Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
“ตระกรุดปกป้องคุ้มครองพรหมจรรย์ชีสาว”
[สั่งพิมพ์]
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2013-9-8 09:09
ชื่อกระทู้:
“ตระกรุดปกป้องคุ้มครองพรหมจรรย์ชีสาว”
“ตระกรุดปกป้องคุ้มครองพรหมจรรย์ชีสาว”
ชีสาวผู้หนึ่งได้เยี่ยมญาติที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดช่องแค และทำงานประกอบภัตตาหารถวายหลวงพ่อพรหม
เหตุที่บวชก็มาจากมีหมอดูทำนายว่ากำลังมีเคราะห์จึงมาบวชแก้ หลังจากมาได้ 4 วันก็เข้าไปลาหลวงพ่อ
หลวงพ่อได้ให้เข้าไปหาแล้วมอบตระกรุดที่ทำจากฝากระป๋องโอวัลติน สวมที่คอและผูกพระเวทย์กำกับให้
เมื่อกลับไปถึงบ้านเนื่องจากเป็นคนสวยเป็นที่หมายปองของของชาย และตัวเธอเองมีคู่หมั้นอยู่แล้ว
ทำให้มีมนุษย์บ้ากาม 5 คนยกพวกมาดักฉุดเธอเพื่อไปข่มขืนในวันหนึ่งระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน
แต่ตระกรุดและพระเวทย์ทำให้ข่มขืนเธอไม่ได้
” ปากถ้ำได้ปิดสนิทมนุษย์ใจทรามย่ำยีทำอะไรเธอไม่ได้”
พอดีในขณะนั้นมีคนผ่านมา พวกมนุษย์ใจทรามจึงได้หนีจากไป
วันรุ่งขึ้นมนุษย์ใจทรามเหล่านี้ได้ไปเล่าเรื่องโจษขานกันว่าฉุดไปแต่ทำอะไรกันไม่ได้ ดีที่คู่หมั้นมีจิตใจที่มั่นคง
เชื่อในความบริสุทธิ์ของเธอและตัดสินใจแต่งงานตามที่ได้หมั้นหมายกันเอาไว้
หลังงานแต่งงานผ่านไป 7 วัน เจ้าบ่าวก็ไม่สามารถทำอะไรกับเจ้าสาวได้เหมือนคนทั่วๆไป(เพราะปากถ้ำปิด)
ทั้งคู่ก็เลยกลับมาหาหลวงพ่อพรหมที่วัดกราบแล้วบอกว่า ”หนูแต่งงานแล้ว หลวงพ่อเอาของคืนไปเถอะ”
หลวงพ่อพรหมก็ถอนพระเวทย์ที่ผูกไว้และรับตระกรุดคืนจากหญิงสาว หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปี
ก้กลับมาหาหลวงพ่ออีกพร้อมกับนำลูกชายมาด้วย ซึ่งหลวงพ่อได้เมตตาตั้งชื่อให้ด้วยว่า “สวัสดี”
เรื่องนี้หลวงพ่อได้เคยสนทนาหยอกกับสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น) ที่ไปตรวจงานทางสงฆ์ ที่วัดช่องแค
ซึ่งสมเด็จฯท่านได้ถามถึงเรื่องของดี(ขลัง)ต่อหลวงพ่อพรหม ว่ามีของดีอะไร
หลวงพ่อได้ตอบว่า “(เคยให้)ให้(ตระ)กรุดไปดอกหนึ่ง มันไปเอากันไม่เข้า ต้องเอามาคืน “
ซึ่งตามบันทึกสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น)เล่ากันว่า สมเด็จฯท่านชอบใจมากกับคำสนทนาที่หลวงพ่อพรหมท่านเล่า
ก็มีเรื่องเล่าอีกถึงตระกรุดที่กัน เอา นี่อีกรวมทั้งเรื่องเหลือเชื่อจากเด็กที่โดนรถทับแล้วไม่เป็นอะไร
