>>>สีผึ้งกาหลงรัง<<< - Baan Jompra

อาจารย์สรายุทธ ได้นำเอาผงสาริกาและสีผึ้งเก่าของพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น นำมาจัดสร้างตามตำรามหาขันต์สาริกา เป็นตำรามหายันต์ ในด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหามิตร มหาโชค มหาลาภ นำความเจริญรุ่งเรืองของศาสตร์ชั้นสูง พระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่นท่านสำเร็จมหายันต์สาริกาโดยตรง และได้ถ่ายทอดไว้ให้ ท่านได้นำผงสาริกาลิ้นทอง ผงสาริกาหาคู่ ผงสาริกาหลงรัง ผงสาริกาพญาการเวก ผงหัวใจยูงทอง ผงหัวใจเทพจำแลง ผงสาริกาตัวผู้-ตัวเมีย ผงสาริกาเขาครัว ผงสาริกาป้อนเหยื่อ ซึ่งเป็นผงเกี่ยวกับมหาเสน่ห์โดยเฉพาะ พุทธคุณสูงใช้ดีทาง เมตตามหานิยม-มหาเสน่ห์ มหาระลวย เจรจาพาทีไพเราะเสนาะหูจับจิตจับใจแก่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังให้หลงไหลคล้อยตาม บันดาลโชคลาภ วาสนา เป็นที่รักชอบของผู้ที่ได้พบเห็น

>>>เรื่องเล่า...กล่าวขาน<<
”เจ้าแม่กาหลง” หรือ “เจ้าแม่แห่งความรัก”

   ตำนานที่มาของ”เจ้าแม่กาหลง”นั้นเกิดจากพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินทางออกจาริกมาถึงบริเวณใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งวันหนึ่งท่านได้นั่งสมาธิและได้นิมิตพบว่ามีต้นกาหลง อยู่ในบริเวณที่แห่งนั้น ซึ่งมีหญิงสาวผมยาวผิวเหลืองดุจขมิ้น แต่งกายเหมือนสาวชาววังสมัยโบราณด้วยผ้าสีเขียวอร่ามสิงสถิตอยู่เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องจึงเกิดความศรัทธาและพากันจัดสร้างศาล เจ้าแม่กาหลง

   และมีเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นมานานแล้วราวปี พ.ศ.2527 ซึ่งลงในนิตยสารมหัศจรรย์ เกี่ยวกับมีผู้ค้นพบต้นไม้ประหลาดต้นหนึ่งในจ.กาญจนบุรี ที่มีนกมาเกาะอยู่เต็มต้นโดยไม่ยอมบินไปไหนจนกระทั่งตาย บุคคลผู้นั้น คือ นาย บูรพา สุพรรณอ่อง ซึ่งต่อมาได้นำมาเขียนลงคอลัมน์ในนิตยสารมหัศจรรย์เกี่ยวกับไม้ กาหลงรังต้นนี้ ซึ่งมี”เจ้าแม่กาหลง”สถิตอยู่ด้วยกันถึงสามนาง โดยมีนามว่า….
   แม่ทองคำ แม่ทองดำ แม่ทองเปลว จึงได้มีการนำเอาไม้กาหลงนี้มาตัดแบ่งออกทำเป็นวัตถุมงคลรูปแบบต่างๆที่เกี่ยวกับมหานิยม มหาเสน่ห์ เช่น สาลิกา ,ตะกรุด,จากกิ่งก้านสาขาขนาดเล็กของต้นไม้นี้ ส่วนดินบริเวณโคนต้นก็ได้นำมาทำเป็นวัตถุมงคลด้วยเช่นกัน นิตยสารมหัศจรรย์ได้นำเรื่องราวความขลังความอาถรรพ์ลี้ลับมหัศจรรย์ ของวัตถุมงคล ที่ทำจากส่วนต่างๆของต้น กาหลงต้นนี้มาลงไว้ตลอดซึ่งเกี่ยวกับผู้ที่มีไว้บูชามักจะเกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น ทุกปัญหาความรัก ผิดหวังความรักสามีไปมีภรรยาน้อย ภรรยานอกใจ มาบอกกล่าวให้เจ้าแม่ช่วยเหลือได้ ไม่ผิดหวัง
!!! แต่ว่าพระอาจารย์ บูรพา ท่านเคยเล่าให้ผู้คนฟังว่าตอนท่านเล่นลิเกอยู่วัดเเห่งหนึ่งชึ่งท่านเองก็จำไม่ได้ว่าวัดอะไร เมื่อลิเกเลิกท่านได้ตั้งใจจะไปดูหนังกลางแปลง ต่อ เมื่อเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ภายในวัดท่านเห็นชายแก่ใส่ชุดขาวท่านหนึ่ง เดินเข้ามาคุยกับท่านว่า...ไอ้หนุ่มเล่นลิเกถ้าจะให้ได้ดี ลองหาไม้กาหลงรังที่นกหลงต้นจนตายแม้จะแค่เพียงตัวเดียวก็ยังดี นำมาบูชาพกพาติดตัวไว้สิ!!  บ๊ะ!!ขนาด.นก กา มันยังหลง ..แล้วคนมันจะไม่หลงได้อย่างไร.....แล้วชายชราดั่งกล่าวก็เดินหายไป ท่านเล่าว่าเหมือนกับเดินหายเข้าไปในต้นไม้ใหญ่...นับตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์บูรพา ท่านก็เที่ยวเสาะแสวงหาไม้กาหลงรัง ตามคำแนะนำของชายชราชุดขาวที่มาปรากฎให้ท่านเห็นในคืนนั้น..พระอาจารย์ บูรพา ท่านได้เมตตาเล่าว่า..พระเอกลิเกสมัยก่อนนั้น ก่อนออกโรงเขาก็ใช้มนต์แม่กาหลง นี่แหละโยม จึงทำให้มีแม่ยกทั้งสาวแก่แม่หม้ายมาติดกันงอมแงม ใครอย่าเผลอไปจ้องตาพระเอกลิเกก็แล้วกัน..พ่อเป่ามนต์นี้ก่อนออกโรง..

(นาย บูรพา สุพรรณอ่อง หรือในปัจจุบันท่านได้อุปสมบทมาเนิ่นนานหลายพรรษาแล้วคือ..พระครูสุธรรมกาญจนาภรณ์ (บูรพา กาญจนสโร) เจ้าอาวาสวัด "วัดถ้ำเสือดาว" วัดดังเมืองกาญจน์)

   หลวงพ่อบูรพา หรือ พระอาจารย์ บูรพา เจ้าตำรับไม้กาหลงรัง ตัวจริง...ท่านประจักษ์ถึงฤทธิ์เดช..ต้นกาหลง เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ต้นกาหลง ที่มีอีกาคอยบินไปมาวนเวียนเวียนวนอยู่กับ ต้นกาหลง ตลอดเวลา รวมทั้งนกอื่นที่ต่างก็พากันบินมาเวียนวนอยู่เป็นนิตย์...ว่ากันว่าใคร ที่โดนมนต์อาถรรพ์ของ แม่กาหลง สะกดเข้าล่ะก็เป็นอันถึงกับ ชะงัก จังงัง  แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย

วิธีการบูชา
สักการะด้วยของหอมแม่กาหลงท่านโปรดของหอม เช่น น้ำปรุง น้ำอบ จัดใส่โหลแก้วถวายท่านได้เลย

จุดธูปหอมสักการะ 7 ดอก ตามด้วยพระคาถาบูชาดังนี้
“มะอะอุ ศิวังพรหมมา จิตตัง วิญญานังพระแม่กาหลงรัง พระแม่ทองคำ พระแม่ทองเปลว พระแม่กาหลง และองค์พระพุทธนารายณ์มานิมา มานิมา มานิมา”
บอกกล่าวเรื่องที่จะขอได้เลย...