Baan Jompra

ชื่อกระทู้: เหรียญใบตำลึง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง จ.นครสวรรค์ [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-10-30 11:29
ชื่อกระทู้: เหรียญใบตำลึง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง จ.นครสวรรค์
                        
สุดยอดอภินิหารเหรียญใบตำลึง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง จ.นครสวรรค์   
              
         ฝากข้อคิดก่อนอ่าน วิชาเหรียญสองด้านของอาจารย์ไพฑูรย์ท่านนั้นมีประโยชน์ยิ่งนักสำหรับใช้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นมองเป็นสิ่งไม่ดีน่าเกลียดและสวยงามเมื่อลองพิจารณาพลิกดูอีกด้านของเหรียญให้ดีแล้วทุกสิ่งท่านในโลกมีทั้งดีและโทษแฝงไว้อยู่ตรงกันข้ามเสมอ..

วันนี้ได้นำเรื่องราวของ สุดยอดอภินิหารเหรียญใบตำลึง หลวงพ่อน้อย วัดเนินเวียง จ.นครสวรรค์ นำมาให้ทุกท่านได้อ่านศึกษา ไปชมกันเลย


สุดยอดเหรียญประสบการณ์ยอดนิยมพระเกจิย์อาจารย์ท้องถิ่นที่มีพุทธาคมและพลังจิตสูงเป็นที่เคารพของประชาชนท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง ท่านเป็นพระเกจิย์อาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้ามีพลังจิตสูงสามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆได้(ไล่ผีได้)เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและลูกศิษย์ต่างแดนในการรักษาอาการป่วยทางจิตขับไล่คุณไสย์มนต์ดำ ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ ความเฉียบขาด ความดุ และวาจาศักดิ์สิทธิ์ประดุจพระร่วง



ท่านเป็นที่กล่าวขานกันมากจนบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายต่างให้สมญานามว่า”หลวงพ่อปากพระร่วงวาจาสิทธิ์” ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่โอ้อวดตนผู้คนที่ได้ไปกราบนมัสการท่านจะทราบกันดีว่าท่าน “คมในฝัก” อย่างแท้จริง ท่านคือ หลวงพ่อน้อย ชุตินธฺโรวัดเนินเวียง (เวียงสวรรค์) อำเภอโกรกพระ จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อน้อยท่านเป็นลูกบุญธรรมของหลวงพ่อทองวัดเขากบ ด้วยท่านเกิดมามีร่างกายที่ไม่แข็งแรงโยมมารดาของท่านได้นำไปฝากกับหลวงพ่อทองเพื่อพึ่งบารมีหลวงพ่อทอง หวังให้ท่านมีร่างกายที่แข็งแรงหายเจ็บป่วยจากโรคภัย หลวงพ่อทองจึงรับไว้และบวชเณรให้

หลวงพ่อน้อยได้ศึกษาร่ำเรียนจากหลวงพ่อทองวัดเขากบและดูแลปรนนิบัติอาจารย์ท่านจวบจนหลวงพ่อทองมรณะภาพ ระหว่างที่อยู่กับหลวงพ่อทองนั้นหลวงพ่อทองท่านหยั่งรู้อนาคตในภายภาคหน้าของหลวงพ่อน้อย หลวงพ่อทองมักให้หลวงพ่อน้อยฝึกแทงเข็มลงบนหยวกกล้วยและได้ฝากให้หลวงพ่อน้อยไปเรียนวิชาอักขระเลขยันต์กับหลวงพ่อขันวัดนกกระจาบ หลวงพ่อสินวัดหนองเต่า หลวงพ่อพริ้งวัดหาดสูง เจ้าของตำหรับวิชานะซ่อนหัวอันโด่งดัง

