ตามหาหนุมาน...จ.นครนายก
จ.นครนายกประวัติความเป็นมา
นครนายกเป็นจังหวัดในภาคกลางสันนิษฐานว่าเคยเป็นเมืองสมัยทวาราวดีมีหลักฐานแนว
กำแพงเนินดินและสันคูอยู่ที่ตำบลดงละครแต่นครนายกนั้นปรากฏหลักฐานในสมัยอยุธยาเป็นเมือง
หน้าด่าน ทางทิศตะวันออกในสมัยพระเจ้าอู่ทองในปีพ.ศ.2437รัชกาลที่5ทรงจัดลักษณะการปกครอง
โดยแบ่งเป็น มณฑลนครนายกได้เข้าไปอยู่ในเขตมณฑลปราจีนบุรีจนเมื่อพ.ศ.2445ทรงเลิกธรรมเนียม
การมีเจ้าครองเมือง และให้มีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขึ้นแทนและในช่วงพ.ศ.2486-2489นครนายก
ได้โอนไปรวมกับจังหวัดปราจีนบุรีและสระบุรีหลังจากนั้นจึงแยกเป็นจังหวัดอิสระ
จังหวัดนครนายกเดิมชื่อบ้านนาเล่ากันว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาดินแดนของนครนายกเป็นป่ารกชัฏ เป็นที่ดอนทำนาหรือทำการเพาะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผลมีไข้ป่าชุกชุมผู้คนจึงพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น จนกลายเป็นเมืองล้างต่อมาพระมหากษัตริย์ทรงทราบความเดือดร้อนของชาวเมืองจึงโปรดให้ยกเลิก
ภาษีค่านา เพื่อจูงใจให้ชาวเมืองอยู่ที่เดิมทำให้มีผู้คนอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นชุมชนใหญ่และ
เรียก และเรียกเมืองนี้จนติดปากว่าเมืองนา-ยกภายหลังจึงกลายเป็นนครนายกจนทุกวันนี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านเหล่า คศช. ได้เดินทางเพื่อตามล่ามวลสาร
เป้าหมายแรกที่เราเดินทางไปคือ วัดลำบัวลอย
กราบนมัสการ หลวงปู่สนิท ยสิทธโร
ประวัติ โดยสังเขป
ประวัติ หลวงพ่อสนิท ยะสินธโร วัดลำบัวลอย จ. นครนายก หลวงพ่อสนิท ยะสินธโร วัดลำบัวลอย จ. นครนายกเดิมชื่อ นาย สนิท มีพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2468 ต. บางกุ้ง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ. ปราจีนบุรี นาย สนิท ฯ ชอบศึกษาวิชาไสยเวทย์และชอบเรียนรู้ตำรายาแผนโบราณ ช่วยบิดามารดาทำนาจนอายุครบ 23 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฉายา (ยะสินธโร ) ที่ วัดท่าเรือ ต่อจากนั้นก็เรียนอาคมจากหลวงลุง เส็ง ผู้มีอาคมตำราเขมร โดยเฉพาะวิชาจระเข้อาคม หลวงพ่อ สนิท ฯท่านเรียนจนสำเร็จและได้หล่อจระเข้โทนขึ้นมาบูชาครู ท่านสามารถเสกจระเข้หล่อให้มีชีวิตตัวใหญ่เท่าพญาชาละวันว่ายน้ำตีหางไปมา ดังโครมคราม จระเข้ของหลวงพ่อ สนิท ฯท่านเป็นมหาอำนาจช่วยป้องกันภัยให้โชคลาภแก่ผู้ที่มีไว้บูชาพกติดตัวเข้า ป่ายามค่ำคืน เมื่อตอนที่ท่านนอนหลับก็จะมีจระเข้คอยคุ้มครองภัยไม่ให้ภูติผีปีศาจเข้า ใกล้ได้เลย แม้แต่โขมยเปิดประตูรถพบจระเข้นอนอยู่ในรถเลยเผ่นแน่บ ผู้เล่าเองก็ยังนำจระเข้โทนรุ่นกองทัพบกปี 18 สองตัวบรรจุในจระเข้ 2ตัวใหญ่ยาว 2 ฟุตเฝ้าสวน มะปราง ( มะยงชิด ) ที่อ. บ้านนา จ.นครนายก ปลอดภัยตลอดมา หลวงพ่อ สนิท ฯท่านยังสร้างพญาเต่าเรือนแกะด้วยหินขนาดบูชาจนถึงขนาดจิ๋วและเต่าโลหะบรรจุ กริ่ง นกสาลิกาผงตัวเดี่ยวและคู่ ส่วนผ้ายันต์ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ สามารถทำให้ไฟเปลี่ยนทิศได้โบกให้ฝนไปตกที่อื่นได้ ไข่หินขนาดบูชามีจารบูชาป้องกันโจรกันคุณไสยดีนักแล หลวงพ่อ สนิทฯ ท่านยังรักษาผู้ป่วยด้วยยาแผนโบราณและผู้ป่วยที่โดนคุณไสย ท่านยังได้พัฒนา วัดลำบัวลอย มาโดยตลอดจนได้แต่งตั้งเป็น ( พระครูวรเวทย์นิวิฐ ) ท่านรักสันโดดออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี ไม่สะสมทรัพย์สินต่างๆ วัตถุมงคลของท่านหลายอย่างมีพระธาตุเสด็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2542 หลวงพ่อ สนิท ฯก็ได้มรณะภาพลงสิริอายุรวม74 ปี 51 พรรษา ส่วนวัตถุมงคลของท่านมีผู้ศรัทธามากมายทั้งในประเทศและนอกประเทศครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.taradpra.com/itemDeta ... 82&storeNo=5545
ประตูทางเข้าวัดครับ
เลยประตูทาเข้าวัดนิดหน่อยอย่าลืมไปชมกระดูกจรเข้โบราณ ยาวกว่า 3 เมตร
และกราบขอพระแม่ตะเคียนน่ะครับ
โปรดสังเกตุที่ดวงตาหลวงปู่น่ะครับ
เหมือนว่าท่านกำลังบอกอะไรเราหรือเปล่า
กราบนมัสการ หลวงปู่สนิท
กันก่อนจะทำภาระกิจกันต่อครับ
แต่พอลุกเพื่อจะตักน้ำมนต์ ตรงหน้าหลวงปู่
มาเป็นมวลสาร ถึงกับต้องตกใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้า
เป็นพญานาค ที่เกิดจากน้ำตาเทียน
อันนี้พี่ตี๋ ได้เชิญองค์พญานาคกลับ
มากับเราแล้ว
ศาลาลอยในวัด
สาริกา เนื้อผง สร้างเมื่อปี 2533
ยังพอมีให้บูชาบ้างครับ
แต่เนื้อโลหะ สามองค์สุดท้าย ตอนนี้หมดแล้วครับ
ยังมีที่อื่นอีกมั้ยเน้อออ....
เห็นได้หนุมาน ของหลวงพ่อผินะ มาเป็นมวลสารซ่ะด้วย
มวลสารเพิ่มเติม
ไข่หินพระธาตุ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
พระยุดแรก เนื้อผงอิทธิเจ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย
ภารกิจเรายังไม่จบแค่นั้นครับ
เรายังคงเดินทางไปกราบนมัสการสังขาร
หลวงพ่อแดง วัดใหม่บำเพ็ญผล
หน้า:
[1]
2