Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ตำนานผียายจันทร์ เรื่องเล่าสุดน่ากลัวของหมู่บ้านญวน [สั่งพิมพ์]

โดย: oustayutt    เวลา: 2017-6-6 12:20
ชื่อกระทู้: ตำนานผียายจันทร์ เรื่องเล่าสุดน่ากลัวของหมู่บ้านญวน


ตำนานผียายจันทร์ เรื่องเล่าสุดน่ากลัวของหมู่บ้านยวน
เรื่องน่าสยดสยองต่อไปนี้ โพสต์โดย สมาชิกพันทิป ท่านหนึ่ง เล่าให้ฟัง ถึงตำนานในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งคนเก่าคนแก่ ในหมู่บ้านเล่าต่อ ๆ กันมา
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาไปตามยุคสมัยแสงไฟสว่างจ้า มีถนนกว้างขวางมีรถวิ่งเข้าออกทั้งวัน แต่สมัยก่อนนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ ทุรกันดานไฟฟ้าไม่มี ถนนคับแคบ ผู้คนมีอยู่ไม่กี่หลังบ้านบ้าน ส่วนมากก็ทำอาชีพขายปลาขายไก่ มีบ้านหลังนึงใหญ่โตพื้นที่กว้างขวาง บ้านนั้นตั้งเด่นสง่าอยู่ต้นซอยมีผลไม้ปลูกไว้เต็มบ้านเจ้าของนั้นเป็นแค่ยายแก่ๆ ชื่อยายจันทร์ แกอยู่คนเดียวไม่มีลูกหลานดูแล
ทุกๆวันยายจะตื่นแต่เช้ามาลดน้ำต้นไม้และสำรวจข้าวของ และผลไม้ว่าหายมากแค่ไหนสิ่งที่ยายชอบทำคือนั้งอยู่บนบ้านมองลงมาที่สวนผลไม้ใครผ่านไปผ่านมา ต้องเห็นแกนั่งแบบนั้นจนพลบค่ำจึงเข้านอน
ช่วงเวลาที่แกเข้านอนนั้นจะมีคนปีนกำแพงขโมยผลไม้ทุกวัน ยายรู้ดีว่าพวกนั้นมาขโมยผลไม้ แต่แกก็ปล่อยให้พวกนั้นขโมยไป จนวันที่ยายจันทร์ตายก็ไม่มีลูกหลานมาทำงานศพ คนที่เข้าไปเก็บศพเล่าว่า แกนอนบนกองเลือด ข้างๆศพมีข้อความว่า
“สมบัติของกูห้ามใครแตะต้อง
ลูกหลานห้ามมอง มือไม้ห้ามจับ
แม้ตอนกูตาย เป็นผีอีเฒ่า
กูจะคอยเฝ้าสมบัติของกู
ไอ้อีตนได เข้ามายุ้มย้าม
กูจะตามฆ่า หลอกหลอนทั้งโครต….”
ตอนมีชีวิตอยู่ยายจันทร์อยู่อย่างโดดเดี่ยวลูกหลานหายหมดจะกลับมาเยี่ยม เมื่อได้ข่าวว่าแกไม่สบายใกล้ตายเท่านั้นสมบัติยายจันทร์ไม่ถูกยกให้ใครมีพินัยกรรมหรือกระดาษเก่าๆข้อความว่า “กูยายจันทร์เจ้าของทุกอย่างในที่ดินนี้ มีลูกหลานเป็น10กว่าคนแต่ไม่สามารถพึ่งพาใครได้ ตอนมีชีวิตอยู่ไม่เคยเข้ามาเยี่ยมเยียน เมื่อใดที่กูตายอย่าเหยียบเข้าบ้านกู สมบัติกูก็จะไม่มีใครได้ ทั้งนั้น กูจะอยู่ดูแลเอง”
บ้านถูกปิดตายล็อคกุนแจแน่นหนาการตายของยายจันทร์สร้างความน่ากลัวแก่คนในหมู่บ้าน ทุกคนในหมู่บ้านต้องเดินผ่านบ้านแก เวรกรรมตกอยู่กับพวกทำงานนอกบ้านแล้วต้องกลับบ้านดึกๆ เวลากลับบ้านวิ่งหน้า ตั้งกันทุกคน บางคนอยากลองดีเดินช้าๆมองเข้าไปในบ้านเห็นยายจันทร์นั้งอยู่บนต้นมะม่วง ชี้หน้าด่าตวาด”มาขโมยของกูใช่ไหม ไปไกลๆบ้านกูเลยนะ”จนไม่มีใครกล้ากลับบ้านค่ำๆ ผ่านมาสักระยะเริ่มมีรถรับจ้างเป็นรถซาเล้งเก่าๆ4-5คน มาจอดรถเรียงแถวคอยรับส่งคนในหมู่บ้านและคนนอกหมู่บ้าน คนรับจ้างทุกคนเป็นคนนอกหมู่บ้านจึงไม่รู้เรื่องผียายจันทร์ คนในหมู่บ้านเวลากลับบ้านดึกๆก็จะจ้างรถซาเล้งเข้าไปส่งถึงหน้าบ้าน