อดีตเสือแมนขุนโจรร้อยศพก็ยังมาสักกับท่านยันต์ครูห้ายอดของท่านได้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องคงกระพันยิ่งนัก อีกทั้งยันต์บุตรลภยันต์ครูโบราณที่ท่านสืบทอดมาจากหลวงพ่อขันต่างเป็นที่ต้องการของบรรดาชายชาตรีทั้งหลาย เมื่อปี๒๕๑๑ท่านได้ธุดงค์ไปแถบเพชรบูรณ์และได้สักให้กับทหารที่รบในสมรภูมิเขาค้อ (ผกค)จนทหารต่างพากันมาสักไม่ขาดสายด้วยคมกระสุนและระเบิดไม่สามารถทำอะไรทหารที่สักกับท่านได้ หลังจากที่สักในแถบนี้แล้วท่านเดินทางธุดงค์ขึ้นสู่ทางเหนือและในโอกาศนี้กิตติศัพท์ความเหนียวในสมรภูมิรบของท่านโด่งดังทำให้ทหารหลายกลุ่มต่างตามหาตัวท่าน





โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-10-30 11:30



และครั้งนี้เองขุนส่าอดีตผู้นำกองทัพเมิงไตได้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่านและท่านได้สักน้ำมันให้กับขุนส่า ณ บ้านหินแตก ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เหตุการณ์หลายต่อหลายครั้งที่ทำให้ขุนส่ารอดตายและรอดจากเหตุการณ์ยุทธการณ์บ้านหินแตกทำให้ทหารกลุ่มต่างๆตามหาตัวท่าน ท่านเลยหนีความวุ่นวายกลับมาจำพรรษาต่อที่วัดบางมะฝ่อ และเมื่อปี๒๕๑๔-๒๕๒๐ ท่านได้สร้างวัดเนินเวียงที่ ตำบลบางมะฝ่อ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ และท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเนินเวียงอย่างถาวรและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเนินเวียง

หลวงพ่อน้อยท่านเป็นเกจิย์ยุคหลัง๒๕๐๐มีลูกศิษย์ลูกหาในแถบจังหวัดนครสวรรค์อุทัยธานีและจังหวัดใกล้เคียงที่เคารพและศรัทธาท่านจำนวนมาก ด้วยวิชาการสักของท่านที่เด่นด้านคงกระพันชาตรียิ่งนัก กล่าวกันว่าเหนียวชนิดที่ว่า แมลงวันไม่ได้กินเลือดกันทีเดียว ลูกศิษย์ลูกหาต่างเข้าขอวัตถุมงคลของท่านกันมากในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ด้วยประสบการณ์จากเหรียญรุ่นแรกของท่านมีพุทธคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสักของท่านเลย เหรียญรุ่นนี้ลูกศิษย์เรียกว่า เหรียญใบตำลึงจัดสร้างในปี๒๕๑๕โดยแกะบล็อคและปั๊มจากกรุงเทพมหานครโดยลูกศิษย์ของท่านที่อยู่ย่านบางลำภูช่วยเป็นธุระในการจัดทำเหรียญรุ่นนี้

จัดสร้างเพียงเนื้อทองแดงเนื้อเดียวยอดจัดสร้างทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐ เหรียญด้านหน้าเป็นองค์หลวงพ่อนั่งขัดสมาธิเต็มองค์ด้านข้างมีอักขระยันต์ นะมะอะอุ ด้านล่างเขียนว่าพระอาจารย์น้อย ชุตินฺธโร วัดเวียงสวรรค์ด้านหลังประทับด้วยยันต์ครู๕ยอด ยันต์ครูตัวนี้เป็นยันต์ครูประจำตัวท่านที่ท่านชักขึ้นมาไว้เพื่อใช้ลงวัตถุมงคลของท่านมิยันต์ครูโบราณแต่อย่างใด เป็นการนำหัวใจของยันต์โบราณต่างๆมารวมเข้าด้วยกัน อยู่ในตารางขนาบด้วยยันต์ท้อซ้ายขวาโดยด้านล่างเหรียญลงคาถายอดมหาอุดที่ตั้งด้วย อุดทังอัดโท เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ด้านคงกระพันชาตรียิ่งนัก จากประสบการณ์ของลูกศิษย์ที่ใช้เหรียญนี้แล้วแคล้วคลาดรอดตายจากคมมีดคมกระสุนมานักต่อนัก เหรียญรุ่นนี้ได้รับขนานนามว่า “เสื้อเกราะเนินเวียง”



เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์รายหนึ่งมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันแถวโรงแรมNSCจังหวัดนครสวรรค์ ลูกศิษย์ของท่านถูกคู่อริยิงด้วยอาวุธปืนกระสุนไม่ระคายผิว หลังจากที่คู่อริขับรถจักรยานยนต์หลบหนีลูกศิษย์หลวงพ่อได้สำรวจจับคลำตามเนื้อตัวปรากฎว่าเหรียญใบตำลึงในคอได้หายไปจึงเดินหาอยู่เป็นเวลานานแต่ก็ไม่เจอ รุ่งเช้าจึงเข้าไปหาหลวงพ่อที่วัดเพื่อจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอเหรียญใบตำลึงหลวงพ่ออีก ปรากฎว่า พอเข้าไปที่กุฏิและกราบหลวงพ่อเสร็จหลวงพ่อได้ยื่นเหรียญใบตำลึงพร้อมสร้อยที่หายไปจากคอเมื่อตอนเกิดเหตุการณ์คืนให้ สร้างความตกตะลึงให้กับลูกศิษย์ผู้นี้ยิ่งนัก

และอีกรายหนึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อถูกผู้ร้ายดักปล้นเงินจากการขายขนมโบราณ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี๒๕๓๖ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยลูกศิษย์ท่านถูกผู้ร้ายใช้มีดจี้คอเพื่อชิงทรัพย์แต่คมมีดไม่สามารถทำอะไรได้เป็นแค่รอยยางบอนในคอมีเหรียญใบตำลึงและตระกรุดหลวงพ่อน้อย อีกรายหนึ่งคือคุณชนันต์ น้อยเอี่ยมอยู่ที่บ้านบางมะฝ่ออำเภอโกรกพระปัจจุบันรับราชการอยู่หน่วยงานหนึ่ง ได้ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น กระสุนไม่ถูกเนื้อตัวแม้แต่นัดเดียวแต่กระสุนไปรวมตัวกันเป็นกระจุกบริเวณหน้าไฟรถจักรยานยนที่ตนเองขับตามหลังคนร้ายในคอแขวนเหรียญใบตำลึงรุ่นแรกปี๑๕ และที่เป็นข่าวดังเมื่อปี๒๕๔๖มีผู้นำเหรียญท่านไปทดลองยิงปรากฎว่ายิงไม่ออกถึง๔นัด

ประสบการณ์จากเหรียญรุ่นนี้ที่เกิดขึ้นกับหลายๆคนในยุค๒๕๑๕-๒๕๓๐ต่างมีผู้คนเข้าไปขอเหรียญจากท่านจำนวนมากจึงทำให้เหรียญรุ่นนี้ได้กระจายออกนอกพื้นที่บ้างเหรียญรุ่นนี้หลวงพ่อมิได้ทำจำหน่ายแต่ท่านจะเลือกแจกให้เฉพาะเป็นบุคคลไป ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้จำนวนไม่มาก ปัจจุบันคนท้องที่ต่างก็หวงแหนกันมาก ที่เป็นมาตรฐานและนิยมกันมีดังนี้ ๑.เหรียญใบตำลึงรุ่นแรกปี๑๕ ๒.เหรียญไข่เล็กปี๑๖ ๓.รูปหล่อโบราณก้นแต่งปี ๑๘ ๔.ไข่ใหญ่เนื้อทองแดงปี๓๘ ๕.สมเด็จคะแนนจิ๋วปี๓๘ และยังมีเครื่องรางที่เป็นมาตรฐานและต่างเป็นที่เสาะหา เช่น มีดหมอ ตระกรุด ปลัดขิก ผ้ายันต์ กุมารทองทั้งไม้โลหะและผง





