ท่วงท่าลีลาสตรีเกี้ยวบุรุษ 40 ท่า มีที่มาจากคัมภีร์อรรถกถาชาดก เรื่องพระสุนทรสมุทรเถระ ซึ่งมารดาของพระสงฆ์รูปดังกล่าวต้องการให้สึกจากพระพุทธศาสนา จึงคิดว่าจ้างหญิงแพศยาให้ไปเกี้ยวพระสุนทรสมุทรเถระ
พระสุนทรสมุทรเถระ หรือสุนทรสมุทรกุมาร เดิมเป็นบุตรชายเกิดในตระกูลใหญ่อันมีสมบัติมหาศาล อาศัยอยู่ในกรุงสาวัตถี วันหนึ่งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า บังเกิดความอุตสาหะจึงบรรพชาเป็นพระสงฆ์ แม้นบิดามารดาจะเห็นชอบให้บรรพชา แต่ก็สร้างความระทมให้ผู้เป็นมารดามาก
วันหนึ่ง หญิงแพศยาคนหนึ่งเห็นมารดาของพระสุนทรสมุทรเถระกำลังนั่งร้องไห้ สืบสาวราวเรื่องจึงทราบเหตุ จนปรึกษาหารือตกลงว่าจ้างหญิงแพศยานั้นไปออกอุบายล่อลวงให้พระสุนทรสมุทรเถระสึกเสีย หญิงแพศยาก็ออกอุบายเกลี้ยกล่อมต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะการแสดงกิริยา 40 ท่า เกี้ยวพระสุนทรสมุทรเถระ อันเป็นการเย้ายวนหวังให้เกิดกำหนัด รู้สึกปรารถนาในกามคุณ
ธาร ธรรมโฆษณ์ ประพันธ์กวีเกี่ยวกับกิริยาทั้ง 40 ท่า ไว้ดังนี้
เรื่องราวมีมาในชาดก ขอหยิบยกมาเล่ากันเล่นเล่น
ลีลาหญิงเกี้ยวชายหลายประเด็น ชี้ชัดชัดให้เห็นเป็นท่าไป
ท่าที่หนึ่ง ทำท่าสะบัดสะบิ้ง เหมือนไม้หลักปักตลิ่งส่ายไหวไหว
ท่าที่สอง ก้มลงทำไฉไล โก้งโค้งอยู่ใกล้ใกล้หมายให้ชม
ท่าที่สาม กรีดกรายเหมือนนักฟ้อน นวยนาดอ่อนมือไม้ไม่อยู่สม
ท่าที่สี่ ชมดชม้อยตาปรือกลม เหมือนลิงลมเอียงอายยั่วสายตา
ท่าที่ห้า เอาเล็บกรีดเล็บถู นั่งแคะอยู่อย่างนั้นนานนักหนา
ท่าที่หก เหยียบเท้าทับไปมา ให้ผู้ชายเห็นว่าตนเท้างาม
ท่าที่เจ็ด เอาไม้มาเขี่ยดิน เหมือนวาดศิลป์ภาพสวยให้วาบหวาม
ท่าที่แปด อุ้มเด็กชูขึ้นตาม แกว่งส่ายข้ามไปมา อวดทรวดทรง
ท่าที่เก้า อุ้มเด็กลดลงต่ำ เม้มปากทำเป็นง้อล่อประสงค์
ท่าที่สิบ แกล้งเล่นหมายจำนง ชี้ตนบ่งเป็นเด็กสาวเบิกบาน
ท่าสิบเอ็ด แกล้งยุให้เด็กเล่น ทำเป็นวางกะเกณฑ์เน้นเสียงหวาน
ท่าสิบสอง จูบเด็กยิ้มสำราญ เอาจมูกป้ายผ่านแก้มไปมา
ท่าสิบสาม ยื่นแก้มให้เด็กจูบ เอาหน้าลูบแก้มเด็กหัวเราะร่า
ท่าสิบสี่ กินของเคี้ยวโอชา ทำจุ๊บจั๊บปากกว่าจะได้กลืน
ท่าสิบห้า ยื่นของให้เด็กกิน ป้อนค่อยค่อยยั่วลิ้นแกล้งขัดขืน
