Baan Jompra

ชื่อกระทู้: อิทธิฤทธิ์ รัก-ยม [สั่งพิมพ์]

โดย: oustayutt เวลา: 2013-11-24 11:41
ชื่อกระทู้: อิทธิฤทธิ์ รัก-ยม
"พ่อพลาย" เล่าเรื่องขนหัวลุกเมื่อ รัก-ยม ไล่ขโมย
[attach]5661[/attach]

ผมเคยได้ยินเรื่องรัก-ยม มาตั้งแต่เด็กๆ พวกผู้ใหญ่เชื่อกันว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง มีความจงรักภักดีกับเจ้าของหรือผู้เลี้ยงดู หรือจะเรียกว่าเป็นผียอดกตัญญูก็คงไม่ผิดความจริงนัก

ปัญหาคือชาวบ้านหลายๆ คนน่ะเลี้ยงผีเอาไว้ทำไม ในเมื่อตัวเองไม่ใช่หมอผี หรือเชี่ยวชาญทางคาถาอาคม ไม่กลัวผีเรอะ?

คำตอบก็คือ รัก-ยม เป็นผีพิเศษ ไม่ใช่ว่าเคยเป็นคนมาก่อนเหมือนอย่างภูตผีทั่วๆ ไป แต่เป็นผีที่อาจารย์ไสยศาสตร์สร้างขึ้นมาใช้สอย รวมทั้งแจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหา จนกระทั่งกลายเป็นสินค้าในเวลาต่อมา

บางคนก็บอกว่า เมื่ออาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมแกะรัก-ยมแล้ว จะต้องใช้คาถาเรียกวิญญาณผีเด็กๆ ให้มาสิงสู่อยู่ในตัวรัก-ยม

ว่ากันว่าพระภิกษุไม่นิยมทำเพราะเป็นบาปกรรม เรียกวิญญาณเด็กมากักขัง ใช้สอยสารพัด ทั้งทำให้เจ้าของมีเมตตามหานิยม ผู้หญิงหลงผู้ชายมั่ง ผู้ชายหลงผู้หญิงมั่ง เป็นเด็กเฝ้าบ้าน คอยหลอกหลอนขโมยขโจรที่จะบุกรุกเข้ามาลักทรัพย์บ้าง ปล้นสะดมบ้าง

ทำไมต้องมีผีเด็กสองตัว? คำตอบก็คือจะได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นกันตามประสาเด็กๆ แก้เหงา...ว่างั้นเถอะ!

รัก-ยม ทำจากอะไร?

มีท่านผู้รู้อธิบายให้ฟังว่า เขาจะเอากิ่งรักกับกิ่งมะยม มาแกะเป็นตุ๊กตาเด็กไว้จุกตัวเล็กๆ ใส่ขวดหล่อน้ำมันจันทน์ เก็บไว้ที่บ้านให้ช่วยดูแลยามเจ้าของไม่อยู่ บางรายก็พกติดตัวไปด้วย

บางท่านบอกว่า เอากาฝากจากต้นรักมาทำรัก-ยม จะขลังเป็นพิเศษครับ

สรรพคุณของรัก-ยม ก็ตรงตามชื่อ ใช้ในทางเมตตามหานิยม คือทำให้เจ้าของเป็นคนมีเสน่ห์ ใครเห็นใครรัก เกิดความเสน่หาทันตาเห็น ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนไปพึ่งพาอาศัยใครก็มักจะไม่ผิดหวัง

คิดแล้วก็คล้ายๆ กับการเสกน้ำล้างหน้า เสกแป้งผัดหน้า โดยเฉพาะลิเก ละคร และนักแสดงแขนงอื่นๆ ทั่วไปนิยมใช้กันเพื่อเรียกร้องคนดูอยู่เป็นประจำ

คนไทยเราเชื่อเรื่องรัก-ยมมาแต่โบร่ำโบราณแล้วครับ

รู้ทั้งรู้ว่ารัก-ยมของตนมีผีเด็กสิงสู่ แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไร กลับอุ่นอกอุ่นใจด้วยซ้ำว่าให้เฝ้าบ้านก็ได้ พกติดตัวไปก็ดี นอกจากไม่มีใครเกลียดชังแล้วยังรักใคร่มากขึ้นอีกต่างหาก

เมื่อเลี้ยงรัก-ยมไว้ ก็ต้องมีอาหารการกินให้รัก-ยม เหมือนกับเลี้ยงเด็กเล็กๆ ไว้สองคนนั่นแหละน่า!

โดย: oustayutt เวลา: 2013-11-24 11:42
ทั้งอาหารคาวหวาน พวกขนมนมเนยที่เด็กๆ ชอบ รวมทั้งของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องจุดธูปจุดเทียนอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแต่บอกว่า...มากินข้าวกินปลาได้แล้วลูกเอ๊ย! หรือไม่ก็...พ่อแม่ซื้อตุ๊กตุ่นตุ๊กตามาให้เล่นแน่ะ

[attach]5662[/attach]
ข้อสำคัญอย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือโผล่ออกมาวิ่งเพ่นพ่านให้ใครเห็นล่ะ...เดี๋ยวพ่อแม่กก็จะพลอยเป็นลมไปด้วย

มีข้อห้ามขาดอย่างเดียวคือ คนที่มีลูกเล็กๆ ห้ามเลี้ยงรัก-ยม เพราะอาจจะโดนรังแกได้ รัก-ยม ก็รู้จักอิจฉาริษยาเหมือนกัน ไม่ต้องการให้พ่อแม่เผื่อแผ่ความรักให้ใครนอกจากตัวเอง

