>> หลวงปู่ท่านเกิดมา เพื่อเติมทานบารมีให้เต็ม โดยไม่จำกัดภพภูมิ และ วรรณะ <<
<body oncontextmenu="return false" oncopy="return false"><div align="center"><u><font size="7"><font color="Blue">หลวงปู่ผู้เมตตา</font></font></u></div><br><div align="center"><font color="Black"><font size="4">บทความโดย อาจารย์สรายุทธ งามชื่น</font></font></div><br><br><div align="center"></div><br><font color="Teal"><font size="5"><br> หลวงปู่ชื่นท่านมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน ท่านให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่เลือกหน้าไม่ว่าจะยากดีมีจนเดือดร้อนมาหา ท่านๆก็ช่วยหมด นิมนต์ท่านไปทำอะไรที่ไหนท่านก็เมตตาไปโปรดทุกคน ถึงแม้แต่ท่านมรณภาพ (มรณภาพ ปี พ.ศ.2547) ไปแล้วท่านก็ยังมาโปรดลูกศิษย์ทุกคน ใครมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ไว้หากบูชาด้วยความเคารพศรัทธาหลวงปู่ แล้วเป็นอยู่ในศีลธรรมแล้วจะไม่มีคำว่ายากจน ขัดสน หรืออดอยากเด็ดขาด จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองดียิ่งๆขึ้นไป ถึงขนาดปรารถนาสิ่งใดหากอธิษฐานขอแล้วและไม่เกินวิสัยแล้วละก็จะได้ดังใจ ปรารถนาทุกประการ</font></font><br><br><div align="center"></div><br><div align="center"><font color="Teal"><font size="4"><br>หลวงปู่ชื่นท่านเคยพูดให้ผมฟังว่า ถ้าขึ้นเรือหลวงปู่ <font color="Magenta">"จะไม่นั่งหัวเรือ" </font><br>หลวงปู่อยาก <font color="Magenta">"นั่งท้ายเรือ" อยากส่งลูกหลาน "ให้ขึ้นฝั่งก่อน" </font> <br>แล้วหลวงปู่จะขึ้นฝั่งเป็น<font color="Magenta"> "คนสุดท้าย" </font><br>หลวงปู่ห่วงลูกหลาน เลยกิเลสหนา <br><font color="Magenta">" การปฎิบัติ "</font> จึงสู้ครูบาอาจารย์ องค์อื่น บ่..ได้..ดอก<br></font></font></div><br> <br><div align="center"></div><br><br><font size="5"><font color="Blue"><div align="center"><br>หลวงปู่ชื่น ท่านรักและเป็นห่วงศิษย์ที่เคารพรักท่าน<br>ด้วยใจบริสุทธิ์ ศักยภาพทางด้านมหาบารมีแล้ว<br>ท่านไม่เป็นรองใคร แม้นแต่ "พระนิพพาน"<br>ท่านก็สามารถไปได้ แต่ด้วยใจที่รักและห่วงลูกหลาน<br>ท่านจึงต้องตามดูแลลูกหลานให้เป็นสุขก่อน<br>หลวงปู่ท่านไม่ได้หนีหายจากเราไปไหนเลย<br>ท่านยังอยู่ใกล้ๆ พวกเราอยู่ตลอดเวลา<br>ท่านเป็นห่วงและรักพวกเราถึงเพียงนี้<br>แล้วพวกเราจะไม่รักท่านได้อย่างไร</div></font></font><br>
</body> หลวงปู่ท่านเกิดมา เพื่อเติมทานบารมีให้เต็ม
โดยไม่จำกัดภพภูมิ และ วรรณะ
http://www.madchima.org/forum/gallery/2_17_03_10_10_29_24.jpeg
