....................................................................................................
จัดได้ว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีแหล่งแร่เฉพาะใน เขตอำเภอ บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีเท่านั้น โดยในส่วนของพุทธคุณของแร่บางไผ่นั้น จัดได้ว่าเป็นโลหะธาตุที่นักนิยมสะสมพระเครื่องทราบดีว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์เมื่อนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลจะทรงพลานุภาพความศักด์สิทธิ์เข้มขลังดังที่พระเกจิโบราณาจารย์ คือหลวงปู่จัน วัดโมลี จังหวัดนนทบุรี เมื่อในครั้งอดีตได้สร้าง”พระปิดตาแร่บางไผ่” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่คงความนิยมแถวหน้าตลอดมาปัจจุบันนี้การสร้างวัตถุมงคลโดยใช้แร่บางไผ่เป็นมวลสารนั้นไม่ค่อยพบเห็นกันมากด้วยเหตุผลที่ว่าพระผู้ที่เก็บแร่บางไผ่นั้นมีน้อยองค์ขณะเดียวกันพื้นที่เก็บแร่นั้นก็ลดลงตามการขยายตัวของเมือง( ในปัจจุบันพื้นที่บางส่วนกำลังถูกขายออกไปเนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังจะสร้างผ่านเส้นทางบางจุด)ที่สำคัญคือการสร้างวัตถุมงคลที่ใช้แร่บางไผ่เป็นมวลสารนั้นทำได้ยาก รวมทั้งวัตถุมงคลไม่สวยสมบูรณ์เหมือนการใช้มวลสารอื่นๆพระครูวิสาลสรคุณ (หลวงพ่อไวพจน์ กตปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดสามง่าม อ.บางบัวทองจ.นนทบุรี ซึ่งได้ศึกษาวิธีเก็บและหุงแร่บางไผ่ บอกว่า ถิ่นกำเนิดของแร่บางไผ่ความจริงแร่บางไผ่นั้นไม่ได้เกิดที่บางไผ่ แต่เกิดที่คลองบางคูลัด อ.บางใหญ่จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเหนียวเหมาะแก่การเกษตรกรรมมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีแร่ชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อดูผิวเผินแล้วเหมือนดินดานจับปึกและมีในเนื้อที่ไม่กว้างนักชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ทำนาทำสวนไม่ทราบเลยว่านี่คือแร่ชนิดหนึ่งเมื่อนำจากธรรมชาติมาหล่อหลอมด้วยไฟแรงสูงแล้วจะมีสภาพกลายเป็นแร่เหล็กทันทีเพราะแม่เหล็กจะสามารถดูดติด แต่ถ้าอยู่ตามธรรมชาติ แม่เหล็กจะดูดไม่ติด ก่อนการเก็บดินที่มีส่วนผสมของแร่บางไผ่ต้องบวงสรวงขอจากเจ้าที่ก่อนโดยจะเก็บได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั่น ซึ่งถ้าออกไปเก็บนอกฤดูฝนจะไม่พบปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวจากในอดีตที่เป็นเรือกสวนไร่นากลับกลายเป็นหมู่บ้าน โรงงานไปเกือบหมดแล้ว ทำให้สถานที่เก็บแร่น้อยลงไปด้วยซึ่งเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตหากมีการสร้างหมู่บ้านจัดสรรมากๆในที่สุดก็จะไม่มีสถานที่เก็บแร่บางไผ่
"คนอายุร่วม ๑๐๐ ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนนี้มีมากมายในเนื้อที่ของตนแต่พอมาทีหลังค่อยๆ หายไปโดยไม่มีสาเหตุ และถ้าจะเก็บจะต้องบวงสรวงก่อนมิฉะนั้นจะหาไม่เจอและต้องเก็บในฤดูฝนเท่านั้นเมื่อเก็บแร่มาได้แล้ก็นำมาแช่ไว้ในโอ่งน้ำ โดยน้ำที่ใช้แช่นั้นเป็นน้ำคาวปลา (น้ำที่ล้างตัวปลาที่ทำแล้ว) เมื่อต้องการหุงแร่ก็นำไปผึ่งแดดให้แห้งจากนั้นก็เข้าเตาหลอม เมื่อหลอมก้อนดินที่มีส่วนผสมของแร่บางไผ่ก้อนที่หนัก ๑ กิโลกรัมจะได้เนื้อแร่บางไผ่ประมาณ เพียง ๕ ขีด" หลวงพ่อไวพจน์ กล่าวพุทธคุณของแร่บางไผ่
