ประมาณเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่คนหนึ่งไปบวชพระอยู่ในวัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ เขาตั้งใจบวชอุทิศถวายหลวงปู่ดู่หนึ่งพรรษา ภายหลังจากที่การจัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เสร็จสิ้น
ในระหว่างที่บวชอยู่นั้นก็มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับกุฏิอาถรรพ์ที่อยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเล ซึ่งที่นั่นมักจะมีกระดูกคนตายที่ผู้คนเอามาโปรยลงทะเล แต่น้ำทะเลก็ซัดเศษกระดูกเหล่านั้นกลับมากองรวมอยู่แถวใต้ถุนกุฏิหลังนี้
เสียงร่ำลือที่ว่านั้นก็คือว่า มีพระภิกษุที่มาอยู่จำพรรษาที่กุฏิหลังนี้เป็นบ้าเสียสติติดต่อกันสามรูปแล้ว (ในระยะเวลาสามพรรษาต่อเนื่องกัน) บ้างก็ร่ำลือว่า เวลาเดินผ่านกุฏิหลังนี้ในตอนค่ำ ๆ มักจะมีผู้พบเห็นผีผู้หญิงมานั่งห้อยเท้าอยู่แถวระเบียงกุฏิ
พระลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ท่านนี้ใคร่จะมีประสบการณ์ก่อนจะสึกออกไปจึงได้หาโอกาสไปนั่งปฏิบัติในกุฏิหลังนี้ในยามค่ำคืน แต่ก่อนจะไปหาประสบการณ์ที่กุฏิหลังนี้ ท่านได้โทรศัพท์ไปแจ้งที่บ้านให้นำของขลังชิ้นหนึ่งมาส่งมอบให้ไว้เป็นเครื่องอุ่นใจ นั่นก็คือ "ตะปูโลงศพ (โลงแก้ว) หลวงปู่ดู่" ซึ่งคนโบราณเชื่อกันว่าตะปูโลงศพนั้นสามารถใช้แก้อาถรรพ์ต่าง ๆ ได้
งานนี้นอกจากของขลังที่ว่าแล้วยังได้ "หมาวัด" ไปอยู่เป็นเพื่อนด้วย!
ผลก็คือ ท่านได้อยู่กับความรู้สึกกลัวโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และท่านเองก็ไม่นึกว่าตัวเองจะจำบทสวดมนต์ได้มากมายอย่างนี้...กว่าราตรีที่ยาวนานจะผ่านพ้นไป
สิ่งสำคัญที่ท่านได้เรียนรู้ก็คือ "ของจริงยังไม่ทันทำร้ายเรา แต่สิ่งที่ทำร้ายเราก่อนเสมอมานั่นก็คือจิตปรุงแต่งของเราเอง"!!
ตะปูโลงแก้ว