ทำให้ตระกรุดของท่านเป็นที่ปรารถนาของคนทั่วไป เด็กๆแถววัดที่ท่านเคยให้ตระกรุดก็มักจะโดนขโมยหมด
จากคำบอกเล่าบอกไว้ว่า ถ้าผู้หญิงจะถูกคนร้ายข่มขืนอย่าไปต่อสู้กับมัน เพราะผู้หญิงกำลังสู้มันไม่ได้
ให้มีสติแล้วนึกถึงท่าน พร้อมกับว่าคาถา(พระเวทย์)กำกับ
ตั้งนะโมสามจบแล้วท่อง
กุ รุ มุ ถุ กิ กิ ริ มิ ถิ เก เร เม เถ กะ ระ มะ ถะ
เวลาท่องให้เอาลิ้นดุนเพดานกลางปากภาวนาคาถานี้ไว้ในใจ จนน้ำลายออกชุ่มปากเอานิ้วป้ายน้ำลายใต้ลิ้น
ถ้าเป็นผู้ชายให้ป้ายคาดที่คอ ถ้าเป็นผู้หญิงให้ป้ายคาดที่เอวใต้สะดือแล้วผูกด้วยคาถามัดไว้ว่า
อิมัง กายะ พันธนานัง อธิฐามิ
...
มีคาถาอีกบทหนึ่งที่บันทึกไว้
ถ้าปรารถนาสิ่งอื่น(ต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ไม่ผิดศีลธรรม)
ให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วท่อง
พุทโธ พะ ระ หะ มะ (3 จบ)
(พะระหะมะ มาจากชื่อของท่านคือพรหมนั่นเอง) แล้วอธิษฐานบอกท่านก็จะได้ตามปรารถนา
...
..
จากเรื่องที่ผมเอามาเล่าสู่กันฟังก็เพียงแต่เพียงอยากให้ได้ทราบถึงเรื่องแปลกๆถึงเครื่องรางของขลัง
ผมยังไม่เคยอ่านเจอเลยว่ามีเกจิอาจารย์ท่านใด มีเครื่องรางของขลังแบบนี้
ที่มีการเล่าถึงพร้อมบันทึกคำบอกเล่าที่มีการอ้างถึงตัวบุคคลไว้ยืนยันข้อมูลได้
ถ้าเป็นความจริงและยังสามารถหาได้ในปัจจุบันนี้ก็จะดีไม่น้อย คดีข่มขืนก็จะน้อยลงหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
ผมคิดต่อแบบคนขี้สงสัยก็อยู่แต่ว่าถ้าอ่านแล้ว ดันไปทดลองคาถาโดยการภาวนาพระเวทย์กำกับตระกรุด
ตอนป้องกันน่ะคงไม่เป็นไร ...แต่ถ้าหมดเหตุการณ์แล้วต้องถอนคาถาให้หมดฤทธิ์จะต้องถอนยังไง
ถ้าถอนไม่ได้ละก็เรื่องยุ่งแน่ๆ เพราะ เอาก็ไม่เข้า ตอนฉี่จะทำยังไง
หลวงพ่อท่านก็สิ้นไปยาวนานแล้ว...ใครจะถอนคาถานี้ได้เล่าครับ
ลาดื้อๆแล้วครับสำหรับเอนทรี่แปลกเอนทรี่นี้
ขอขอบคุณเรื่องและภาพจากหนังสือลานโพธิ์ ปีที่39 ฉบับที่ 1108 ปักษ์แรก เดือนมกราคม 2556
และขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
ประวัติหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
http://th.wikipedia.org/wiki
โดย:
matmee2550
เวลา:
2013-9-8 18:14
เยี่ยมๆๆๆ
โดย:
sriyan3
เวลา:
2013-9-9 09:11
ขอบคุณคร้าบ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2020-5-13 07:52
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2