Baan Jompra

ชื่อกระทู้: คุณจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเหวี่ยง วีน! [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-10-16 07:10
ชื่อกระทู้: คุณจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเหวี่ยง วีน!
คุณจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเหวี่ยง วีน!







                เมื่อพูดถึงคนเจ้าอารมณ์ที่ชอบวีนและเหวี่ยงใส่ผู้คนรอบข้างอยู่เป็นประจำนั้น จะว่าไปก็คงไม่มีใครชอบใจกับบุคคลประเภทนี้นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าอารมณ์โกรธ โมโห หรือไม่พอใจของคนเรา เป็นอารมณ์ปกติที่ใครๆ ก็มีได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะควบคุมมันได้มากแค่ไหน และคนคนนั้นเขาไปเจออะไรมา แล้วถ้าหากคุณต้องเจอบุคคลที่ไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์วีนและเหวี่ยงเหล่านี้เสียเลยล่ะ คุณจะมีวิธีจัดการหรือรับมือกับคนเหล่านี้อย่างไร



“โดนัท” มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล : “จริงๆ แล้วโดนัทก็เป็นคนที่โมโหง่ายมาก หงุดหงิดง่าย ก็จะพยายามใจเย็น แล้วเวลาเจอใครที่หงุดหงิดกว่า เราก็เหมือนจะเย็นไปโดยปริยาย คือมันเป็นความโชคดีอ่ะค่ะ คือถ้าเจอกรณีแบบนี้ก็จะเงียบ ไม่พูดอะไร ทำมึนไปเลย ไม่ปะทะ หรือไม่ก็เดินหนีไปเลย”

“ปีเตอร์” คอร์ป ไดเรนดัล : “วิธีการจัดการกับอารมณ์ปี๊ดของคนนี่ก็คือมองโลกในแง่ดี คือมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราอาจจะต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดได้ แต่ถ้าคนรอบข้างอารมณ์ดี ยิ้ม มันก็จะช่วยแก้สถานการณ์ คลายเครียดให้กับทุกคนได้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าเหตุผลอะไรไม่รู้ แต่บางคนเขาอาจจะยอมในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ค่อยได้ บางคนก็อาจจะสบายๆ กว่า อันนี้มันก็แล้วแต่คาแร็คเตอร์ครับ แต่ผมคิดว่าถ้าผมอารมณ์ดี เขาก็คงไม่มาวีนใส่”

“เอ๊ะ” ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์ : “ก็นิ่งอ่ะค่ะ ถ้าเขาจะเดือดก็ให้เขาเดือดไปคนเดียว ถ้าเราไปร้อนกับเขาด้วยก็คงไม่มีประโยชน์ ก็ไม่รู้ว่าเราจะไปต่อล้อต่อเถียงให้มันยิ่งโมโหเพิ่มมากขึ้นทำไม เอ๊ะเฉยๆ กับคนแบบนี้นะ เขาโกรธเขาวีนเอง เขาก็เป็นคนพังเอง เราไม่ได้ไปอะไรกับเขาอยู่แล้ว เจอคนแบบนี้บ่อยค่ะในวงการแฟชั่น แต่ว่าก็จะเป็นลักษณะอารมณ์เสีย เหวี่ยงใส่ ไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้น จดจำไปแบบว่าโกรธกัน ก็จะเป็นเฉพาะหน้างานที่เราอาจจะทำอะไรพลาดหรือไม่ถูกใจ”



“เตอร์” ปริยะ วิมลโนช : “ถ้าเป็นลูกค้า ยังไงลูกค้าก็คือพระเจ้า ผมก็ต้องนิ่งไว้ก่อนนะ คนพวกนี้ต่อล้อต่อเถียงไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นไม่จบ สู้เราเงียบไปเลยดีกว่า รอให้เขาใส่มาทีเดียวแล้วจบ แล้วพอเขาอารมณ์เย็นลง คนพวกนี้ก็จะมีเหตุผลมากขึ้น แต่ผมก็จะยอมได้แป๊บเดียว ถ้าเขานานเกินผมก็ปี๊ดกลับเหมือนกันนะ คนพวกนี้ผมเข้าใจเขา เพื่อนผมที่มีนิสัยอย่างนี้ก็มี ถ้าพูดกันจริงๆ คือเขามีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่เขาเกิดแล้วล่ะ เขาถูกปลูกฝังมาแบบนี้ วิธีแก้ง่ายๆ เราก็อย่าไปจริงจัง อย่าไปซีเรียสอะไรกับเขามาก”

“สเตฟาน” สันติ วีระบุญชัย : “ผมจะบอกเลยว่าผมเป็นเพื่อน “เต๋า” สมชาย (หัวเราะ) อย่างแรกเลย ผมคงไม่ร่วมงานหรือร่วมมือกับพวกขี้โมโห ขี้วีน ขี้เหวี่ยงอยู่แล้ว คือถ้าอย่างนั้นมากๆ ผมก็ไม่ทำงานกับเขา ผมก็คงด่าเขา เพราะผมไม่ชอบคนแบบนี้ ผมเป็นคนไม่ค่อยทนอะไรที่ไม่ดีของคนอื่น ถ้าเขาทำไม่ดีกับเรา เราก็มีสิทธิ์ตอบโต้ที่ไม่ดีกับเราไปเหมือนกัน”

