Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ลางบอกเหตุ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า “บุพนิมิต” [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-8-7 09:15
ชื่อกระทู้: ลางบอกเหตุ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า “บุพนิมิต”
ลางบอกเหตุ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า

“บุพนิมิต” หรือ “บุรพนิมิตต์” (portend) คือ ลักษณะ สภาวะ อาการ เหตุปัจจัย หรือเครื่องหมายที่แสดงให้รู้ล่วงหน้าก่อนที่ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ใดๆจะเกิดขึ้น เช่น ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าเราจะมองเห็นแสงสว่างที่ขอบฟ้าก่อน หรือก่อนที่ฝนจะตกเราจะเห็นเมฆฝนก่อน อย่างนี้เรียกว่าเป็นบุพนิมิต ซึ่งจะมีสิ่งที่เป็น สัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายที่แสดงให้เห็นล่วงหน้า(Presages) ว่าสิ่งนั้นๆ เหตุการณ์นั้นๆ หรือปรากฏการณ์นั้นๆกำลังจะเกิดมีเกิดเป็นขึ้นมา สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นล่วงหน้านี้มีอยู่หลายประเภท เช่น ลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ พืช ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ความฝัน เป็นต้น   ความฝัน เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งที่สามารถแสดงถึงลางบอกเหตุล่วงหน้าได้  


ในทางพุทธศาสนา มีหลายคัมภีร์ที่กล่าวถึงมูลเหตุแห่งความฝันไว้ เช่น คัมภีร์ทุติยสมันตปาสาทิกา และ คัมภีร์สารัตถสังคหะ เป็นต้น ในคัมภีร์สารัตถสังคหะมีการกล่าวถึงลักษณะการเกิดขึ้นของความฝันว่ามี ๔ ลักษณะ คือ

๑.     ธาตุโขก เกิดจากธาตุวิปริต คือ ความฝันที่เกิดจากความเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงของสสารและพลังงานในร่างกาย ร่างกายมีความผิดปกติ หรือป่วยเป็นโรคต่างๆ เช่น บางคนนอนทับแขนตัวเองทำให้เลือดเดินไม่ได้ ทำให้เกิดอาการชาหรือเจ็บที่แขน จึงฝันว่ามีคนมาตีแขนบ้างประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็บที่แขนบ้าง หรือบางคนเป็นหวัดคัดจมูกจึงฝันว่ามีคนมาปิดปากปิดจมูกทำให้หายใจไม่ออกบ้าง อยู่ในที่แคบที่ไม่มีอากาศหายใจบ้าง หรือขณะนอนหลับได้ยินเสียง ได้กลิ่น มีบางสิ่งมาสัมผัส หรือมีบางสิ่งมาทำให้เกิดความรู้สึกร้อนเย็น ก็นำสิ่งที่มากระทบขณะนั้นๆมาฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากธาตุวิปริต

๒.    อนุภูติบุพพะ เกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน คือ ความฝันที่เกิดจากอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้น ที่เก็บไว้ หรือยังค้างคาใจอยู่เมื่อก่อนที่จะนอนหลับ เช่น บางคนก่อนนอนได้คุยกับเพื่อนเรื่องการเรียน จึงเก็บมาฝันว่าทำข้อสอบได้คะแนนสูงหรือฝันว่าถูกครูต่อว่าหรือฝันว่าทำการบ้านถูกหมดทุกข้อ บางคนทำจานใบที่แม่ชอบแตกในตอนกลางวัน จึงเก็บมาฝันในตอนกลางคืนว่าได้ซื้อจานใบใหม่ที่เหมือนกันทุกประการกับใบที่แม่ชอบมาไว้แทนที่เรียบร้อยแล้ว บางคนมีความตั้งใจว่าจะบวชทดแทนคุณพ่อแม่นานมาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสและเวลาที่จะบวชเนื่องจากติดภารกิจการงาน และตอนกลางวันเขาได้เห็นพระสงฆ์ คืนนั้นเขาจึงเก็บเอาอารมณ์ความตั้งใจในกาลก่อนมาฝันว่าได้บวชให้พ่อแม่ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากอารมณ์ในกาลก่อน

๓.    เทวโตปสังหรณ์ เกิดจากเทวดาหรือพวกโอปปาติกะ(เทวดา,พรหม,สัตว์นรก,เปรต,ภูตผีปีศาจวิญญาณ(แล้วแต่จะเรียกกัน)) มาดลสังหรณ์หรือมาเข้าฝัน เช่น วิญญาณคนตายมาเข้าฝันขอให้อุทิศส่วนบุญไปให้  มาเข้าฝันบอกหวย เทวดามาเข้าฝันบอกสิ่งที่เป็นมงคล เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันที่เกิดจากโอปปาติกะดลสังหรณ์

๔.    บุพพนิมิต เกิดจากบุพนิมิตหรือความฝันบอกเหตุ คือ ความฝันที่บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นในภายหน้า ซึ่งอาจเกิดจากญาณรู้ของเราเองหรือพวกโอปปาติกะมาดลสังหรณ์ เช่น ฝันว่าผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วมาขอเกิดด้วยและต่อมาบุตรที่เกิดมาจำอดีตชาติได้ว่าเป็นคนที่เคยมาเข้าฝันมาเกิด , ฝันว่าไฟจะไหมบ้านและต่อมาได้เกิดไฟไหม้บ้านจริงๆ เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าความฝันบอกเหตุ

ในพุทธประวัติ มีการกล่าวถึงความฝันบอกเหตุไว้ว่า คืนหนึ่งก่อนที่จะตั้งพระครรภ์เจ้าชายสิทธัตถะ พระนางเจ้ามายาราชเทวี พระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ทรงพระสุบิน(ฝัน)ว่า มีช้างเผือกชูดอกบัวบุณฑริก(บัวขาว)มาเข้าเฝ้าพระนาง ทำประทักษิณ(เดินเวียนขวา)เวียนพระแท่นที่บรรทม(นอน) ๓ รอบ แล้วปรากฏเสมือนเข้าไปสู่พระอุทร(ท้อง)เบื้องขวาของพระราชเทวี จากนั้นพระนางเจ้าก็เสด็จตื่นจากบรรทม พวกพราหมณ์ทำนายความฝันของพระนางว่า พระสุบิน(ฝัน)ของพระราชเทวีเป็นมงคลนิมิตปรากฏ พระนางจะได้พระโอรส ผู้มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่ในโลก ซึ่งต่อมาพระนางก็ตั้งพระครรภ์และให้กำเนิดพระโอรส คือเจ้าชายสิทธัตถะ หรือพระพุทธเจ้าในกาลต่อมานั่นเอง


โดย: Sornpraram    เวลา: 2021-1-11 08:09





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2