓๙๒
วิชาที่ท่านแสดงประจักษแก่ศิษย์ที่เล่าต่อกันมาคือ
1.
วิชา “หินเบา” หรือ “ชาตรี”
อันเป็นวิชาที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาใครที่สำเร็จวิชานี้สามารถแบกซุงต้นใหญ่ หรือแบกก้อนหินก้อนใหญ่เพียงลำพังได้อย่างสบายในสมัยนั้นแบกสำหรับการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งเรื่องวิชาหินเบานี้ ศิษย์สำนักเขาอ้อรุ่นเก่า ๆ หลายคนทำได้
2.
เสกน้ำมันงา
เสกน้ำมันงา
ให้ศิษย์กินเพื่อความคงกระพัน โดยทำให้น้ำมันงาแข็งตัวเป็นวุ้นได้ภายในอึดใจ ซึ่งโดยปกติแล้ว น้ำมันงาดังกล่าว ต่อให้เอาไปแช่ในช่องฟริสตู้เย็นเป็นเดือน ๆ ก็จะไม่มีวันแข็ง
3
.พวงประคำ
ท่านนำชาวบ้านไปตัดไม้ในป่ามาก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด ก่อนที่จะตัดไม้แต่ละต้น ท่านจะทำพิธีพลีกรรมขอเสียก่อน จากนั้นท่านก็จะเอาพวงประคำฟาดไปที่โคนต้นไม้ ต้นไม้ก็จะล้มเหมือนโดนโค้น
ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ทองเฒ่า กำลังทำพิธีอาบว่านแช่ยาให้กับศิษย์ที่บนเขาอ้อ ขณะนั้นได้เกิดท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะฝนจะตก ท่านกลัวว่า หากฝนตกจะทำให้เสียพิธี
จึงถอดพวงประคำออกจากคอมาบริกรรม แล้วโยนอย่างแรงขึ้นไปในอากาศ พวงประคำจะลอยหายไปครู่ใหญ่ ๆ แล้วก็เกิดลมกระโชกพัดพาเอาเมฆฝนไปตกที่อื่น จากนั้น พวงประคำก็จะตกมาหาท่านอย่างเดิม
ปีหนึ่งฝนแล้งขาดช่วงมานานจนข้าวกล้าที่ชาวบ้านปลูกไว้ทำท่าว่าจะแห้งตายคาต้น พระอาจารย์ทองเฒ่าทนเห็นความทุกข์ของชาวบ้านไม่ได้
ได้เอาพวงประคำพวงนี้มาบริกรรม
แล้วก็โยนไปในอากาศพวงประคำก็จะลอยหายไปครู่ใหญ่ท้องฟ้าก็จะมืดครึ้มและมีฝนตกลงมาอย่างหนักจนเพียงพอแล้วท้องฟ้าก็จะแจ่มใสเป็นปกติ
จากนั้นพวงประคำก็จะลอยมาหาท่าน
4.
ตรงศรีษะของท่านมีเส้นผมสีขาวกระจุกหนึ่ง ไม่สามารถโกนหรือตัดให้ขาดได้
ยังมีอีกหลายวิชาที่ท่านศึกษาจนสำเร็จทั้งที่ท่านไม่แสดงให้ศิษย์เห็น และยังมีอีกหลายวิชาที่ผมไม่ทราบครับ ใตรมีข้อมูลก็ติดต่อมาได้ผมจะเอาลงให้เพื่อเป็นประโยชญ์ในการศึกษาต่อครับ..
พิธีเสกน้ำมันงา
ให้ศิษย์กินเพื่อความคงกะพันของสำนักเขาอ้อนั้นพระอาจารย์ทองเฒ่าสามารถเสกให้น้ำมันงาแข็งได้ภายในเวลาชั่วอึดใจเพราะพลังจิตของท่านแก่กล้ามาก ศิษย์ที่ผ่านพิธีการอาบว่านแช่ยาไปจากท่านล้วนแต่เป็นคนคงกระพันทั้งนั้น เมื่อก่อนการทำพิธีอาบว่านแช่ยาได้กระทำกันบนเขาอ้อ ครั้งหนึ่งมีศิษย์ที่เป็นฆราวาสคนหนึ่งเมื่อเสร็จพิธีอาบว่านแช่ยาแล้วได้ถามพระอาจารย์ทองเฒ่าว่าอาบว่านแช่ยานี้กันอะไรได้บ้าง? ขณะที่ถามตอนนั้นยืนอยู่ริมเชิงเขาอ้อพอถามเสร็จพระอาจารย์ทองเฒ่าก็ยกเท้าถีบเปรี้ยงไปที่ศิษย์ช่างถามคนนั้นทันทีศิษย์คนนั้นกลิ้งลุ้นๆ หังหกก้นขวิดลงจากเขาอ้อผ่านคมหินและพงหนามลงมาแผ่หรายังพื้นข้างล่างริมเชิงเขา เมื่อลุกขึ้นสำรวจตามร่างกายแล้วก็ไม่ปรากฏว่าเป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวพอจะออกเดินก็เห็นพระอาจารย์ทองเฒ่ามายืนข้างหน้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
พระอาจารย์ทองเฒ่าก็พูดว่า
"กันได้ทุกอย่าง แต่กันไม่ได้อยู่อย่างเดียวคือตีนกู "