“มอส” ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ : “รู้สึกเฉยๆ ขำๆ เพราะคนที่เป็นแบบนี้เขาก็คงมีนิสัยแบบนี้ของเขาอยู่แล้ว ยังไงเราคงไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราเปลี่ยนตัวเองดีกว่า ผมก็จะนิ่งๆ ไป แต่ถ้าโดนหาเรื่องก็คงเดินหนี เพราะไม่พร้อมที่จะมาอยู่ในจุดที่จะให้คนอื่นมาโมโหใส่ แล้วก็เป็นนิสัยส่วนตัวของผมด้วยที่ไม่ชอบการปะทะกันแบบนั้น”

“ธัญญ่า” ธัญญาเรศ เองตระกูล : “ถ้าเป็นการวีนใส่คนอื่น เราก็เฉยๆ นิ่งๆ แต่ถ้าเขามาวีนใส่เรา เราก็ไม่ยอม ต้องจัดการ คือหมายความว่าต้องหาเหตุผล ต้องคุย ถามว่าเราจะเหวี่ยงกลับมั้ย อันนั้นก็แล้วแต่ค่ะว่าเราจะควบคุมอารมณ์ได้หรือเปล่า คือปกติเราก็ไม่ค่อยได้อะไรกับใครอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ดีๆ แบบมาวีนไร้เหตุผลใส่เรา เราก็เป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน”

“สา” มาริสา แอนนิต้า : “ก็ทำงานของตัวเองต่อไป ด้วยนิสัยสาก็คงเฉยๆ อ่ะค่ะ สาไม่ใช่คนขี้วีนนะ นอกจากอะไรที่สารู้สึกว่ามันไม่ใช่เหตุและผลน่ะค่ะ แต่สาเป็นคนที่ค่อนข้างนิ่งมากๆ อยู่แล้ว เป็นคนตรงไปตรงมา ชอบอะไรที่มันแบบบอกแบบนี้ก็ต้องให้มันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่บอกแบบนี้แล้วให้ไปทำอีกอย่าง ไม่ได้เป็นคนขี้เหวี่ยง วีน สาคิดแค่ว่าเราออกมาทำงาน เราก็ต้องมาทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คนอื่นจะทำอะไรมันก็เป็นส่วนของคนอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา”

“เป็ด” อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์ : “ถามตัวเองก่อนนะว่าจำเป็นต้องทนมั้ย ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่รับงานซะ ไม่ต้องเจอซะ ต่างคนต่างอยู่ดีมั้ย เผื่อว่าสังคมรอบข้างในวันนั้นจะได้สงบสุข ที่ผ่านมาเคยเจอเพื่อนร่วมงานที่ขี้วีนมาเหมือนกัน แรกๆ มันอาจจะลำบากใจนะ เหมือนกับเฮ้ยเราหงอไปหรือเปล่า หรือว่าคนเขาจะเมาท์เราหรือเปล่าว่าเรากลัวเขาถึงไม่กล้าวีน หรือไม่กล้าโต้ตอบกลับไป แต่กลับกลายเป็นว่ามันเหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าเรามีสติมากกว่า เรามืออาชีพมากกว่า มันก็ทำให้งานผ่านไปด้วยดี ในที่สุดคนก็เข้าใจ”

“เต๋า” สมชาย เข็มกลัด : “คือผมเฉยๆ อ่ะครับ เพราะว่าเราก็มีหน้าที่รับผิดชอบของเรา ผมก็จะมีมุมที่อยู่ของผมอยู่แล้ว ผมก็ทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ส่วนที่เหลือก็คือแล้วแต่ความรับผิดชอบของแต่ละคน ซึ่งบางทีอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของผมเนี่ย ผมก็คงไม่เอามายุ่งกับตัวผม หรืออะไรที่ผมไม่เกี่ยวข้องเนี่ย ผมก็จะไม่ยุ่งกับเขา ผมไม่เคยเจอใครมาวีนมาเหวี่ยงใส่นะ ต้องบอกว่าเพื่อนร่วมงานของผมดี ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ พี่ๆ หรือทุกๆ คน ส่วนมากก็จะมาคุยเรื่องราวสนุกๆ น่ารักๆ อย่างนั้นมากกว่า ผมไม่เคยเจอคนวีน ผมเองก็ไม่เป็นนะ ไม่เคยวีนเหวี่ยงใส่ใครเลย”

“ต่าย” ณัฐฐพนธ์ ลียะวณิช : “ผมก็พยายามชิลชิลนะ คือจริงๆ ก่อนที่เขาจะมาเจอเรา เขาอาจจะเจอปัญหาแบ็กกราวนด์เรื่องที่ไม่ดีมาก่อนหรือเปล่า อารมณ์ก็เลยเหวี่ยงๆ นิดหนึ่ง แต่ว่าก็พยายามทำความเข้าใจ คือจริงๆ เราไม่น่าจะเอาเรื่องราวเพียงครั้งเดียวของเขามาพิจารณา ถ้าเขาไม่ดูถูกหรือเหยียดหยามเราจนเกินไป เราก็พยายามทำความเข้าใจเขาแล้วก็เลี่ยงๆ ไปดีกว่า แต่ถ้ามาดูถูกหรือไม่ให้เกียรติเราก็คงต้องคุย”


ที่มา.http://www.crowsmagazine.com



โดย: เฟม...zonya    เวลา: 2013-10-16 10:02

อารมย์ประมาณ “เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์" อ่ะค่ะ  
ที่แปลกคือ "คนประเภทนี้ มักไม่ค่อยจะรู้ตัวว่าตัวเองวีนเว่อร์" ...กรรม...

โดย: morntanti    เวลา: 2013-10-16 10:46


โดย: Metha    เวลา: 2013-10-19 14:17
ผมจะทำแบบนี้ครับ

ยอมแล้วคร้าบ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2