ท่านมรณะภาพเมื่อปี๒๕๔๘ก่อนมรณะภาพท่านเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโกรกพระและโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ท่านสร้างอภินิหารให้เป็นที่ประจักษ์แก่พยาบาลและศิษย์ใกล้ชิดคือพยาบาลใช้เข็มฉีดยาท่านไม่เข้าฉีดจนเข็มหักลูกศิษย์ท่านเกลี้ยกล่อมท่านอยู่หลายครั้งกว่าท่านจะยอมให้ฉีด ปัจจุบันสรีระของท่านยังคงอยู่ให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้ระลึกถึงท่านที่ศาลาวัดเนินเวียงอำเภอโกรกพระจ.นครสวรรค์ ท่านใดผ่านไปแถวนั้นแวะกราบหลวงพ่อได้เลย โชติ โบราณ นิยม
บทความที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขานที่เล่าสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นและมีบันทึกไว้ นำมาเผยแพร่เพื่อบารมีของครูบาอาจารย์เป็นวิทยาทานแก่ทุกๆท่าน สาธุ สาธุ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
https://naklangbolan.com

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-10-30 11:32


หลวงพ่อน้อย ชุตินธโร พระเกจิดังวัดเนินเวียงคอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
หลวงพ่อน้อย ชุตินธโร – พระครูนิพัทธ์สารคุณ หรือ หลวงพ่อน้อย ชุตินธโร วัดเนินเวียง (เวียงสวรรค์) ต.บางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นคร สวรรค์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่แม้แต่ ขุนส่า อดีตผู้นำกองทัพเมืองไต ยังให้ความนับถือเป็นอาจารย์
เป็นพระเกจิท้องถิ่น ที่มีพุทธาคมสูง เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและลูกศิษย์
มีนามเดิม น้อย เหมทอง เกิดเมื่อวันอังคาร เดือน 6 ปีมะโรง ปี พ.ศ.2459 ต่อมาเปลี่ยนนามสกุลเป็น ไพรสิงห์ บิดา–มารดา ชื่อ นายนาคและนางเสี้ยว ไพรสิงห์
เป็นบุตรบุญธรรมหลวงพ่อทอง สุวัณโณ วัดเขากบ (วัดวรนาถบรรพต) ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พระเกจิที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 10 ของพระเกจิแห่งยุค
แรกเริ่มเมื่อตอนเกิดมา มีร่างกายที่ไม่แข็งแรง เจ็บป่วยบ่อย มารดาจึงได้นำไปฝากไว้กับหลวงพ่อทอง วัดเขากบ เพื่อขอพึ่งบารมี หวังให้มีร่างกายที่แข็งแรง หายเจ็บป่วยจากโรคภัย หลวงพ่อทองจึงรับไว้เป็นบุตรบุญธรรมและบวชเณรให้
เริ่มศึกษาวิทยาคม โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์
ต่อมาหลวงพ่อทอง ได้ฝากให้ไปเรียนวิชาอักขระเลขยันต์กับหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อสิน วัดหนองเต่า จ.อุทัยธานี และหลวงพ่อพริ้ง วัดหาดสูง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ นับว่าครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อน้อย เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียง
ดูแลอุปัฏฐากหลวงพ่อทอง จวบจนมรณภาพ
หลังจากที่หลวงพ่อทองมรณภาพแล้ว จึงลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบฆราวาส กระทั่งเริ่มเบื่อชีวิตความวุ่นวายแบบฆราวาส จึงตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2493 ที่วัดบางมะฝ่อ โดยมีพระครูนิโรธธรรม ประยุตร์ หรือหลวงปู่อินทร์ วัดเกาะหงษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เริ่มออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อเข้าฤดูเข้าพรรษา ท่านจะกลับมาจำพรรษา ที่วัดบางมะฝ่อ
เป็นพระเกจิยุคหลังปี พ.ศ.2500 มีลูกศิษย์ลูกหาในแถบจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียง ที่เคารพและศรัทธาจำนวนมาก ด้วยวิชาการสักของท่านที่เข้มขลัง อีกทั้ง ยันต์พระบุตรพระลบ ยันต์ครูโบราณที่ท่านเรียนสืบทอดวิชามาจากหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ต่างเป็นที่ต้องการของบรรดาชายชาตรีทั้งหลาย
เมื่อปี พ.ศ.2511 ท่านธุดงค์ไปแถบเพชรบูรณ์ และได้สักให้กับทหารที่ร่วมรบในสมรภูมิเขาค้อกับผู้ก่อการร้าย จนมีชื่อเสียง ก่อนออกเดินทางธุดงค์ขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศไทย


   

ในโอกาสนี้ ด้วยกิตติศัพท์ที่โด่งดัง ทำให้ทหารหลายกลุ่มต่างตามหาตัวท่าน และขุนส่า ผู้นำชนกลุ่มน้อยชายแดน อดีตผู้นำกองทัพเมืองไต เดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์ และได้สักน้ำมันให้ที่บ้านหินแตก ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
กระทั่งเดินทางกลับมาจำพรรษาที่ วัดบางมะฝ่อ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ก่อตั้งวัดเนินเวียง เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2515 โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวที่ได้มาจากการสักยันต์ แล้วนำมาซื้อที่ดินได้ทั้งหมด 12 ไร่
เริ่มลงมือสร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างกุฏิ ห้องน้ำ เสนาสนะต่างๆ โดยเงินทั้งหมดเป็นเงินที่ได้จากการบริจาคของลูกศิษย์ โดยไม่เคยเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน หลังจากวัดเนินเวียงสำเร็จแล้ว ก็เริ่มลงมือดำเนินการสร้างโรงเรียนวัดเนินเวียง และมอบเงินเป็นทุนการศึกษาและตั้งกองทุนให้นักเรียน เป็นประจำทุกปี
ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเนินเวียงอย่างถาวร และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก
ด้านวัตถุมงคล สร้างพระสมเด็จ รูปหล่อ ตะกรุด ผ้ายันต์ เหรียญรูปเหมือน ทุกรุ่นต่างมีประสบการณ์
ก่อนจะมรณภาพ อาพาธและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโกรกพระ คณะศิษย์ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ แต่สุดความสามารถเยียวยาของคณะแพทย์ เนื่องจากหลวงพ่อชราภาพมาก ทำให้มรณภาพในที่สุด
มรณภาพอย่างสงบ เมื่อปี พ.ศ.2548 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 55
ปัจจุบัน สรีระของท่านยังคงอยู่ให้ ลูกศิษย์ได้กราบไหว้ที่ศาลาวัดเนินเวียง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
โดย – ชาติชาย เกียรติพิริยะ

https://www.khaosod.co.th/amulets/news_2988500

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-10-30 11:45



ในสมัยก่อน ชาวบ้านและศิษย์ทุกคน ต่างทราบกันดีว่า หากผู้ใดไปขอท่านถ่ายภาพ ท่านไม่อนุญาติ ไม่มีทางที่จะถ่ายรูปท่านติด รูปภาพต่างๆของท่านจึงไม่ค่อยมีให้เห็น...
บางคณะ ไปถ่ายท่านจนกล้องพังเลยก็มี ทุกครั้งที่ท่านอนุญาตให้ศิษย์ถ่ายรูป ท่านจะเสกตัวเองก่อน เหมือนกับเกจิย์ยุคก่อนๆ ที่มักเสกจีวร. วิชานี้ พระเกจิย์ เก่งๆในเมืองไทยหลายรูป ก็มักจะนำมาใช้ เช่น หลวงพ่อกวย หลวงพ่อโม  เพราะฉะนั้น รูปถ่ายของท่าน จึงมีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังโดยไม่ต้องเสก แม้จะนำไปก๊อฟปี้หลายร้อยครั้งก็ตาม
การเสกตัวหรือเสกจีวร ของท่านนั้น. น้อยนักที่ไครๆจะได้เห็น แต่ข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าเคยเห็นมากับตาตัวเอง จึงขอนำมาเล่าหรือเผยแผ่ และกล้าพูดอย่างเต็มปากได้
เมื่อปี2547 ได้มีคณะ นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเคย มาขอท่านทำแผนบทเรียนการศึกษาเกี่ยวกับ วิชาสักยันต์โบราณ ยันต์ครูโบราณ ของเมืองไทย และเคยถ่ายรูปหลวงพ่อไม่ติด เพราะไม่ได้ขออนุญาติ ท่าน
ข้าพเจ้า ได้เห็นได้ฟังการสนธนา เกี่ยวกับยันต์ครูโบราณ ของไทย ข้าพเจ้าจึงรู้ว่า ท่านมีความรู้เรื่องนี้อย่างเอกอุ
และก่อนกลับ คณะนักศึกษา ได้ขอถ่ายรูปท่าน โดยบอกว่า พวกกระผมขอถ่ายรูปหลวงพ่อ ไปทำรายงาน รวบรวมในหนังสือยันต์ครูโบราณ และจะขอล้างรูป มาบูชา กันด้วย โดยจะอัดมาแจกเพื่อนๆให้ครบทุกคน

