ในสมัยพระนารายณ์มหาราช มีครั้งหนึ่งที่กรุงศรีอยุธยารบกับพม่าในปีพ.ศ.๒๒๐๗ เหตุผลของการรบในครั้งกระนั้น เนื่องจากกรุงศรีอยุธยาขณะนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยขุนศึกแม่ทัพที่เก่งกาจกล้าหาญ ไพร่พลฮึกเหิมเคยรบชนะพม่ามาแล้วสอง ครั้งสองครา และพม่าก็เคยยกทัพมาตีไทยหลายหน แต่ไทยเองไม่เคยยกไปตีพม่าเลย จึงถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะชำระแค้น ประกอบกับพม่าเองขณะนั้นกำลังระส่ำระสาย อันเนื่องจากการแย่งชิงราชสมบัติของพระเจ้าแปร สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงโปรดให้จัดทัพมีกำลังพล ๖๐,๐๐๐ นาย แยกกันไป ๓ ทาง พระยารามเดโช จัดทัพเชียงใหม่แยกไปทางผาปูน พระยากำแพงเพชร จัดทัพเมืองเหนือแยกไปทางด่านแม่ละเมา และกองทัพ หลวงโปรดให้ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) เป็นแม่ทัพใหญ่ พระยาสุรสงคราม เป็นกองหลังยกไปทางด่านพระเจดีย์สามองค์ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) ได้ให้พระยาเกียรติกับสมิงพระรามยกทัพ มอญ ไปตีเมืองทวายอีกทางหนึ่ง เพราะเกรงว่าทวายจะยกทัพมาตีกระหนาบช่วยพม่า กองทัพไทยตั้งมั่นอยู่ที่เมืองเมาะตะมะ แล้วตีเมืองจิตตอง สิเรียม และย่างกุ้ง ซึ่งเป็นหัวเมืองรายทางได้เป็นลำดับ เจ้าพระยาโกษาธิบดีได้จัดกองทัพเรือยกไปตีเมือง แปรและหงสาวดี ซึ่งเป็นเมืองริมน้ำ แต่พม่าก็ต่อสู้อย่างแข็งขัน พระเจ้าอังวะสั่งให้มังจาเล ราชบุตรจัดกองทัพตั้ง มั่นอยู่ที่พุกาม แต่ก็สู้กำลังทหารไทยไม่ได้ ถูกตีแตกพ่ายกลับไปทุกครั้ง ที่สุดทหารไทย จึงล้อมเมืองพุกามไว้ได้ แต่จนแล้วจนรอด ก็ตีเมืองพุกามไม่แตก จนถึงปี พ.ศ.๒๒๐๘ เสบียงร่อยหรอ ลงทุกที จำใจต้องถอยทัพกลับ แต่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) ได้ออกอุบายลวง มังจาเลว่า ไทยจำเป็นต้องถอนทัพกลับแล้ว มังจาเลหลงกล และคิดจะตีทัพไทยระหว่างถอนทัพ เมื่อถึงกำหนดวัน มังจาเล ก็ยกทัพเข้าโจมตี จึงถูกทัพไทยตลบหลัง ทหารพม่าถูกฆ่าตายจำนวนมาก มังจาเลรีบ ยกทัพกลับเข้าเมืองพุกามได้ทัน ไม่เช่นนั้นพุกามคงต้องแตกพ่ายด้วยน้ำมือของเจ้า พระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) เป็นแน่แท้ เมื่อถึงกำหนดเดินทัพกลับจริงๆ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) ก็ออกอุบาย ปล่อยข่าวไปยังมังจาเลอีก แต่คราวนี้มังจาเลไม่เชื่อ ไม่กล้าออกจากกำแพงเมืองอีก ปล่อยทัพไทยจึงถอนกลับกรุงศรีอยุธยาอย่างปลอดภัย ในคราวศึกครั้งนี้ พระราชพงศาวดารบันทึกถึงอภินิหารของทหารไทยท่านหนึ่ง ไว้ว่าพระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) คุมกองทัพเข้าต่อสู้กับพม่าเป็นสามารถ แต่ถูก พม่าจับตัวไว้ได้ และถูกจองจำไว้อย่างแข็งแรง ความทราบถึงเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) จึงรีบกราบบังคมทูลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชให้ทรงทราบ ซึ่ง พระองค์ก็ ทรงร้อนพระทัยเป็นยิ่งนัก จึงให้หาสมเด็จพระราชาคณะมาทำนาย ดวงชะตาของ พระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) ว่าดีร้ายเป็นประการใด สมเด็จพระราชาคณะกราบบังคมทูลว่า ไม่เป็นอันตราย สิ้นกระแสความ ก็มีม้าเร็วมาแจ้งข่าวว่า พระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) หนีออกจากที่คุมขังพม่าได้สำเร็จ กำลังเดินทางกลับกรุงศรีอยุธยา ว่ากันว่า พระยาสีหราชเดโชชัย (ทิป) นี้เป็นผู้มีความสามารถทางไสยศาสตร์ คงกระพันชาตรี และหายตัวได้…. (ที่มา : หนังสือ “พระนารายณ์มหาราช หรือประวัติ เมืองลพบุรี” โดย ผ.คติการ ๘ มกราคม ๒๔๘๐ ห้องสมุดวังท่าพระ) บันทึกประวัติศาสตร์นี้ จะเป็นจริงดังว่าหรือไม่ ถึงยุคปัจจุบันนี้ก็คงไม่มีใคร สามารถพิสูจน์ความจริงได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ |
ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) | Powered by Discuz! X3.2 |