หลวงพ่อแปลกแสดงมายาจิต ปลุกเสกพระหมุนรอบบาตร - Baan Jompra

เรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นเรื่องที่เป็น อจินไตย เป็นเรื่องอภินิหารและอำนาจจิตของหลวงพ่อแปลก (นามเดิม นายแปลก พินิจจันทร์) แต่นายบาแดงจะขอสัมภาษณ์ จากผู้คนที่พบเห็นและอยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น แต่ละเรื่องอาจจะต่างสถานที่ เวลาและบุคคล เรื่องที่ไม่มีตัวบุคคลยืนยัน นายบาแดงจะไม่เขียนเล่าลงไว้ ณ ที่นี่ และขอให้เป็นเรื่องที่อยู่ในดุลยพินิจของทุกท่าน

เหตุการณ์ครั้งนี้ นายบาแดงได้สัมภาษณ์ คุณลุงทิ้ง หุ่นดี ที่บ้านหมู่๗ ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ปัจจุบันของคุณลุง สัมภาษณ์ ณ วันที่๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๗ เวลา๑๒.๕๖น คุณลุงทิ้ง หุ่นดี เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๓ นับถึง พ.ศ.๒๕๕๗ มีอายุได้ ๗๔ปี สุขภาพแข็งแรง ความจำเป็นเลิศ เรื่องหลวงพ่อแปลก ที่มีแต่คำบอกเล่าต่อกันมา หาผู้คนยืนยันไม่ได้ นายบาแดงจะไม่ขอนำมาบันทึกไว้ เรื่องหลวงพ่อแปลกแสดงมายาทางจิต ผู้เล่าเป็นผู้พบเห็นเอง และมีตัวตนอยู่จริง

คุณลุงทิ้ง หุ่นดี เล่าว่าบ้านเดิม เป็นชาวสรรคบุรี อยู่ที่หมู่๓ ตำบลเที่ยงแท้ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท และบ้านอยู่ใกล้วัดสังฆาราม แต่ไปเป็นลูกศิษย์วัดโพธาราม เป็นวัดที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับวัดสังฆาราม ซึ่งมีแม่น้ำน้อย คั่นอยู่ระหว่างวัดทั้งสอง และเป็นลูกศิษย์อยู่วัดโพธารามก่อนที่หลวงพ่อแปลกและหลวงตาม่อม มาอยู่ เหตุที่มาเป็นเด็กวัดโพธาราม เพราะข้ามฝั่งมาเรียนหนังสือ

บาแดงได้ถามคุณลุงทิ้ง ว่ารู้จักหลวงพ่อแปลก เมื่อไหร่ คุณลุงทิ้งบอกว่ารู้จักหลวงพ่อแปลกเมื่อครั้งหลวงตาม่อม ชวนหลวงพ่อแปลกให้ย้ายจากวัดสังฆารามให้มาอยู่ด้วยกันที่วัดโพธาราม ซึ่งหลวงพ่อแปลกก็ย้ายวัดข้ามฝั่งมา แต่หลวงพ่อแปลกก็ยังเดินทางไป-มา ระหว่างวัดทั้งสองอยู่เสมอ

บาแดงถามว่าคุณลุงทิ้ง รู้จักสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับหลวงพ่อแปลกหรือไม่ คุณลุงทิ้งบอกว่าไม่ได้สนิมสนมเป็นการส่วนตัว แค่เป็นพระย้ายวัดมา ไม่ได้ให้ความสนใจ เพียงแค่รับใช้เกี่ยวข้องบ้าง ในบางเวลา แต่พอทราบอุปนิสัยหลวงพ่อแปลกว่าท่านใจดี ไม่ว่ากล่าวร้ายให้ใคร ไม่จับสตางค์และพันธบัตร พูดน้อย ช่วงระยะเวลานั้นถึงแม้ว่าหลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม ท่านได้มรณภาพไปแล้วเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๖ ก็ตาม แต่ความมีชื่อเสียงและความศรัทราของผู้คนยังมีต่อหลวงพ่อปลื้มมาก คุณลุงทิ้ง เล่าว่าเกิดมาจำความได้ทุกคนก็เรียกหลวงพ่อปลื้ม ว่าหลวงพ่อกันทั้งนั้น มีผู้คนมากมาย ไปมาหาสู่หลวงพ่อปลื้ม ทั้งใกล้และไกล เรื่องราวของหลวงพ่อแปลก จึงดูเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับบารมีของหลวงพ่อปลื้ม

บาแดงถามต่อไปว่า หลวงพ่อแปลกเริ่มมีชื่อเสียงเมื่อไหร่ คุณลุงทิ้งตอบว่า เมื่อมาอยู่ที่วัดโพธารามได้ไม่นาน หลวงพ่อแปลกก็เริ่มมีชื่อสียง แต่ก็ยังสู้บารมีหลวงพ่อปลื้มไม่ได้ รู้จักหลวงพ่อแปลกกันในกลุ่มเล็กๆเท่านั้น การมีชื่อเสียงของหลวงพ่อแปลกนั้น แปลกสมชื่อของท่าน ทุกคนที่ได้เห็น ซึ่งมีทั้งกลุ่มเด็กและพวกผู้ใหญ่ พวกวัยรุ่น ต่างกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อแปลกท่านแสดงมายากล เสกผ้าเป็นกระต่าย และนก และหลวงพ่อแปลกท่านก็ยิ่งแสดงมายากลเสกผ้าเป็นกระต่ายและนก มากยิ่งขึ้น เสียงร่ำลือการแสดงมายากลของหลวงพ่อแปลกก็ยิ่งโด่งดังไปทั่ว รวมทั้งคุณลุงทิ้ง ซึ่งเป็นเด็กวัดในขณะนั้น ก็มีความคิดว่าเป็นการแสดงมายากลเท่านั้น ผู้คนบางกลุ่มก็เชื่อว่าหลวงพ่อแปลกท่านขลังจริง บางกลุ่มก็ว่าเป็นการแสดงมายากล แต่ก็เริ่มมีกลุ่มพวกผู้ใหญ่ วัยรุ่น ติดตามไปมาหาสู่หลวงพ่อแปลกอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้ติดตามดูว่าคนเหล่านั้นมาหาหลวงพ่อแปลกด้วยเหตุอันใด อาจจะมาดูท่านแสดงมายากลก็เป็นได้

นายบาแดงถามคุณลุงทิ้งต่อไปอีกว่า ในฐานะที่เป็นเด็กวัดโพธาราม เคยเห็นหลวงพ่อแปลก แสดงมายากลเสกผ้าเป็นกระต่าย และนก ให้ดูหรือไม่ คุณลุงทิ้งตอบว่าไม่เคย และไม่สนใจอยากดู ในตอนนั้นคิดว่าเป็นการแสดงมายากลตามความคิดดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น ได้ยินแต่เพียงคำร่ำลือเท่านั้น

เหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้คุณลุงทิ้ง ประหลาดใจมาจนถึงทุกวันนี้ คุณลุงทิ้งเล่าว่า ในช่วง ณ เวลานั้น คุณลุงทิ้ง อยู่ชั้นประถมปีที่๓ อายุประมาณ ๑๐ ปีเศษๆ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่วัดสังฆาราม เวลาประมาณบ่ายสามโมง หลวงพ่อแปลกท่านจะปลุกเสกพระ เรื่องมีอยู่ว่าหลวงตาม่อมท่านสร้างพระเนื้อดิน ล้อพิมพ์พระสรรคยืน ขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ประมาณเกือบเต็มบาตรพระ และนำพระพิมพ์สรรคยืนทั้งหมด บรรจุในบาตร มาให้หลวงพ่อแปลกปลุกเสก โดยนำพระทั้งหมดใส่ในบาตรมาวางไว้ข้างหน้าหลวงพ่อแปลก ซึ่งหลวงพ่อท่านนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ วางมือทั้งสองลงบนหัวเข่าซ้าย-ขวา นั่งหลับตาบริกรรมคาถา ส่วนหลวงตาม่อม คุณพ่อของคุณลุงทิ้ง ตัวคุณลุงทิ้งเอง และคนอื่นอีกรวมประมาณ๑๐ คนนั่งล้อมอยู่ด้านหน้าหลวงพ่อแปลก นั่งมองดูหลวงพ่อแปลกที่กำลังนั่งบริกรรมคาถาปลุกเสกพระในบาตร ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าหลวงพ่อแปลก และทุกคนก็นั่งอยู่ด้านหน้า มองเห็นพระที่บรรจุอยู่ในบาตรด้วยกันทุกคน

ลุงทิ้ง เล่าต่อไปว่า ตัวเองเป็นเด็กเพียงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่ม โดยนั่งใกล้ชิดกับคุณพ่อ และก็นั่งด้านหน้าใกล้หลวงพ่อแปลกและมองเห็นพระเครื่องที่บรรจุอยู่บาตรเช่นเดียวกัน หลวงพ่อแปลก ท่านนั่งท่าขัดสมาธิวางฝ่ามือทั้งสองลงบนเข่าทั้งสองข้าง โดยมือไม่สัมผัสแตะต้องบาตรที่บรรจุพระเครื่องเลย เวลาผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทุกคน ณ ที่นั้นต้องตั้งใจดู พระเครื่องที่อยู่ในบาตรเริ่มมีการเคลื่อนไหว มีเสียงพระดินกระทบกันและครูดไปกับข้างบาตรด้านในตลอดเวลา

นายบาแดงถามคุณลุงทิ้ง หุ่นดี อีกว่า ที่ว่าเห็นพระในบาตรเคลื่อนไหว เคลื่อนไปในลักษณะใด คุณลุงทิ้งบอกว่าในขณะนั้นจ้องมองพระที่เคลื่อนไหวในบาตร แบบตาไม่กระพริบ หลวงพ่อแปลกนั่งบริกรรม มือก็จับเข่าทั้งสองข้าง ไม่ได้จับบาตรที่ใส่พระที่อยู่ข้างหน้าเลย พระในบาตรทั้งหมดก็เคลื่อนที่ไปเหมือนมีคนเอาไม้มาคนพระในบาตร พระก็หมุนตามไป อย่างน่าประหลาดใจ ขณะที่พระในบาตรกำลังเคลื่อนที่ บางองค์ก็หมุนตามจนถึงขอบบาตรก็น่าจะหลุดล่วงออกมา แต่ก็ไม่มีพระในบาตรองค์ใดหลุดล่วงออกมา พระในบาตรเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ๑๐ นาที หลวงพ่อแปลกท่านหยุดบริกรรมและลืมตา พระในบาตรก็หยุดเคลื่อนไหว ที่น่าแปลกใจอีกครั้งทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เข้าไปตรวจดูพระในบาตร ไม่มีแตกหักสักองค์

นายบาแดงถามคุณลุงทิ้ง ว่านับจากวันนั้นจนถึงวัย ๗๔ ปี ในวันนี้คิดเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์ที่พบเห็นหลวงพ่อแปลกเสกพระในบาตรในอดีตที่ผ่านมา คุณลุงทิ้ง หุ่นดี ตอบว่าเชื่อแล้ว หลวงพ่อแปลก ท่านไม่ได้แสดงมายากล แต่ท่านแสดงมายาทางจิต