Baan Jompra

ชื่อกระทู้: สุดยอดของขลัง วิธีการสยบไสยดำ ของ ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช [สั่งพิมพ์]

โดย: AUD    เวลา: 2013-9-5 20:37
ชื่อกระทู้: สุดยอดของขลัง วิธีการสยบไสยดำ ของ ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช
[attach]4541[/attach]

ต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของช่วงหนึ่งในชีวิต ของท่านขุนพันธ์ ที่ถือเป็นจุดที่สำคัญมากๆเลยอะไรคือสุดยอดของขลังที่ท่านขุนพันธ์ใช้สยบไสยดำ ของ อะแวสะดอ ตาและ ขุนโจรชาวมุสลิม ซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ มนต์ดำ ผู้มีสันดานโจน ใจคอโหดร้ายจนไม่มีผู้ใด กล้าแตะต้องสิ่งที่ท่านขุนพันธ์ท่านใช้ในการแก้เคล็ด สยบไสยดำนี้ คือการให้มารดาบังเกิดเกล้าของ ท่านใช้เท้าขยี้ลงไปบนศีรษะของตนเองสามรอบ เพื่อเป็นศิริมงคล และเพื่อเป็นการ ทำลายความอาถรรพ์ในตัว ของอะแวสะดอ ตาและด้วยเหตุนี้ จอมวายร้าย อย่างอะแวสะดอตาและ จึงไม่อาจสู้ท่านขุนพันธ์ได้ ไสยเวทมนต์ดำ ที่มันมีอยู่ เครื่องราง ของขลังหลายอย่าง ที่มันใช้ติดตัว จึงมีอันเสื่อมสลายไป เพราะถึงแม้กระสุนปืน ของท่านขุนพันธ์จะทำอะไร อะแวสะดอ ตาและไม่ได้ แต่มันก็หมดเรี่ยวแรง เปลี่ยนสภาพ จากเสือร้าย กลายเป็นแมว ยอมให้จับกุม ในที่สุดการให้แม่ใช้เท้าขยี้ศีรษะนี้  เพราะท่านขุนพันธ์ถือความกตัญญูเป็นสิ่งสูงสุด ฝ่าเท้าของแม่ เทียบเท่าฝ่าเท้าของพระอรหันต์หรือ พระพรหม วิชาความรู้ใดๆที่เรียนมาย่อมต่ำกว่าเสมอวิธีการถือเคล็ดแบบนี้ มีมาแต่โบราณกาล นักรบโบราณขอเศษชายผ้าถุงแม่ หรือขอชานหมากของพ่อติดตัวไป ก่อนไปออกสนามรบ ก็ล้วนเกิดปาฎิหารย์มากมายย้อนกลับไปช่วงเวลา ที่ท่านขุนพันธ์ ต้องปราบโจร อะแวสะดอ ตาและ ตรงกับปี พ.ศ. 2481ซึ่งเป็นช่วงเวลา ที่ท่านขุนพันธ์ จัดว่ามีความรู้ทางด้าน ไสยศาสตร์เต็มตัว ส่วนอะแวสะดอ  ตาและ เป็นจอมโจร แห่งเทือกเขาบูโด มีความเชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์ อย่างหาตัวจับ ยากทั้งๆที่เป็นชาวมุสลิม เขาสามารถรูดโซ่ตรวน สะเดาะกุญแจ แคล้วคลาด คงกระพัน ตัวเขามีของขลังติดตัวอยู่5ชนิด คือ ตับเหล็ก เคราทองแดง ช้องหมูป่า ผ้าประเจียด และกริชอาคมอะแวสะดอตาและ มีพฤติกรรมการปล้นฆ่าที่น่ากลัวมาก เลือกปล้นเฉพาะคนไทย ฆ่าเจ้าทรัพย์ทุกราย โดยวิธีใช้กริชแทงคอ หมุนเอาหลอดลมออกมา และบางรายเขาก็จะใช้กริช ขว้านท้องดึงไส้ออกมา ซึ่งเขาจะเลือกฆ่าเฉพาะคนไทยพุทธเท่านั้น กว่าทางตำรวจจะจัดการกับเขาได้ ต้องใช้เวลาตามจับอยู่นานท่านขุนพันธ์ เล่าไว้ว่าตอนที่ยิงต่อสู้กันนั้น อะแวสะดอ ตาและ แกล้งทำเป็นตาย เพราะถูกตำรวจ ล้อมไว้  แต่พอถูกจับได้ เขากลับอ้าปากคลายกระสุน ออกมาให้ดู9นัด หน้าตาเฉยเขาจึงเป็นโจรไสยศาสตร์อีกคนหนึ่งที่อาวุธของท่านขุนพันธ์ไม่สามารถ ทำอะไรได้ว่ากันว่าอะแวสะดอตาและนี่ เวลาเกิดคุ้มคลั่งของขึ้นๆมา เขาจะให้ลูกน้องรุมยิงด้วยอาวุธปืน นาๆชนิด แต่กระสุนปืนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้ ที่น่าสังเกตุคือ แม้จะเป็นมุสลิม แต่ อะแวสะดอ ตาและ นับถือเครื่องรางของขลัง ของไทย ทุกชนิด และเขาแขวนผ้ายันต์ติดคอเขาไว้ตลอด แม้กระทั่งเวลาถูกจับกุมภายหลังถูกจับกุม เครื่องรางของขลังต่าง ๆถูกยึดไว้เป็นหลักฐานยกเว้นกริช ประจำตัวของอะแวสะดอ ตาและ ที่ท่านขุนพันธ์ ขอไว้เป็นที่ระลึก โดยให้เหตุผลว่าเป็นของมีอาคม หากตกไปอยู่กับคนอื่น อาจสร้างปัญหาขึ้นอีก ดังนั้นกริชนนั้นจึงตกเป็นของท่านขุนพันธ์ตั้งแต่นั้นมาหลังจากอะแวสะดอตาและถูกจับได้ไม่นาน เขาก็กินยาพิษฆ่าตัวตาย ในห้องขังนั้นเองจากการปราบโจร อะแวสะดอตาและ ในครั้งนั้น ทำให้ท่านขุนพันธ์ ท่านได้รับการขนานนาม จากชาวไทย มุสลิมว่า รายอกะจิ หมายถึง มือปราบพริกขี้หนู หรือ อัศวินตัวเล็ก อะไรทำนองนั้นนอกจากนี้ ท่านขุนพันธ์ ยังได้รับรางวัล จากเจ้าเมือง รัฐกลันตัน ประเทศ มาเลเซีย ส่งมีดพกเล่มหนึ่ง มาให้ ซึ่ง ท่านขุนพันธ์ ถือเป็นเกียรติอย่างสูง ในชีวิต ในสมัยที่ท่านรับราชการอยู่ที่เมืองพิจิตร ท่านจะพกกริชของอะแวสะดอ ตาและ ไว้ที่เอวซ้ายตลอดเวลา และพกปืนเมาเซอร์ ต่อด้ามเหล็ก ไว้ที่เอว ด้านขวา อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