เกล้านางนี เมาลีพระโพธิสัตว์ พระอาจารย์โชติ อาภัคโค ยอดพระเกจิกรรมฐานผู้ทรงเวทมหามนต์แห่งวัดภูเขาแก้ว โดยได้ปลงผมผู้ที่มีผมตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้มีผมชนิดนี้ ปืนก็ยิงไม่ออกและเมื่อเจ้าของผมเติบโตขึ้นผมจะเกล้าไว้หรือถักเปียไว้หรือทำไว้แบบอย่างไร ทรงไหนก็ตาม ก็จะติดกันเป็นพืด ถึงวัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ จะมีอาการเจ็บปวด ต้องเข้าวัด ถือศีลจึงจะไม่ปวด การตัดเกล้านางนี จะสามารถตัดได้ก็ต่อเมื่อได้ทำพิธีตัดให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในตำราโบราณ เช่น ต้องถือศีลกินเจให้ครบ 15 วัน และจะต้องให้พระอุปัชฌาย์องค์แรกเป็นผู้ตัดให้ หากไม่เช่นนั้นกรรไกรก็ไม่สามารถตัดได้ โดยผมเกล้านางนี...เมาลีพระโพธิสัตว์ นี้นับเป็นของดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอานุภาพสรรพคุณมากล้น จัดอยู่ในของกายสิทธิ์ประเภท “ สรรพคุณครอบจักรวาล” มีความดีเด่นในหลายๆด้านอาทิเช่น โชคลาภ ค้าขาย ความเจริญก้าวหน้าในกิจการงาน
http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1434768&stc=1&thumb=1&d=1301917120
ทางเขมรเขาจะเรียกว่าสวาโหม ที่สานเกิดที่ลับของผู้หญิงผู้ชายก็มีแต่มีน้อยมาก โบราณถือว่าเป็นของดีสุดยอดหายากเป็นของสำเร็จกายสิทธิ์ เคยเห็นสวาโหมของจริงที่สานก่อจากขนเพชรผู้หญิงเพียงครั้งเดียวเป็นของหลวงตากอย หลวงปู่ท่านเคยบอกว่าพวกนางฟ้าที่ทำผิดกฏสวรรค์จึงจุติมาใช้กรรมนะจุดนี้ หลวงตากอย เมื่อก่อนท่านเคยเป็นทหารออกรบระเบิดตกตรงหน้าตายเรียบมีหลวงตากอยรอดอยู่คนเดียว ครั้งนั้นท่านเล่าว่ารอดมาได้เพราะ สวาโหม
สวาโหมขนเพชรผู้หญิง หรือนางฟ้าผิดกฏ ท่านมีความปรารถนา จะมาอยู่สร้างบารมีกับหลวงปู่ชื่น เพื่อจะปรับภพภูมิของตนเองให้ดีขึ้น จึงมาขอพึ่งบารมีของหลวงปู่ชื่น จนนางฟ้าสวาโหม ได้ภพภูมิที่ดีดั่งใจหมาย
ต่อมาหลวงตากาย ท่านได้มาขอหลวงปู่ชื่นไปสร้างพระปิดตาเนื้อผงรุ่นแรกของท่าน หลวงปู่ชื่นของพวกเราท่านมากเมตตาจริงๆครับ ยอมให้คนไม่รู้จริงปรามาสท่าน ด้วยไม่ยอมปริปากบ่นหรือบอกเหตุผลที่มาที่ไป ผมไม่สงสัยเลยว่า เวลาทำพิธีการต่างๆอันใดที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ชื่นจึงมีเทพพรหม ภูตผี มากมายจะมาร่วมบุญกับท่านอย่างมากมายมหาศาล ก็ด้วยเหตุแห่งการทำบุญทำทานแบบ ไม่จำกัดภพภูมิ และ วรรณะ
หลวงปู่ผู้เมตตา
ตอน หลวงปู่อยากได้โทรทัศน์
เรื่องก็มีอยู่ว่า...........
... มีอยู่วันหนึ่งที่หลวงปู่ชื่นท่าน ได้รับกิจนิมนต์ไปที่วัดแห่งหนึ่งแถวฝั่งธนบุรี เพื่อสงเคราะห์ญาติโยม ในครั้งนั้นท่านก็ได้ปัจจัยจำนวนหนึ่งจากกิจนิมนต์นั้น ซึ่งขากลับท่านก็ไหว้วานพระภิกษุรูปหนึ่งให้พาไปร้านขายโทรทัศน์ที่หลุดจำนำ เพื่อซื้อโทรทัศน์เครื่องหนึ่งกลับไปไว้ที่วัด ...