ในระหว่างนั้น ข้าพเจ้าสังเกตเห็น ท่านได้หลับตา นิ่งกำหนดจิต และเป่าลงบริเวณแขนทั้ง2ข้างซ้ายขวา โดยระหว่างเป่า ท่านก็เอามือทำท่าเหมือนรูบบริเวณแขนไล่ลงมาจากบนลงล่าง  นำมือ มาวนตรงหน้าและไล่ลงมาที่ท้องถึงหัวเข่า อีกทั้ง ทั้งยังใช้มือของท่าน เขียน อักขระเลขยันต์รายล้อมตัวท่านเป็นวงกลม แล้วใช้มือปัดขึ้นไปกลางอากาศด้านบน ข้าพเจ้าก็มิรู้ว่าท่านทำอะไร ท่านใช้วิชาอะไร พึ่งมารู้ไม่นานมานี้ อาจจะคล้ายกับการชักยันต์กลางอากาศ แต่ท่านมิได้เขียนกลางอากาศ ท่านเขียนลายล้อม ตัวท่านทางศรีษะด้านบน แล้วปัดขึ้นบนเพดานฝ้า

ดังนั้นรูปของท่าน มีผู้คนนำไปบูชาแล้วเป็นศิริมงคล ว่ากันว่า บางบ้าน ถูกผีเข้า ลูกศิษย์แค่เอารูปหลวงพ่ออกมา อาการแปลกๆที่ว่าโดนผีเข้า หายเป็นปลิดทิ้ง บางบ้านจุดธูปอฐิฐานขอต่อหน้ารูปของท่าน สำเร็จทุกรายไป แม้แต่รูปขนาดห้อยคอ ที่ทางวัดทำแจกเมื่อปี53 หลังหลวงพ่อ มรณะภาพแล้ว5ปี มีลูกศิษย์นำไปห้อยคอ รถยางแตกพลิกคว่ำหลายตลบ รอดตายได้อย่างหวุดหวิด เพราะรูปหลวงพ่อ.

รูปที่ให้ชมด้านล่างนี้ 2แอ๊ค ถอดแว่น กับจับเข่า ถ่ายคราวเดียวกัน ถ่ายโดย คุณแม่สุนันท์ น้อยทวี เมื่อปี2538 ก่อนถ่ายรูปชุดนี้ แม่สุนันท์บอก ว่า.ขณะที่กำลังจะถ่าย ท่านร้องตะโกนบอกว่า.  เดี่ยวๆ นันท์ เดี่ยวก่อนอย่าพึ่งถ่าย แล้วท่านก็หลับตาเป่าอาคมลงที่ตัวท่านเอง เรียกว่าเสกตัวเองหรือเสกจีวรก่อนถ่ายนั่นเอง
รูปของท่านจึงเป็นที่ต้องการของคณะศิษย์มาก

ที่มาของบทความ..https://www.facebook.com/groups/835981809835860/






ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2