เมื่อเด็กๆ ผมอยู่ที่ภาษีเจริญก็เคยเห็นฤทธิ์เดชรัก-ยมมาแล้ว

บ้านข้างๆ คือผัวเมียวัยกลางคน ชื่อลุงหยิบกับป้าแข มีอาชีพขายผักปลาที่ตลาด ลูกเต้าก็ไม่มีสักคน ออกจากบ้านก็ใส่กุญแจประตูไว้ แต่ไม่เคยปรากฏว่ามีขโมยขึ้นบ้านเหมือนที่คนอื่นๆ เคยเจอะเจอมาหลายราย

ชาวบ้านลือกันว่า ลุงหยิบกับป้าแขมีของดีจากอยุธยา คือรัก-ยม นี่แหละครับที่ช่วยเฝ้าบ้านให้ตลอดมา

ตอนที่ได้รัก-ยมมาใหม่ๆ โดนขโมยขึ้นบ้าน 2-3 ครั้งในเวลากลางวันแสกๆ แต่หัวขโมยก็เจออิทธิฤทธิ์รัก-ยมเข้าเต็มเปา

บ้านลุงหยิบกับป้าแขเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง มีต้นไม้ต่างๆ รวมทั้งดงกล้วยดกหนาเป็นรั้วบ้าน ตอนบ่ายๆ มีคนเห็นชายแปลกหน้า 3 คนเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านที่ใส่กุญแจเงียบเชียบ...ในที่สุดก็ชวนกันเดินเข้าไปเพราะเห็นว่าปลอดคนแน่ๆ

เพียงแต่ก้าวขึ้นบันไดไปถึงนอกชาน หัวขโมยทั้ง 3 ก็ชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้านที่ใส่กุญแจดอกใหญ่เรียบร้อย

"มาหาใครจ๊ะน้า? พ่อแม่ไม่อยู่หรอกจ้ะ"

เสียงแจ้วๆ ดังมากระทบหูเล่นเอาสะดุ้งโหยง เหลียวซ้ายแลขวาลอกแลกก่อนจะหันมองสบตากัน รู้สึกว่าอากาศเย็นเฉียบจนหนาวสะท้านไปถึงหัวใจ...เสียงหัวเราะล้อเลียนก็ดังขึ้นอีก

"อยากเข้าจริงๆ หนูจะถอดกุญแจให้เอามั้ย? รอเดี๋ยวนะน้า"

แทบไม่ขาดเสียง กุญแจทองเหลืองก็หลุดแกร๊ก...หัวขโมยทั้งสามหมุนตัวกลับ โจนลงบันไดไม่คิดชีวิตจนแทบแข้งขาหักไปตามๆ กัน

อีกครั้งมากัน 2 คน ใช้ซากูไรงัดสายยูคล้องกุญแจหลุดออก เปิดประตูแอ๊ดก็มองเห็นเด็กชายอายุราวสิบขวบ 2 คนยืนอยู่กลางห้อง จ้องเขม็งด้วยนัยน์ตาแดงจ้าราวแสงไฟ เสียงหัวเราะแหบโหยเขย่าขวัญจนหัวขโมยแผดร้องสุดเสียง สติแตกจนโดดหนีลงจากนอกชาน ขาหักหลังเดาะจนหนีไม่รอด

"มันยืนหัวเราะฟันขาวอยู่นั่นไง! โอ๊ย...กลัวแล้ว..." คนหนึ่งบอกเสียงสั่นเครือ แต่อีกคนเอาแต่แผดร้องโหยหวน บาดลึกลงไปถึงหัวใจของทุกคนที่ได้ยิน!

ข้อมูลจาก http://www.matichon.co.th

โดย: matmee2550 เวลา: 2013-11-24 15:53
เยี่ยมๆ

โดย: morntanti เวลา: 2013-11-24 22:20
มีแต่ รัก - ยม รุ่น 2 ของ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ครับ

โดย: lnw เวลา: 2013-11-24 22:24
ขอบคุงขอบคุณ คับ ชอบๆๆ

โดย: oustayutt เวลา: 2013-11-25 09:57

morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-11-24 22:20
มีแต่ รัก - ยม รุ่น 2 ของ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ครับ ...

โดย: Sornpraram เวลา: 2013-12-1 09:15

morntanti ตอบกลับเมื่อ 2013-11-24 22:20
มีแต่ รัก - ยม รุ่น 2 ของ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ครับ ...

น่าจะเป็นกัญหา ชาลี นะครับพี่มร

โดย: morntanti เวลา: 2013-12-2 00:42

Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-12-1 09:15
น่าจะเป็นกัญหา ชาลี นะครับพี่มร

ขอบคุณครับ จริงด้วย กัญหา ชาลี ...แก่แล้วก็อย่างนี้หละหลงๆลืมๆ

โดย: Tim เวลา: 2013-12-2 10:55
เคยไปเจอเรื่องแปลกน่ะครับเรื่องจักรพรรดิ์ที่มีแก้วเจ็ดประการ รายชื่อลูกท่านรู้สึกมีรักกับยมด้วย บอกหลวงปู่ดีกว่าจะได้ขุดตำรารักยมชนิดไร้เทียมทาน

โดย: oustayutt เวลา: 2013-12-4 19:53

Tim ตอบกลับเมื่อ 2013-12-2 10:55
เคยไปเจอเรื่องแปลกน่ะครับเรื่องจักรพรรดิ์ที่มีแก้ว ...

ดีเลยครับพี่ทิม

ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)