รามเทพ โพสต์ 2019-9-30 11:08

สมเด็จทรงเสือคู่ หลวงพ่อห้วง วัดสระโพธิ์ นครศรีธรรมราช

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2019-9-30 11:16

สมเด็จ หลวงพ่อห้วง วัดสระโพธิ์


http://img-187.uamulet.com/uauctions/AU299/2013/11/23/6352081267272200001.jpg


พระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 09 ทั้งหมด ของหลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพมหานครฯ มวลสารเป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จึงกล่าวได้ว่า พระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จวัดระฆัง กับผงพระสมเด็จวัดระฆัง เท่ากับว่ามวลสารขององค์พระ เป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งสิ้น
พระเกจิฯ ที่มีความสามารถใน “ปลุกเสก” วัตถุมงคล ได้แก่ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล หลวงพ่อเอียดดำ วัดอ้ายเขียว (เป็นพระอาจารย์ของขุนพันธรักษ์ ราชเดช) พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ซึ่งล้วนเป็น“สุดยอด” พระเกจิฯ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมี “สุดยอด” พระเกจิฯ ของจังหวัดพัทลุง ได้แก่ หลวงพ่อดำ วัดหัวหมอน




https://scontent.fbkk12-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/30705818_2069407503284246_5811291287483785143_n.jpg?_nc_cat=101&_nc_oc=AQkY4nDjMeqj9hCtEom9pTxK88V2mf5NTY0KPKFY08hIgtTtKiXcsaFvN5ULdIr03EpztI4oRoeGeZX0-mOLELJr&_nc_ht=scontent.fbkk12-1.fna&oh=7e717f957d9ef249a33bdf45166b8b76&oe=5E39D6FB

https://www.facebook.com/Mamulettskk/photos/a.1951352731756391/2069407503284246/?type=3&theater


ประวัติความเป็นมา
    พระสมเด็จวัดสระโพธิ์ ซึ่งออกมาก่อน ปี พ.ศ. 2517 “อดีต” เจ้าอาวาสมีลูกศิษย์อยู่ที่กรุงเทพ และลูกศิษย์คนนั้นก็มาอยู่ในงานฝังลูกนิมิต และได้เห็นอำนาจพุทธคุณของพระสมเด็จรุ่นนี้ และได้เช่าพระไปเป็นจำนวนมาก องค์ละ 20 บาท (ในสมัยนั้นถือว่าแพงมาก) แล้วนำกลับมากรุงเทพฯ จากนั้นได้นำมา “แจก” ให้คนกรุงเทพใช้   ซึ่งพระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 09 ทั้งหมด ของหลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพมหานครฯ มวลสารเป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จึงกล่าวได้ว่า พระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จวัดระฆัง กับผงพระสมเด็จวัดระฆัง เท่ากับว่ามวลสารขององค์พระ เป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งสิ้น