... พระภิกษุท่านนั้นประหลาดใจกับการกระทำของหลวงปู่ชื่นเป็นอย่างมาก ว่าเหตุใดท่านถึงไม่นำเงินทั้งหมดที่ได้ กลับไปใช้บูรณะวัด กลับดื้อเหมือนเด็กที่รั้นจะเอาของเล่น จะเอาโทรทัศน์กลับวัดท่าเดียว ทำไม?? ไม่ไปหาซื้อแถวที่ที่ท่านพำนักอยู่?? ทำไม.... ทำไม.... คำถามมากมายที่คล้ายจะเป็นการปรามาสท่านเกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งจวบจนบัดนี้ก็ยังเป็นที่ประหลาดใจของท่านพระภิกษุรูปนั้นตลอดมา...
... เมื่อหลวงปู่ได้โทรทัศน์กลับวัด ท่านก็กลับเปิดทิ้งไว้เฉยๆ ดูก็ไม่ดู ...
...เอ๋ !! แล้วหลวงปู่ท่านซื้อมาทำไมหล่ะครับเนี่ย ??? ...
... มีใครพอทราบเหตุผลของหลวงปู่ท่านบ้างไหมคร๊าบ ??? ...
หลวงปู่ชื่น พระผู้เมตตา
ตอน เรื่องเล่าก่อนพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นแรก
วันที่หลวงปู่ชื่นเดินทางมาปลุกเสกเหรียญของท่าน ก่อนมาถึง 1 วันกลางคืนซินแส ท่านฝันไปว่า บริเวณหน้าศาลเต็มไปด้วย สรรพวิญญาณผีสางนาง-ไม้ เจ้าที่เจ้าทาง ผีเด็ก ผีผู้ใหญ่ สัมภะเวสีมากมายจนแน่นหน้าศาลเต็มไปหมด ! ทราบว่ามารอ "กราบหลวงปู่ชื่น" บ้างก็มาเพื่อขอส่วนบุญ...บ้างก็มาด้วยความหิวโหย ฯลฯ คืนนั้นสุนัขเห่าหอน น... กันทั้งคืน
ตอนเช้าเมื่อรถเดินทางมาก่อนจะถึงหน้าศาล หลวงปู่ชื่นท่านให้รถจอดแวะซื้อน้ำหลายโหลและขนมอาหารต่าง ๆ มากมาย จนลูกศิษย์หลายคนต่างแปลกใจ ! เมื่อมาถึงหน้าบริเวณศาลหลวงปู่ท่านได้ให้ศิษย์นำ อาหาร ขนม น้ำ ฯลฯ ไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ก่อนที่ท่านจะเดินลงมาแผ่เมตตาให้สรรพวิญญาณต่างๆนี่ละ หลวงปู่ชื่นของพวกเราเหล่าศิษย์ ! "บารมีเมตตาธรรมไม่มีที่ประมาณจริง ๆ
หลวงปู่ชื่น พระผู้เมตตา
เรื่องโดย คุณมะนาวหวาน
แห่ง http://forum.108prageji.com
สมัยเมื่อก่อนยังเรียนอยู่ เพื่อนพาไปกราบพระดี ( เห็นเพื่อนว่างั้น ) ไอ้เราก็ไม่รู้จักเห็นแต่ในรูป อ่านชื่อได้ว่า หลวงปู่ชื่น วัดตาอี เป็นพระมาจากเขมรรู้เท่านั้นแหละ เพื่อนพาไปผมก็ไป พอดีท่านรับนิมนต์มากรุงเทพ มาทำพิธีอะไรประมาณนั้น พอไปถึงทีคนน่ะเยอะมาก รอตั้งแต่เช้า กว่าจะได้พบตัวกันเป็นๆก็โน่นปาเข้าเกือบ ห้าโมงเย็น แต่ผมก็รอ เพราะเพื่อนบอกให้รอเป็นเพื่อนกันก่อน ขัดเพื่อนไม่ได้เพราะหลวมตัวไปแล้ว พอได้เห็นท่านเท่านั้นแหละศรัทธาเริ่มเกิดเลยเพราะเค้าบอกว่าท่านนั่งทำพิธี ตรงนั้นไม่ได้ลุกไปไหนเลยตั้งแต่เช้านี่ก็เย็นแล้ว ไม่ปริปากบ่นสักคำ ถึงตอนนั้นจะเริ่มศรัทธาแต่ก็ยังเฉยๆอยู่ผมก็นั่งดูท่านทำพิธีคนแล้วคนเล่า
