Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ฆราวาสจอมขมังเวทย์ # อาจารย์เปล่ง บุญยืน [สั่งพิมพ์]

โดย: Metha    เวลา: 2017-10-3 02:32
ชื่อกระทู้: ฆราวาสจอมขมังเวทย์ # อาจารย์เปล่ง บุญยืน
อาจารย์เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทย์มหาเสน่ห์แห่งแดนอีสานใต้ ท่านเกิดเมื่อวันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2464 ขึ้น2ค่ำ เดือน7 ปีระกา ที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อาจารย์เปล่งท่านแต่งงานกับนางยอน บุญยืน มีบุตรธิดาร่วมกัน 7คน 1)ด.ต.ผดุง บุญยืน(เสียชีวิตแล้ว) 2)นายเสน่ห์ บุญยืน 3)นางเสนาะ บุญยืน 4)นายวรวุฒิ บุญยืน 5)ด.ต.ทองอยู่ บุญยืน 6)นายวรศักดิ์ บุญยืน 7)นางเพ็ญศรี บุญยืน อาจารย์เปล่งท่านถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลสุรินทร์ด้วยโรคปอดบวมรุนแรงเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 17:20น. สิริอายุ 87ปีอาจารย์เปล่ง บุญยืน ท่านเคยเล่าว่า สมัยที่ท่านเป็นนักศึกษา ได้หลบหนีเข้าป่าเนื่องจากขณะนั้นมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองรัฐบาลได้กวาดล้างคนที่มีความคิดเห็นต่างและท่านถูกกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมิวนิสต์ ท่านจึงหลบหนีเข้าป่าไปเจอ ท่านอาจารย์ภา มีเชื้อสายเขมรและเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าและขลังมาก อาจารย์ภาได้ชักชวน อาจารย์เปล่ง ให้บวชด้วยกัน  ท่านจึงตัดสินใจบวชออกเดินธุดงค์ไปทั่วป่าลึกทั้งในเขตสุรินทร์ ศรีสะเกษ กระทั่งฝั่งเขมรและลาว ท่านฝึกจิตเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่กลางป่าเป็นเวลากว่า 10 ปี ท่านต้องกินเผือกกินมันแทนข้าว นอนในถ้ำที่มีงูเห่าชุกชุม และนั่งสมาธิเป็นประจำ ท่านเล่าว่างูเยอะมากแต่ไม่สามารถทำอะไรท่านได้ เพราะท่านก็มีวิชาอาคมไว้ป้องกันตนเหมือนกัน อาจารย์ภาเคยขอร้องท่านให้บวชตลอดชีวิตด้วยกัน แต่ท่านไม่สามารถทำได้เพราะท่านมีครอบครัวแล้ว และเมื่อถึงเวลาอันสมควรท่านจึงขอลาสิกขากลับมาสู่เพศฆราวาสอีกครั้งในปี พ.ศ. 2492 หลังจากนั้นอีก 6 เดือนต่อมาท่านก็สอบบรรจุเป็นครูเริ่มชีวิตข้าราชการแต่นั้นมาจนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนมัธยม ด้วยความสามารถทางจิตของท่าน ทำให้ท่านเสกอะไรก็ขลังมีพลังไปหมดทำแบบรู้แจ้งเห็นจริงเชื่อถือได้พิสูจน์ได้ คนในเขตอีสานใต้ต่างรู้ซึ้งถึงกิตติศัพท์ของท่านดี มีครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เชิญท่านเป็นเจ้าพิธีในงานเปิดสะพานแม่น้ำมูล ท่านได้นั่งบริกรรมอยู่บนเรือ ขณะที่นั่งท่านบริกรรมอยู่นั้นได้มีปลาจำนวนมากกระโดดขึ้นเต็มลำเรือเลย ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากที่มาร่วมพิธีต่างตะลึงไปตามๆกัน จนเป็นที่เลืองลือระบือไกล เป็นที่รักใคร่และศรัทธาของชาวบ้านมาจวบจนทุกวันนี้ เครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้างนั้นมวลสารหลักๆ คือผงพราย ท่านบอกว่า ถ้าใครโดนคุณไสยมา พรายจะถอนออกให้ และกันคุณไสยมนต์ดำได้ด้วย อีกทั้งเป็นมหาเสน่ห์อย่างแรง ท่านบอกว่าใช้พระท่านนั้นคุ้มครองตัวได้แน่นอน  