ปรมาจารย์ครูย่อมไม่ทิ้งศิษย์ในสาย - Baan Jompra

ครูบาอาจารย์ ถึงแม้ท่านจะเรียนมาหลายสาย แต่ทุกท่านจะคล้ายๆกัน ท่านจะต้องมีสายหลักอยู่สายหนึ่ง ซึ่งจะเป็นรู้กันของคนทั่วไปว่า ท่านเป็นสายไหน

บรมครูของสายหลัก ท่านจะมีเมตตามาช่วยเหลือมาก เพราะว่าศิษย์ในสายเสื่อมเสีย ท่านก็จะเสียด้วย ศิษย์ในสายเมื่อปฏิบัติถึง ปฏิบัติดี ท่านจะเมตตาช่วยเหลือ แม้แต่เรื่องที่อยู่อาศัย แล้วเรื่องการลงของ เสกของ ไม่ต้องพูดถึง ท่านต้องมาช่วยทุกครั้งแน่นอนอ.เจ็ก เป็นศิษย์หลวงปู่ทอง มาครอบครูเป็นอาจารย์กับอ.แก้ว คำวิบูลย์ ตอนอายุ๓๒ เมื่ออายุ๔๘ จะครอบครูเป็นอาจารย์อีกครั้ง แต่อ.แก้ว เสียชีวิตแล้ว จึงขอให้อ.แถว หลานหลวงปู่ทองครอบให้ จึงนับว่าท่านเป็นสายตรงหลวงปู่ทอง

เมื่อปี๒๕๑๒ อ.เจ็ก เช่าบ้านอยู่แถวเฉลิมกรุง ซึ่งตอนนั้นเป็นดงผู้หญิงหากิน มีอยู่วันหนึ่ง มีศิษย์มาหาห้าหกคน อยู่ๆนายเปี๊ยก ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ อายุแค่สิบเจ็ดปี ไม่เคยเป็นร่างทรงมาก่อน มีอาการสั่นอย่างรุนแรง เมื่อสงบแล้ว จึงบอกว่า เป็นหลวงปู่ทอง ร่างทรงพูดกับอ.เจ็กว่า จริงๆแล้วหลวงปู่ไม่ค่อยอยากมาที่นี่ เพราะที่นี่มันสกปรก อ.เจ็ก ก็เข้าใจ เพราะบ้านอ.เจ็กติดกับแหล่งหากินของผู้หญิง ร่างทรงนั้นก็พูดว่า อยากให้อ.เจ็กย้ายบ้าน อ.เจ็กก็บอกว่าย้ายไม่ได้ไม่มีตังค์ ร่างทรงก็บอกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวหลวงปู่ช่วยเอง หลวงปู่ไปดูบ้านให้แล้ว อยู่ซ.มารดานุเคราะห์ เป็นตึกแถวสองชั้น อยู่ห้องที่๗ แต่ต้องรอเดือนสิงหาก่อน ถึงย้ายได้

พวกเพื่อนนายเปี๊ยก นึกว่านายเปี๊ยกแกล้งทำ จึงแซวว่า หลวงปู่จะเขียนเช็คให้เหรอ หรือจะให้ถูกหวย ร่างทรงก็ตอบกลับว่า แล้วคอยดูหลวงปู่แล้วกัน

หลังจากนั้นไม่กี่วัน มีเด็กนักเรียนวัยรุ่น จากสองโรงเรียนใหญ่ มาลงของกับอ.เจ็กทุกวัน วันหนึ่งยี่สิบกว่าคน อ.เจ็กท่านจะลงของลูกศิษย์ด้วยน้ำมัน เด็กนักเรียนจึงมาลงได้

เพียงสามเดือนมีเงินเก็บได้เจ็ดหมื่น อ.เจ็ก จึงไปหาบ้านนั้น ตามที่หลวงปู่ทองบอก แถวสามแยกไฟฉาย ซ.มารดานุเคราะห์ ก็พบว่ามีจริง เหลือห้องที่เจ็ดเพียงห้องเดียว เจ้าของบ้านบอก คนมาดูเยอะ ดูแล้วก็ชอบ แต่พอนัดทำสัญญา ก็เงียบหายไปเฉยๆ อ.เจ็กได้ฟังก็อดอมยิ้มในใจ ว่าหลวงปู่ทองคงไม่ให้มาเอา

ตกลงได้เซ้งบ้านนั้นในราคา ๓๖๕๐๐ ตบแต่งไปอีกสามหมื่นกว่า ทำไมทำมา ที่หลวงปู่ทอง ให้มาเจ็ดหมื่น ลงบ้านหมดเลยพอดี ขอท่านให้ช่วยเรื่องบ้าน ท่านก็ให้เงินพอดีกับทำบ้านทั้งหมด