Baan Jompra

ชื่อกระทู้: พระพุทธเจ้าเหนือพรหม [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2018-6-9 06:17
ชื่อกระทู้: พระพุทธเจ้าเหนือพรหม
ถ้าจะกล่าวกันจริงๆแล้ว พระเครื่องหลวงปู่มีด้วยกันมากมายหลายพิมพ์ แต่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจะกล่าวว่า "พระพุทธเจ้าเหนือพรหม" นับว่าเป็นพิมพ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่อย่างแท้จริง
คราวนี้ลองมาแยกกันดูครับว่า พระพุทธเจ้าเหนือพรหมจะแบ่งออกเป็นรุ่นหลักๆ ว่ามีอะไรบ้าง
1. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่ สร้างประมาณ ปี พ.ศ.2517 เป็นต้นมา ซึ่งรุ่นนี้ก็แบ่งได้เป็นหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์จัมโบ้ พิมสายฟ้า พิมพ์คอปาด(ใครเป็นคนตั้งก็ไม่รู้ ) แต่ที่จำแนกได้ชัดเจน ก็จะเป็นรุ่นไม่มีขอบ(ซึ่งสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นแรกสุด) และรุุ่นที่มีขอบ



2. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์กลาง สร้างประมาณปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมา ซึ่งรุ่นนี้หาสวยยากหน่อย ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นหน้าสังขยา เสียส่วนใหญ่



3. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมรุ่นฉลอง 200 ปีกรุงเทพมหานคร สร้างปี พ.ศ.2525 หรือที่เรียกกันว่า
พรหมยิ้ม ด้วยลักษณะใบหน้าของพระพรหม พิมพ์นี้นับได้ว่าเป็นพิมพ์ที่สวยมาก มีความคมชัดกว่าพระเหนือพรหม รุ่นอื่นๆ จำนวนการสร้าง 200 องค์



4. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมเนื้อดินเผา สร้างปี พ.ศ.2531 (ศิษย์สร้างถวาย) พระพุทธเจ้าเหนือพรหมรุ่นนี้มีจำนวนน้อยมาก
ประมาณ 800 องค์ โดยจะแบ่งเป็น ดินเผาสีแดง 500 องค์ และ ดินเผาสีขาว 300 องค์ และ
พระรุ่นนี้ต่อมาได้เป็นต้อนแบบของ พระพุทธเจ้าเหนือพรหม ปี พ.ศ.2532



5. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์เล็ก(พรหมเกศา) สร้างปี พ.ศ.2532 พระรุ่นนี้จะพิเศษตรงที่มีการบรรจุเกศา ของหลวงปู่ลงไปด้วย
(น่าบูชามากองค์เล็กสวยกำลังดี ได้ทั้งเกศา เลี่ยมขึ้นคอก็ไม่ใหญ่มาก)


6. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมถอดพิมพ์จาก เหรียญหล่อพรหม ปี 22 พระพรหมพิมพ์นี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับพระพรหมเกศาปี 32 แต่ที่เห็นส่วนใหญ่จะมีขนาดบางกว่า พิมพ์จะไม่ค่อยชัดเหมือนพระพรหม ปี32



7. พระพุทธเจ้าเหนือพรหม(รุ่นพิเศษ) ไม่ทันหลวงปู่อธิฐานจิต เป็นพระเหนือพรหมที่สร้างขึ้นมาจากมวลสารผสมอังคารธาตุของหลวงปู่จำนวนการสร้างน้อย และได้เมตตาจาก พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และหลวงปู่ทิมวัดพระขาว อธิฐานจิต
พระผงพุทธคุณ พระพระพุทธเจ้าเหนือพรหม เท่าที่เห็นก็น่าจะมีอยู่เท่านี้ (ไม่รวมพระผงถอดพิมพ์หลวงปู่สี) ครับ
ทำไมถึงเป็นพระพุทธเจ้าเหนือพรหม




ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงพุทธคุณของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุเห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด ”พระพุทธเจ้าเหนือพรหม”นี้ ลป.ดู่ท่านได้หยิบยกพระพุทธตำนานตอนหนึ่งซึ่งเป็นพระตำนานที่อยู่ในบทสวดพระคาถาพาหุงบทหนึ่งว่า

“ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรหมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ”

พระคาถาบทพาหุงบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากและมีความอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะเริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน

ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง๓ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอหาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพหรมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าว ผกาพรหมลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดง พระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า “พระพรหม”







ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2