ย้อนไปในระหว่างที่ท่านบวชได้ธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ภาอยู่นั้นท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจาก "พระอาจารย์ภา" จนหมดสิ้นทั้งคงกระพันและเมตตา ว่านยาต่างๆ วิชาที่สำคัญอีกอย่างคือ วิชาทางพราย ซึ่งน้อยคนนักที่จะเรียนสำเร็จ วิชาทางพรายของท่านอาจารย์เปล่งนั้นท่านทำเพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และเป็นการสร้างกุศลแก่พรายเอง (พรายที่นำมาทำผงพรายเป็นพรายที่พลีด้วยความสมัครใจไม่ได้บังคับแต่ประการใด) ท่านอาจารย์เปล่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางไสยเวทย์ท่านได้สยบวิญญาณก่อนและให้วิญญาณนั้นๆรับศีลรับพรทำให้เขาได้อยู่ดีมีสุข แล้วจึงนำกระดูกมาบดเสกกำกับด้วยคาถาให้มีผลทางด้านเมตตา มหานิยม ท่านอาจารย์เปล่งท่าน สร้างด้วยเมตตาธรรม จึงปลอดภัย ไม่เข้าตัว บางเรื่องทางคุณพระท่านสงเคราะห์ไม่ได้เพราะติดข้อบังคับพระธรรมวินัย บางอย่างฆราวาสจึงเสกได้ขลังกว่าพระอย่างเช่นมหาเสน่ห์ดลจิตดลใจคนประมาณนั้น ท่านอาจารย์เปล่งได้ใช้วิชาอาคมต่างๆ ที่ร่ำเรียนมาสงเคราะห์ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมากมายอาทิ สมัยที่ท่านยังรับราชการอยู่มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกงูกัด จะไปโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทัน พ่อแม่จึงพามาหาท่านให้ช่วยรักษา ท่านก็เมตตาเสกเป่าพ่นให้เป็นที่อัศจรรย์เด็กหายจากพิษร้ายรอดตาย หลังจากนั้นมากิติศัพท์ของท่านก็แพร่ออกไปชนิดที่เรียกว่าไม่ว่างูชนิดไหนจะมีพิษมากน้อยเท่าไรถ้าสามารถมาถึงมือของท่านได้รับรองว่ารอดทุกราย ส่วนทางด้านเมตตาก็มีปรากฏอยู่เนืองๆ ครั้งหนึ่งมีเพื่อนครู(ขอสงวนนาม)ไปหลงรักสาวแต่สาวเจ้ากับไม่เล่นด้วยเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย อาจารย์เปล่งเมือทราบเรื่องโดยตลอดแล้วจึงขอคำมั่นสัญญาจากเพื่อนครูและรับปากที่จะช่วยเหลือ จากนั้นท่านก็เสกสิ่งของให้ไป เพื่อนครูของท่านก็สมหวังในระยะเวลาต่อมา ความรู้ความสามารถของท่านไม่แสดงออกมากนักติดที่เพื่อนเป็นครู กลัวจะเป็นที่ครหานินทาว่า งมงายไร้สาระจนกระทั่งท่านเกษียณอายุ ท่านอาจารย์เปล่งจึงสร้างพระเครื่องและเครื่องรางของขลังอย่างจริงจังจนเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ คนสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, จีน รวมถึงฮ่องกงก็ศรัทธาท่านบูชาวัตถุมงคลและเครื่องรางของท่านแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย พระเครื่องที่ท่านอาจารย์เปล่งสร้างครั้งแรก เป็นพิมพ์พระขุนแผน ผู้ที่ได้รับแจกไปจากท่านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าเป็นสุดยอดทางเมตตาจริงๆ กรรมวิธีการสร้างและเสก ท่านอาจารย์เปล่งได้ชี้แจงรายละเอียดให้ทราบโดยไม่ปิดบังดังนี้ว่า มวลสารที่ท่านใช้ส่วนใหญ่จะเป็นว่านทั้ง 108 ชนิดและยังมีพวกพญาว่านที่สำคัญ ๆ อีก มาก อาทิ พญากาหลง พญางิ้วดำ พญาเครือหลง พญาสาลิกา พญาตะเคียนหิน พญาแกแล ผงพรายกุมารีแฝด ผงจินดามณี กาฝาก 108 สีผึ้งมหาเสน่ห์พระอาจารย์ภา มวลสารต่างๆ ที่กล่าวมาได้รับการปลุกเสกจากพระอาจารย์ภาผู้เป็นปรมาจารย์ของท่านก่อนแล้วจึงกำหนดฤกษ์ยามในการกดพิมพ์หมดฤกษ์ก็หยุด