ระหว่างนั้นก็พิจารณาท่านไปด้วย ผิวท่านดูผ่องใส ออกจะนวลๆเหลืองๆซะด้วยซ้ำผิดกับพระเขมรทั่วๆไปที่ผิวออกดำ ตาเป็นประกายน่าดูเหมือนกัน
ช่วงก่อนที่จะมาที่นี่ผมเรียนยูโดมา โดนเพื่อนฟาดซะหนักไปหน่อย ปวดกระดูกช่วงสันหลังมากแต่ก็ทนแต่ไม่ได้พูดอะไรเกรงใจเพื่อนมัน ถึงคิวผมที่จะต้องทำพิธีก็ถือพานไปถวายท่านๆก็ยิ้มรับ ยิ้มหวานมากซะด้วย จากนั้นท่านให้ถอดเสื้อ ผมก็ตะกึ้บๆนะซิก็คนอื่นไม่เห็นท่านให้ถอดอ่ะ เจิมหน้าผากกันทั้งนั้น แล้วทำไมมาสั่งให้ผมถอดอยู่คนเดียว ทำไงได้ก็เลยต้องถอดตามที่ท่านสั่ง ท่านก็เขียนอักขระเต็มไปหมด ไอ้ผมก็ได้เเต่นึกในใจเจ็บกระดูกก็พอทนอยู่และมาโดนเขียนหลังอีก ตายแน่กู
ช่วงนั้นไม่ได้สนหรอกว่าท่านทำอะไรให้เพราะอย่างที่บอกว่าผมไม่ได้รู้จัก ท่านมาแต่ต้นที่ไปก็เพราะเพื่อนบอกให้ไปเป็นเพื่อนเท่านั้น พอไปถึงแล้วก็ต้องทำตามธรรมเนียมไหนๆก็ไปแล้ว พอท่านเขียนเสร็จท่านก็เอาสายสิญจน์มาวนที่หัวผมและคนอื่นๆด้วยประมาณว่าเสก พร้อมๆกันไปทีเดียวเลย ท่านเสกอยู่พักใหญ่นะรู้สึกว่าสักครึ่งชั่วโมงได้ พอเสร็จ คนก็ทยอยออกจากที่นั้นผมก็กำลังจะออกเช่นกัน แต่ศิษย์ที่มากับท่านเรียกผมไว้ว่าอย่าเพิ่งไปท่านให้เข้าไปหา ผมคลานเข้าไปใกล้ๆท่านๆ พูดภาษาไทยปนเขมรผมฟังไม่รู้เรื่องหรอก ได้ลูกศิษย์ท่านแปลให้ ฟังได้ความว่า ที่ปวดหลังเดี๋ยวก็หาย ไม่ต้องห่วงมาก อย่างมากไปเกิน สองวัน เดี๋ยวก็หาย ผมนี้อึ้งสนิท ยิ้มไม่ออกเลย ที่สงสัยอย่างแรง ณ ขณะนั้นคือท่านรู้ได้ไงว่าผมปวดหลังมาก ผมไม่ได้พูด ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครสักคนเพื่อนผมมันยังไม่รู้เลย สุดท้ายท่านควักสีผึ้งตลับสีแดงจากย่ามมาให้ตลับนึงมีกลิ่นหอมมาก ท่านว่ามอบให้อันนี้ใช้ดี( ลูกศิษย์ท่านบอกว่าเป็นสีผึ้งยุคแรกๆที่ท่านทำเมื่อเข้ามาอยู่ที่เมืองไทย ) หลังจากนั้น วันรุ่งขึ้นหลังผมที่ปวดรู้สึกว่าเริ่มเบาปวดลงมากตกตอนเย็นๆที่ปวดๆหายสนิท นั้นเป็นเหตุการณ์เริ่มต้นที่เพิ่งได้รู้จักกับท่านได้รู้ถึงความเมตตาและ อาคมที่ผมคิดว่าเด็ดขาดอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นผมเองได้หาโอกาสไปกราบท่านบ่อยๆ ถ้าได้ไปวัดตาอีก็จะเเวะกราบหลวงปู่ผาดด้วยเสมอเพราะวัดท่านไม่ห่างกัน หลวงปู่ชื่น ยังเคยบอกกับผมเสมอที่ได้ไปกราบท่านว่าหลวงปู่ผาดศักดิ์สิทธิ์มาก
หลวงปู่ชื่น พระผู้เมตตา
ตอน ลูกศิษย์กู จะให้กูทิ้งมันได้อย่างไร
หนึ่งในบทความ แรกพบประสบพักตร์ ของอาจารย์สรายุทธ
ครั้งหนึ่งมีลูกศิษย์ของหลวงปู่ชื่นท่านหนึ่ง ไปทำผิดอะไรผมก็ไม่จำไม่ได้เสียแล้วโดนตำรวจจับ หลวงปู่ชื่นท่านทราบ ท่านได้เดินทางมาดูที่โรงพัก หลวงปู่ท่าน โดนตำรวจกล่าวติเตียนต่างๆ นาๆ หาว่าดูแลสั่งสอนลูกศิษย์ไม่ดี ทำเช่นนี้ มันติดคุกยาวแน่ หลวงปู่ท่านก็ก้มหน้ารับฟัง ก่อนที่จะย้อนถามตำรวจ ท่านนั้นไปว่า"ถ้าเป็นลูกโยม โดนอย่างนี้ โยมจะมาดูไหม"พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ลูกศิษย์ที่อยู่ในกรงทองว่า"ไอ้...นั่นมันลูกศิษย์กู จะให้กูทิ้งมันได้อย่างไร มันเป็นลูกศิษย์กู กูว่าวันพรุ่งนี้มันต้องออกว่ะมึงเชื่อกูไหม?" เมื่อลูกศิษย์ ได้ยินหลวงปู่กล่าวเช่นนั้นปล่อยโฮ....ออกมาจนน้ำตาแทบท่วมกรงทอง และร้องตะโกนบอกหลวงปู่ว่า"หลวงปู่ครับ ช่วยผมด้วย ผมผิดไปแล้วครับ"หลวงปู่จ้องมองลูกศิษย์ด้วยความเวทนา หลังจากนั้นหลวงปู่ได้เดินทางกลับวัด
รุ่งเช้าวันใหม่อยู่ๆคู่กรณีเห็นว่าเป็นเด็ก ใจอ่อนอย่างไงไม่ทราบ เกิดยอมความกันเสียเฉยๆ เสียอย่างไง!ลองเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงดังๆ สมัยนี้ถ้าลูกศิษย์ป็นเช่นนี้คงจะพูดว่า "มันไม่ใช่ศิษย์กู! กูไม่ได้รู้จักมัน!และจะกล้าไปเยี่ยมลูกศิษย์อย่างหลวงปู่ชื่น หรือปล่าว.....หนอ..! ในโลกนี้....อาจารย์ที่รักลูกศิษย์อย่างหลวงปู่ชื่น จะมีสักกี่คน?เคยถามหลวงปู่ว่า"หลวงปู่ครับ หลวงปู่ช่วยลูกศิษย์ที่ถูกจองจำด้วยวิธีไหนครับ ?"ท่านบอกว่า ก็ใช้คาถาบท ".........." การที่จะสำเร็จช้าหรือเร็ว อยู่ที่กรรมหนัก หรือเบา
สาธุ กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ครูอุปปัฌาอาจาริยังวันทามิกราบ กราบ กราบ กราบนมัสการหลวงปู่ครับ สาธุ ขอบคุณครับ