คนขับซาเล้งสังเกตุว่าบ้านยายจันทร์ไม่มีคนอยู่แต่บ้านกลับไม่ทรุดโทรมแถมยังมีผลไม้เต็มไปหมด จึงวางแผนขโมยผลไม้พอส่งลูกค้าในหมู่บ้านเสร็จ เลยแวะขโมยผลไม้ขณะที่กำลังปีนกำแพงจะ ถึงยอดต้นมะม่วงเห็นยายจันทร์นั้งยองๆบนต้นไม้ดวงตาสีขาวโพนอ้าปากกว้าง ส่งเสียงกรีดร้อง คนขับซาเล้งตกใจพลัดตกกำแพง วิ่งลืมรถ เสียงยายจันทร์ดังก้องอยู่ในหูทำให้หู บอดไม่สามารถได้ยินเสียงภายนอกแต่กลับได้ยินเสียงยายจันทร์ตลอดเวลา ที่น่าแปลกใจคือรถซาเล้งที่คนขับลืมไว้เข้าไปอยู่ในบ้ายยายจันทร์ ทั้งๆที่บ้านถูกปิดตายไม่มีใครเข้าไปได้ แต่รถกลับเข้าไปจอดอยู่
ยายจันทร์กลายเป็นปริศนาที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ ผู้ที่ล็อคกุนแจบ้านให้ยายจันทร์บอกว่า “ผมเผากุนแจไปพร้อมศพยายจันทร์แล้วคับ” ซาเล้งที่ไม่กลัวยังคงรับจ้างต่อไป วันหนึ่งมีคนขับซาเล้งอยากไปลองดีที่บ้านผี ยายจันทร์ ส่งเสียงดังด่าทอ”อีแก่อีจันไร ตายแล้วจะหวงสมบัติไปทำไมหลอกเพื่อนกูจนหูบอดแล้วยังหลอกคนในหมู่บ้านอีก วันนี้กูมาท้า!!แน่จริงออกมาสู้กับกู กูจะตบให้คว่ำเลย กูจะเอาของไปขายให้หมด” ซาเล้งคนนี้ปีนรั่วบ้านยายจันทร์เก็บมะม่วงขว้างลงมาบนถนนเต็มไปหมด เก็บไปบ่นไป “ไหนล่ะผีอีแก่ ออกมาสิโว้ย” เมื่อเห็นว่าไม่มีผีจึงหันหลังกำลังจะกระโดดลงจากกำแพง ได้ยินเสียงคนรดน้ำต้นไม้ปากก็ร้องเพลง
“วัดเอ่ยวัดโบสถ์ มีตาลตะโนดอยู่เจ็ดต้น เอย..
พ่อขุนทองก็ไปปล้น..เออ..ป่านฉะนี้ไม่เห็นมา
เมียคดข้าวใส่ห่อ..เอย..ถ่อเรือไปตามหา
เขาก็เล่าลือมา ว่าพ่อขุนทองตายแล้ว
เอ่อเออเอ๊อเออเอย เอ่อเอ้ยเอ้ยเอย..”
คนขับซาเล้งหันกลับไปดูเห็นผียายจันทร์ยืนอยู่ใต้ต้นมะม่วง ตะเกียดตะกายปีนขึ้นมาหาคนขับซาเล้ง วินาทีนั้นคนขับซาเล้งซ็อคจนตกลงมาจากกำแพง รีบขี่รถออกไปปากก็ร้องโวยวาย “ผะๆๆผี ช่วยกูด้วยๆ” ตาเหลือบมองกระจกข้างเห็นผียายจันทร์นั่งอยู่ข้างหลัง หน้าตาเยาะเย้ยหัวเราะเสียงแหลมๆ”จะตบกูหรอ ตบกูสิ ตบกูสิ ตบกู” ชาวบ้านไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงร้องเรียนกับทางผู้ใหญ่บ้านให้รื้อบ้านยายจันทร์ทิ้ง