เรื่องการสำเร็จวิชาหินเบาของพระอาจารย์ทองเฒ่าก็มีลูกศิษย์และชาวบ้านเห็นกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการแบกซุงต้นใหญ่โดยตัวท่านเพียงลำพัง หรือการแบกก้อนหินที่มีน้ำหนักเป็นตันๆมาวางเป็นแนวกั้นดินสำหรับการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งวิชาหินเบานี้ศิษย์สำนักเขาอ้อรุ่นเก่าๆ หลายคนทำได้อันเป็นการแสดงว่าสำนักเขาอ้อนี้มีการฝึกฝนศิษย์กันอย่างจริงจังจึงสามารถสำเร็จวิชาหลายอย่างและแสดงฤทธิ์ได้กันอย่างนี้
ครั้งหนึ่งเป็นคืนวันพระได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด
บนยอดเขาอ้อ คือมีแสงสว่างนวลจ้าเท่าๆ กับขอบกระด้งฝัดข้าวบนยอดเขาอ้อมองเห็นได้แต่ไกล มีคนเห็นกันหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าขึ้นไปดู รุ่งขึ้นจึงมาบอกให้พระอาจารย์ทองเฒ่าทราบ ท่านจึงจัดเตรียมของใส่ย่ามแล้วชวนชาวบ้านขึ้นไปบนยอดเขาอ้อและตรงไปดูยังจุดที่มีแสงสว่างนวลจ้าเมื่อเวลากลางคืนเมื่อไปถึงก็พบว่านต้นหนึ่งลักษณะและสีสันผิดแปลกประหลาดไปจากว่านทั่วๆไป ที่เคยพบเห็น พระอาจารย์ทองเฒ่าได้นั่งลงประกอบพิธีกรรมเสร็จแล้วจึง ขุดเอาหัวว่านที่อยู่ใต้ดินขึ้นมา ท่านบอกแก่ทุกๆ คนในที่นั้นว่า
"นี่เป็นพญาว่านที่มีฤทธิ์กว่าว่านทุกชนิดบนโลกนี้นานทีหลายปี
จึงจะปรากฏบนโลกสักครั้งหนึ่งเพราะเป็นของที่พวกเทพเทวดาข้างบนให้มา"
เมื่อได้พญาว่านมแล้วพระอาจารย์ทองเฒ่าก็นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆลงอักขระปลุกเสกแล้วแจกให้ลูกศิษย์ ผู้ที่ได้รับแจกก็นำไปถักเชือกหุ้มแล้วพกติดตัวเป็นเครื่องลางป้องกันอันตราย บางคนขณะกำลังทำนาอยู่กลางแจ้งตอนที่ฝนตกฟ้าคะนองโดนฟ้าผ่าเข้าอย่างจังก็ยังไม่เป็นอะไรเพราะมีหัวพญาว่านเสกของพระอาจารย์ทองเฒ่าติดตัว
พระอาจารย์ทองเฒ่าได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายชนิดแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อมากก็คือ..
ไม้เท้ากายสิทธิ์
ซึ่งต้องทำมาจากไม้มงคลตามตำราเช่น ไม้ชัยพฤกษ์ เป็นต้น ที่ส่วนหัวและปลายของไม้เท้าจะบรรจุวัสดุอาถรรพณ์เอาไว้และก็หุ้มด้วยแผ่นโลหะ ตามตัวไม้เท้าก็ลงอักขระจนเต็ม ไม้เท้ากายสิทธ์ของพระอาจารย์ทองเฒ่าใช้ถือติดตัวจะเป็นมหาอำนาจ และค้มครองอันตรายได้หลายอย่างรวมทั้งเป็นที่แกรงกลัวของภูตผีปีศาจทั่วไปด้วย เมื่อเกิดมีชาวบ้านคนใดถูกผีเข้าเพียงแต่ไปบอกคนที่มีไม้เท้ากายสิทธิ์ของพระอาจารย์ทองเฒ่ามาช่วยรักษา เพียงแต่คนที่ถูกผีเข้าเห็นเท่านั้น ก็จะส่งเสียงร้องด้วยความกลัว และผีก็จะออกโดยไม่ต้องทำอะไรให้มากไปกว่านั้นเลย ไม้เท้ากายสิทธิ์ของท่านถือเดินไปใหนๆตอนกลางคืนก็ไม่มีใครทำอันตรายอะไรได้ รวมทั้งภูตผีปีศาจก็ไม่กล้าหลอกหลอนด้วย
มีลูกศิษย์พระอาจารย์ทองเฒ่าคนหนึ่งบ้านอยู่ริมคลองที่ที่ใหลไปออกทะเลสาบลำปำริมทางเดินเข้าบ้านมีต้นจิกอยู่ต้นหนึ่ง ลือกันว่าต้นจิกต้นนี้มีผีดุมาก เวลามีใครเดินผ่านตอนกลางคืนมักจะโดนผีหลอกเป็นประจำ ตัวเขาเองก็โดนผี
ท่านมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ สิริอายุ ๗๘ พรรษา
ที่มา..
https://sites.google
โดย:
Metha
เวลา:
2013-12-11 00:21
ขอบคุณครับ
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2