ที่มา http://atcloud.com




โดย: AUD    เวลา: 2013-9-5 20:41
[attach]4542[/attach]

กริชคดหางหนุมานเล่มนี้ เป็นของขุนพันธ์เองครับ ได้รับสืบทอดจากบรรพบุรุษที่ปกครองเมืองไทรบุรี

ส่วนกริชของอะแวสะดอ  มี 9 คด ลายขนนก ด้ามก็ทำเหมือนเล่มนี้ แต่ทำใหม่ เพราะด้ามเดิมและปลอกถูกกระสุนจนพัง ตอนที่บุกจับอะแวสะดอ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-9-5 21:14
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-9-5 21:16

ช้องหมูป่า

ก็คือขนของหมูป่าที่มีลักษณะขดพันกันเป็นวงกลมเหมือนวงแหวน หรือกำไลข้อมือ เกิดจากหมูผู้ป่าตัวผู้ดทนที่คร่ำหวอดใช้ปากกัดเล็มเส้นขนของตัวมันเองรวบรวมไว้ในปากทีละเส้นสองเส้น ขนที่มันกัดท่อมในปากมันจะเลือกเส้นขนสำคัญอันเป็นตะบะของมันที่เรียก "ขนเพชร" เมื่อรวบรวมได้มากพอขนนั้นก็จะถูกน้ำลายของมันถักให้เป็นเกลียวพันกันและรดกันเป็นวงกลม หมูตัวใดมีช้อง จะยิงไม่เข้า ศัตรูจำทำร้ายมันไม่ได้






(ไพรมหากาฬ 2 หน้า 787-789)

ที่มา..http://www.petprauma.com

โดย: sriyan3    เวลา: 2013-9-6 10:15
ขอบคุณครับ
โดย: anndew    เวลา: 2013-9-6 11:30
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวความรู้ดีๆครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-11-26 06:56

โดย: kit007    เวลา: 2014-11-28 11:02
ขอบคุณครับ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2