ผู้ใหญ่บ้านอยากได้ที่ดินของยายจันทร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อรู้ที่ชาวบ้านเดือดร้อนจึงเข้าแผนของเขา ผู้ใหญ่บ้านจึงวางแผนทุบทิ้ง และจะซื้อต่อ… แต่ไม่เป็นไปตามที่วางแผน อยู่ๆผู้ใหญ่บ้านก็หายตัวไปเฉยๆชาวบ้านช่วยกันตามหา และไปดูที่บ้านยายจันทร์แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ตามหาอยู่เกือบ3สัปดาห์ เจออีกทีเป็นศพถูกแขวนคออยู่หน้ารั่วบ้านยายจันทร์ สภาพศพอืดจนเต็มที่ตาถลนลิ้นจุกปาก แต่ก่อนหน้านี้กลับไม่มีใครเห็นศพ
ชาวบ้านเลยไปยุ่งกับบ้านยายจันทร์อีกกลัวว่าจะต้องตายแบบผู้ใหญ่บ้านเหตุการณ์นี้ทำให้ผียายจันทร์โกรธเคืองส่งเสียงกรีดร้องทุกค่ำคืน เวลา1ทุ่มทุกบ้านปิดประตูมิดชิดมีคนเล่าว่า ยายจันทร์เดินเคาะประตูถามทุกบ้าน “ช่างฟ้องช่างยุปากว่างมากใช่ไหมกูจะตัดลิ้นพวกเมิงทิ้ง”
ยายจันทร์เริ่มแก้แค้นพวกที่เอาเรื่องแกไปฟ้องผู้ใหญ่บ้าน โดยเริ่มจากตัวแกนนำ ป้าคนนี้ชื่อแดงเป็นญาติห่างๆของผู้ใหญ่บ้าน ป้าแดงได้รับข้อเสนอของผู้ใหญ่บ้านว่าถ้ายุยงคนในหมู่บ้านให้ลงมติรื้อบ้านยายจันทร์ทิ้งได้ ป้าแดงจะได้ส่วนแบ่งจำนวนมากจึงทำให้เกิดความโลภเป่าหูให้ชาวบ้านให้เชื่อคำของตน ชาวบ้านเชื่อ อย่างง่ายดายเพราะใจก็กลัว ผียายจันทร์อยู่แล้ว..
ข่าวการตายของผู้ใหญ่บ้านเป็นที่พูดถึงในช่วงนั้นชาวบ้านคิดไปต่างๆนาๆ ว่าผู้ใหญ่บ้านตายเพราะยายจันทร์ฆ่า ป้าแดงเมื่อรู้การตายแบบปริศนาของผู้ใหญ่บ้านเกิดความกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้านไม่เจอหน้าผู้คน ผียายจันทร์ไปหาป้าแดงเคาะประตูเรียก “อีแดง อีแดงออกมา กูจะเอาเมิงไปอยู่กับไอ้ผู้ใหญ่ออกมา” เนื้อตัวป้าแดงเริ่มมีกลิ่นเน่า มีแผลตามตัวแขนขาบิดเบี้ยวผิดรูป พูดคุยคนเดียวตาเหลือกไปมา ในระยะเวลาไม่นานป้าแดงกลายเป็นคนบ้าพูดถึงแต่ยายจันทร์ จนวันนึง ป้าแดงกรี๊ดเสียงดังวิ่งไปตรงที่บ้านของยายจันทร์ ร้องไห้ฟูมฟายหันหน้าพูดกับบ้านยายจันทร์ ป้าแดง:กูขอโทษ กูขอโทษ ปล่อยกูไปเถอะอย่าหักแขนหักขากูอีกเลยนะกูจะทำบุญไปให้ป้าแดง:ไม่ๆกูเจ็บหมดแล้ว ไม่หักแล้วจะทำอะไรจะทำอะไรปล่อยกู ป้าแดงดิ้นทุรนทุรายเอามือเข้าปากแล้วก็ดึงลิ้นตัวเองออกมา “โอ้ยยยปล่อยกูไปเถอะกู..ยังพูดไม่จบแกดึงลิ้นตัวเองจนขาดนอนชักอยู่กับพื้น ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือจนแกหยุดดิ้นและตายไปเอง…ส่วนคนที่เหลือก็เป็นใบ้ไปเฉยๆหรือบางคนเดินไปผูกคอตายที่รั่วบ้านยายจันทร์
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Pantip.com โดยสมาชิกหมายเลข 3876170
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji


โดย: Nujeab    เวลา: 2017-6-7 11:50

โดย: majoy    เวลา: 2017-9-15 09:38
  
โดย: Sornpraram    เวลา: 2017-9-18 06:56
ด้วยๆ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2