ในครั้งแรกนั้นท่านสร้างไว้ในจำนวนไม่มากนักแต่ไม่เกิน 100 องค์เมื่อการสร้างเสร็จสิ้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการปลุกเสก ท่านใช้เวลาการปลุกเสกนานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งพระขุนแผนทุกองค์เคลื่อนไหวพลิกไปพลิกมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พระขุนแผนรุ่นแรกถูกขนานนามว่า “ พระขุนแผนมหาเสน่ห์ ” เพราะพุทธคุณด้านเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละรวยแรงมากเป็นพิเศษ จนเป็นที่แสวงหาของศิษย์ และเมื่อพระขุนแผนรุ่นแรกหมดไปลูกศิษย์หลายคนหลายคณะที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของจึงขอร้องให้ท่านสร้างขึ้นอีก ซึ่งท่านเมตตาก็สร้างให้ตามประสงค์จนถึงปัจจุบันมีมากถึง 6 รุ่น แล้วเรียงตามลำดับดังนี้ 1.พระขุนแผนมหาเสน่ห์(ป.1) 2.พระขุนแผนชมตลาด(ป.2) 3.พระขุนแผนสยบมาร 4.พระขุนแผนสะกดทัพ 5.พระขุนแผนพราย 59 ตน6.พระขุนแผนจอมสุรินทร์ พระขุนแผนของท่านทุกรุ่นนับว่าไม่เคยสร้างความผิดหวังให้ใครเลยผู้ที่เคยใช้แล้วต่างยอมรับทุกราย รุ่นที่ศิษย์ขอร้องให้ท่านสร้างให้โดยเฉพาะในปีนี้ (พ. ศ. 2543) ท่านได้สร้างพระสมเด็จจอมสุรินทร์ขึ้นตามคำเรียกร้องของคณะศิษย์ที่อยากได้พระเครื่องที่มีพุทธคุณทางด้านค้าขายและโชคลาภโดยเฉพาะ ส่วนเครื่องรางของขลัง ท่านสร้างไว้มากมายหลายชนิด อาทิ อิ้นคู่มหาเสน่ห์ ที่มีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงสุด ใครเห็นใครรัก หญิง ชายหลง ผู้ใหญ่เมตตา นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านเป็นอย่างมาก รัก–ยม ท่านอาจารย์เมตตาปลุกเสกจนมีฤทธิ์ช่วยผู้บูชาทำมาหากิน ทำมาค้าขาย เรียกลูกค้าเรียกคนเข้าร้าน เรียกงาน เรียกเงินเรียกทอง เฝ้าบ้านและตาม จะเรียกใช้ สีผึ้ง จะเน้นทางเมตตาค้าขายผสมผงกุมาร ลูกอมเพชรกลับ คุณพิเศษด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ตะกรุดโทน มีพุทธคุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นมหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ มหาอุด ตะกรุดพญางูเหลือม ดีทางเรียกเงินเรียกทอง ทำมาหากินสะดวกสบาย โชคลาภเงินทองเข้ามาหาเอง เหมือนพญางูเหลือมที่สัตว์เล็กใหญ่พากันมาให้กินโดยไม่ต่อสู้ขัดขืน ปลัดขิก เมตตา ค้าขาย กันเขี้ยวงา นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายชนิดเช่น ผ้ายันต์ต่างๆ ซึ่งระยะหลังๆท่านได้เลิกทำแล้วเพราะอายุมาก เครื่องรางทุกชนิด พระเครื่องทุกรุ่นทุกพิมพ์ ท่านสร้างด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน อาจารย์เปล่งกล่าวว่าเวลาท่านทำวัตถุมงคลหรือเครื่องรางให้คนเอาไปใช้ ท่านต้องทำให้เต็มที่ ไม่ให้เสียชื่อ ท่านเรียนรู้จริง ทำได้จริงจึงกล้ารับประกัน   วัตถุมงคลหรือเครื่องรางผงพรายที่ท่านทำนั้นท่านปลุกเสกผงพรายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และเป็นกุศลแก่พรายด้วย ไม่ใด้ใช้พรายไปทำร้ายใคร กุศโลบายของท่านเพื่อให้คนและพรายร่วมกันสร้างบุญใช้วัตถุมงคลหรือเครื่องรางของท่านแล้วหมั่นทำบุญถวายสังฆทานท่านจะพบแต่ความสุขความเจริญ


ที่มา http://www.thaprachan.com/show_pra.php?id=894146





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2