ตามคติความเชื่อเรื่องพุทธคุณของแร่บางไผ่มีความเชื่อกันว่าความอัศจรรย์ดังกล่าวในการทำพระของหลวงปู่จันนั้นผู้นำไปใช้นำมาเล่าขานกันต่อมาว่า คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย มั่งมีศรีสุข
ในตำนานหลวงปู่จัน ผู้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ท่านมีความรู้ในการเล่นแร่แปรธาตุและรู้จักแร่ธาตุต่างๆ เป็นอย่างดีท่านจึงนำแร่ดังกล่าวนี้มาเพื่อจะแปรธาตุให้เป็นทองคำ และท่านกล่าวไว้อีกว่าแร่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เมตตา คงกระพันอยู่ในตัวแล้ว จึงไม่สามารถเป็นทองคำได้ท่านจึงหันเหจากการแปรธาตุกลับมาทำเป็นพระปิดตายันต์ยุ่งที่ขึ้นชื่อลือชานักหนาปัจจุบันมีการเช่าบูชากันในราคาเกือบล้าน
นอกจากนี้แล้วแร่นั้นเสมือนมีชีวิตถ้าอยู่ตามธรรมชาติจะต้องอยู่ในน้ำเท่านั้นจึงจะนำมาหล่อหลอมแล้วมีธาตุเหล็กเหลืออยู่ถ้าอยู่ที่แห้งนานๆ ถึงแม้นำมาหล่อหลอมก็จะกลายเป็นเถ้าไม่มีธาตุเหล็กหลงเหลืออยู่เลย และก่อนที่จะนำมาหลอม เมื่อนำมาจากธรรมชาติแล้วต้องเลี้ยงด้วยน้ำคาวปลา แร่นั้นจึงจะมีน้ำหนักสมบูรณ์เมื่อมาหล่อหลอมก็จะไล่ขี้ออกได้ง่ายอย่างน่าอัศจรรย์
"นักเดินไพรสมัยก่อนอมพระปิดตาแร่บางไผ่ไว้ในปาก เดินได้เป็นวันๆ ไม่ต้องกินน้ำมีกำลังวังชา คนโบราณเอาพระแช่น้ำมันงาไว้ เอาสำลีจุ่มน้ำมางาทัดหูไปเพียงแค่นั้นก็อยู่คงแล้ว อุปเท่ห์การใช้พระแร่บางไผ่ที่ให้คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งคือท่านให้เอาพระแช่น้ำผึ้งไว้แล้วเอาน้ำผึ้งมากินทุกวัน ท่านว่าทำให้มีกำลัง ไม่เหนื่อยง่าย อายุยืนไปไหนมาไหนก็คล่องแคล่วไม่เจ็บป่วย ที่ดินของชาวบ้านที่มีแร่บางไผ่ไม่มีครอบครัวไหนที่ยากจนเลย มีแต่ครอบครัวมั่งคั่งแร่บางไผ่นั้นเมื่อนำมาทำพระโดยสมบูรณ์แล้ว ต้องแช่น้ำมันงาจึงจะเกิดความสวยงามชุ่มฉ่ำ และดูลึกซึ้งยิ่งนัก" นุ เพชรัตน์ กล่าว
ที่มา:
www.komchadluek.com
...............................................................................
กำไลสัมฤทธิ์โบราณ
"สำริด" สามารถเขียนอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "สัมฤทธิ์" น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ตรงกับภาษาบาลีว่า สมิทฺธิ แปลว่า “ความสำเร็จ”
สำริด สัมฤทธิ์ ทองสำริด หรือ Bronze ในภาษาอังกฤษ ก็คือ “โลหะผสม” ที่เกิดขึ้นจากการเทคโนโลยีในการนำแร่ทองแดงจากธรรมชาติมาหลอมผสมรวมกับแร่ธาตุอื่น ๆ เช่นดีบุก ตะกั่ว ในอัตราส่วนที่เหมาะสม
[attach]339[/attach]
กำไลสัมฤทธิ์โบราณ เป็น วัสดุธาตุที่ทรงความศักดิ์ในตัว เป็นธาตุที่ผู้ทรงคุณทางจิตยอมรับว่าเนื้อสัมฤทธิ์ซึมซับรองรับกระแสพลังแห่งจิตได้ดีเยี่ยม
เมื่อครั้งหลวงปู่ชื่นท่าน จะจัดสร้างวัตถุมงคลชุด พิธีชัยมหานาถ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ ได้นำมาถวายถึง ครึ่งกระสอบปุ๋ย นัยว่าขุดพบได้มาจากแถวๆ เขาพนมรุ้ง เป็นกำไลสัมฤทธิ์ ที่ผ่านการอธิฐานจิตจากหลวงปู่ชื่นแล้ว ที่เหลือจึงนำมาจัดสร้าง พระกริ่งศรีราชาเวท
.......................................................................................................................
[attach]340[/attach]
ตะกรุดมหาระงับ หลวงปู่ชื่น
จำนวน 2 ใน 9 ดอก ที่หลวงปู่สร้างขึ้น
เป็นหนึ่งในสุดยอดชนวนมวลสารของ
พระกริ่งศรีราชาเวทด้วยนะคร๊าบบบบ ขอบอก !!