ท่าสิบหก ยื่นของให้เด็กยืน ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนยื่นให้ไป
ท่าสิบเจ็ด เอาของจากเด็กคืน ผ้าเช็ดหน้าที่ยื่นดึงกลับใหม่
ท่าสิบแปด ล้อเลียนเด็กแกว่งไกว ทำมือไหวไปมาเหมือนล้อเลียน
ท่าสิบเก้า แกล้งพูดเสียงดังดัง ไม่ยับยั้งดังข่มอารมณ์เปลี่ยน
ท่ายี่สิบ พูดเบาเสียงแผ่วเนียน กำซาบถ้อยพจน์เลี่ยนเหมือนโอดคราง
ท่ายี่สิบเอ็ด พูดจาคำเปิดเผย ห้าวห้าวเย้ยเปรยคำทำโผงผาง
ท่ายี่สิบสอง พูดล่อเป็นรางราง กล่าวนัยอย่างสองแง่ ให้คิดเอา
ท่ายี่สิบสาม ทำท่าร่ายร้องรำ นัยน์ตาฉ่ำทำส่ายกายกระเส่า
ท่ายี่สิบสี่ ร้องเพลงครวญเบาเบา บ้างร้อนแรงเริงเร่าเร้าทำนอง
ท่ายี่สิบห้า ทำท่ากระซิกกระซี้ เหมือนกระดี่ได้น้ำกระโดดหนอง
ท่ายี่สิบหก จ้องตาทำเมียงมอง เล่นตาจ้องจดจ่อล่อเชิงชาย
ท่ายี่สิบเจ็ด ส่ายสะเอวเป็นจังหวะ ยั่วราคะชายชมสุขสมหมาย
ท่ายี่สิบแปด ไหวของลับประจำกาย แลบล่อย้ายทรวงทรงนงเนื้อนวล
ท่ายี่สิบเก้า ถ่างขาอ้ากางออก ให้ระลอกลมล่องของสงวน
ท่าสามสิบ หุบขาเหมือนเย้ายวน ถ่างหุบให้ปั่นป่วนรัญจวนจินต์
ท่าสามสิบเอ็ด เปิดเสื้อให้เห็นนม แบะเบิกบ่มบวบบุ๋มบีบถวิล
ท่าสามสิบสอง โชว์รักแร้ยอดโศภิน ชูแขนเผยจนสิ้นไม่ปิดบัง
ท่าสามสิบสาม เปิดสะดือให้เห็นหลุม โชว์เนื้อลุ่มกลางกายคล้ายบ่อขลัง
ท่าสามสิบสี่ ขยิบตาเคลิ้มภวังค์ เหมือนจะสั่งวาจาด้วยตาวาว
ท่าสามสิบห้า ยักคิ้วทำหลิ่วเหล่ เหมือนนักเลงเกเรยิ้มเหล่สาว
ท่าสามสิบหก เม้มปากเป็นเส้นยาว เหมือนไม่อยากกินข้าว เจ้าลีลา
ท่าสามสิบเจ็ด แลบลิ้นออกมาเลีย น้ำลายเยิ้มไหลเรี่ยริมโอษฐา
ท่าสามสิบแปด ทำทีเป็นเปลื้องผ้า ให้วับวับวืดพาจะหลุดมือ
ท่าสามสิบเก้า เปลื้องผ้าทำนุ่งใหม่ ตบแต่งให้เข้าทรงเสียดื้อดื้อ
ท่าสี่สิบ สยายผมลมกระพือ ทั้งหมดคือ ท่าหญิงใช้เกี้ยวชาย
เรื่องราวมีมาในชาดก สาธกยกมาเขียนขยาย
อ่านเล่นเล่นหน้าร้อนนอนผ่อนคลาย สาธยายนานแล้ว ขอจบเอย [1]
พระพุทธเจ้าทรงรับรู้เหตุการณ์ขณะที่หญิงแพศยากำลังเกี้ยวพระสุนทรสมุทรเถระ ก็ทรงเห็นกระจ่างชัดว่า
“ความชนะจักมีแก่สุนทรสมุทร, ความปราชัยจักมีแก่หญิงแพศยา”
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |