Baan Jompra
ชื่อกระทู้:
~ หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ วัดบ้านเสือโก้ก ~
[สั่งพิมพ์]
โดย:
kit007
เวลา:
2013-8-26 02:18
ชื่อกระทู้:
~ หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ วัดบ้านเสือโก้ก ~
[attach]4332[/attach]
หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ
วัดบ้านเสือโก้ก
ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม
ประวัติและปฏิปทา
๏ อัตโนประวัติ
“หลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ” หรือ “พระครูสุนทรสาธุกิจ” แห่งวัดบ้านเสือโก้ก ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่เรืองวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วภาคอีสานรูปหนึ่ง เมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา ท่านมีนามเดิมว่า ซุน ประสงคุณ เกิดเมื่อปีพุทธศักราช 2429 ณ บ้านเปลือย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนาเหมือนกับชาวอีสานทั่วไป ต่อมา ครอบครัวของหลวงปู่ซุนได้อพยพย้ายที่ทำมาหากินมาอยู่ที่บ้านเสือโก้ก จ.มหาสารคาม ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง ยามว่างจากทำไร่ทำนาจะคอยต้อนวัวควายออกไปเลี้ยงกลางทุ่งนา
โดย:
kit007
เวลา:
2013-8-26 02:18
๏ การบรรพชาและอุปสมบท
เมื่ออายุได้ 18 ปี ในวันหนึ่ง ขณะที่กำลังเลี้ยงวัวควายตามปกติ ปรากฏว่ากระดิ่งแขวนคอวัวควายหล่นหาย ท่านเกิดความกลัวว่าบิดาจะลงโทษ ประกอบกับเป็นคนใฝ่รู้และมีใจเอนเอียงเข้าหาพระธรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ด.ช.ซุน ประสงคุณ จึงได้ขอร้องบิดาของเพื่อนคนหนึ่ง ให้นำไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านเสือโก้ก เพื่อหนีความผิด ครั้น โยมบิดา-โยมมารดา ทราบว่าบุตรชายได้เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นที่เรียบร้อย ท่านมิได้คัดค้านหรือตำหนิแต่อย่างใด อีกทั้งได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย
กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ สามเณรซุน ประสงคุณ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระอธิการสา เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความขยันขันแข็ง
๏ การศึกษากัมมัฏฐานและวิทยาคม
ด้วยความเป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย วัตรปฏิบัติสวดมนต์เช้าเย็นไม่เคยขาด หลังจากฉันภัตตาหารเพล ท่านจะนั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานภายในกุฏิ
นอกจากนี้ หลังออกพรรษาทุกปี ท่านจะออกเดินธุดงควัตรไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามป่าเขาลำเนาไพรในภาคอีสาน
รวมทั้งยังได้ไปศึกษาวิทยาคมจากสมเด็จลุน พระเกจิชื่อดังจากประเทศลาว ในด้านอักขระโบราณ ทำให้หลวงปู่ซุนมีความรู้สามารถเขียนอักษรลาว-ขอม และอักษรไทยอย่างแตกฉาน
ในเวลาต่อมา ชื่อเสียงของหลวงปู่ซุนโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีคณะศรัทธาญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ประพรมน้ำพุทธมนต์ และปรารถนาวัตถุมงคลตะกรุดโทน และตะกรุดคู่ที่เข้มขลังจากหลวงปู่กันอย่างล้นหลาม
ยุคสมัยนั้น ราคาเช่าวัตถุมงคลตะกรุดหลวงปู่ซุน 1 ดอก เท่ากับทองคำหนักหนึ่งบาท
โดย:
kit007
เวลา:
2013-8-26 02:18
๏ พระธรรมเทศนา
อย่างไรก็ดี ท่านมักจะพร่ำสอนญาติโยมอยู่ตลอดเวลาว่า
“อย่าได้ประมาท และอย่าเบียดเบียนกัน แล้วชีวิตจะพานพบแต่สิ่งดีงาม”
๏ งานด้านการศึกษา
หลวงปู่ซุนยังเป็นพระนักการศึกษา ตลอดเวลาที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านเสือโก้ก ได้ให้ความสำคัญด้านการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยทราบดีว่าการบวชเรียนเป็นหนทางหนึ่งของคนยากคนจนชาวอีสาน
ท่านรับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดบ้านเสือโก้ก พระภิกษุ-สามเณรที่เรียนกับท่านต้องเรียนหนักมาก บางวันเรียนไปจนถึง 3 ทุ่ม ทำให้สำนักเรียนวัดบ้านเสือโก้กยุคนั้น มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ละปีจะมีพระภิกษุ-สามเณรมาอยู่จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัย จำนวนประมาณ 100 รูป
๏ ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์
พ.ศ.2461 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเสือโก้ก
พ.ศ.2477 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2497 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุนทรสาธุกิจ
โดย:
kit007
เวลา:
2013-8-26 02:19
๏ สร้างวัดกู่สุนทราราม (วัดกู่สนาม)
หลวงปู่ซุน อยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเสือโก้ก จนถึงปี พ.ศ.2493 ท่านได้มาทำพิธีสรงน้ำที่ซากกู่เทวสถานสมัยขอม ภายในป่าโคกบ้านสนาม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งวัดกู่สุนทราราม (วัดกู่สนาม) บ้านสนาม ในปัจจุบัน ชาวบ้านญาติโยมลือกันว่า ในป่าโคกบ้านสนามแห่งนี้ผีดุมาก ไม่มีใครกล้าบุกรกุเข้าไป
หลวงปู่ซุนมีความตั้งใจสร้างวัดขึ้นในบริเวณดังกล่าว จึงขอความร่วมมือจากชาวบ้านญาติโยมในการสร้างวัด ก่อนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2500 วัดแห่งนี้มีชื่อว่า วัดกู่สุนทราราม (วัดกู่สนาม) บ้านสนาม นับแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงปู่ซุนได้อยู่จำพรรษาที่วัดกู่สุนทราราม (วัดกู่สนาม) บ้านสนาม มาโดยตลอด
๏ การมรณภาพ
บั้นปลายชีวิตของหลวงปู่ซุน สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง อาพาธบ่อย ครั้งสุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ.2504 สิริอายุรวมได้ 76 พรรษา 56 ในปัจจุบัน วัดกู่สุนทราราม (วัดกู่สนาม) บ้านสนาม ได้ก่อสร้างศาลาเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงปู่ซุน ติกขปัญโญ
.............................................................
คัดลอกมาจาก ::
หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 31
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6 โดย เชิด ขันตี ณ พล
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5890
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=27387
โดย:
Metha
เวลา:
2013-12-11 00:49
ขอบคุณครับ
โดย:
Sornpraram
เวลา:
2020-8-8 08:21
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/)
Powered by Discuz! X3.2