    หากเราถามหาพระสมเด็จ ที่ทำมาจากพระสมเด็จวัดระฆัง กับพระสมเด็จบางขุนพรหม “ตัวจริง” โดยไม่ผสมมวลสารใดๆ เลย ต้องพระสมเด็จชุดนี้เลย เนื่องจากคนทั่วไม่รู้ว่าพระที่นำมาแจก ในช่วงปี 17-18 มีเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีความเข้าใจ พระสมเด็จชุดนี้ คือ บางขุนพรหม ปี 17 แต่ตามความเป็นจริงแล้ว เป็นพระสมเด็จของวัดสระโพธิ์ ซึ่งอาจารย์แขกไปได้พระชุดนี้ มาจากวัดสระโพธิ์
                            ในเรื่องของพิธีพุทธาภิเษกพระชุดนี้ ถือว่ามีความเป็น “สุดยอด” คือ เป็นพระรุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่พ่อท่านเขียว วัดหรงบล จังหวัดนครศรีธรรมราชยอมออกจากวัดเพื่อมา “ปลุกเสก” พระสมเด็จชุดนี้ (เป็นครั้งแรก) ซึ่งพ่อท่านเขียวรูปนี้เอง เคยมาเสกพระให้หลวงปู่เพิ่ม วัดบางกลางแก้ว จังหวัดนครปฐม ซึ่งหลวงปู่เพิ่มท่าน “ยกย่อง” ให้พ่อท่านเขียว วัดหรงบล เป็น “สุดยอด” พระเกจิฯ สายใต้
    พระเกจิฯ ที่มีความสามารถใน “ปลุกเสก” วัตถุมงคล แต่ไม่ยอมออกจากเพื่อมา “ปลุกเสก” วัตถุมงคล ได้แก่ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล หลวงพ่อเอียดดำ วัดอ้ายเขียว (เป็นพระอาจารย์ของขุนพันธรักษ์ ราชเดช) พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ซึ่งล้วนเป็น“สุดยอด” พระเกจิฯ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และยังมี “สุดยอด” พระเกจิฯ ของจังหวัดพัทลุง ได้แก่ หลวงพ่อดำ วัดหัวหมอน (เป็นอาจารย์ของอาจารย์ทิม วัดช้างให้) ท่านเป็นศิษย์พี่ของท่านเจ้าอาวาสวัดสระโพธิ์ และเป็นศิษย์พี่ของพ่อท่านเขียว วัดหรงบล
                            เรื่องที่เล่าขานกันในเวลานั้น คือ เมื่อพิธีพุทธภิเษกพระชุดนี้ผ่านไปแล้ว ได้มีการ “ทดสอบ” อำนาจพุทธคุณของพระ โดยยิงด้วยปืนยัดพรต (ปืนแก๊ป) ปรากฏว่ายิงไม่ออก ทำให้พระสมเด็จชุดนี้เป็นที่เลื่องลือ สมัยนั้นพระองค์ละ 20 ก็จริงอยู่ แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับทองคำ ซึ่งราคา ณ เวลานั้น บาทละ 40 บาท ซึ่งจะเห็นว่าราคาพระค่อนข้างแพงทีเดียว
                        
                            การสร้างพระของคนสมัยก่อน ไม่ใช่เรื่องของแฟชั่น ไม่มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะผิดกับในสมัยนี้ การสร้างพระสมัยก่อน ไม่มีเซียนพระเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งหลายทั้งปวง มาจากครูบาอาจารย์จริงๆ ดังนั้นพระในปี 20 ลงไป ส่วนใหญ่วัดสร้างเอง ครูบาอาจารย์สร้างเอง ไม่นิยมเอาคนนอกไปสร้าง เกจิฯ สมัยก่อนมักจะพูดว่าชาติเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน (คำกล่าวของพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี) ทำแล้วต้องทำให้ดี ทำแล้วต้องมั่นใจนำไปคุ้มครอง ป้องกันภัยได้
    สมัยนั้นพระสมเด็จชุดนี้ ถือว่ามีราคาแพงมา และก่อนเช่าก็สามารถทดสอบ “พุทธคุณ” ได้ด้วย แต่การสร้างพระยุคนี้บอกเลย ไม่กล้าลอง สมัยก่อนแค่พระเกจิฯ นั่งมอง ปืนก็ยิงไม่ออกแล้ว เจตนาของคนสมัยก่อน บูชาพระก็เพื่อเป็นการทำบุญ
                            ความเชื่อและความศรัทธาของในพื้นที่ เกี่ยวกับพระสมเด็จ 3 ชั้น วัดสระโพธิ์   ทุกชนชั้น ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า นักธุรกิจ ครูบาอาจารย์ ยันกระทั่งมือปืน      ล้วนแขวนพระชุดนี้กันทุกคน บางคนเล่าว่าแขวนพระแล้วมีโชคลาภ เงินทองเข้ามาไม่ขาดมือ สอบเข้ารับราชการได้ แคล้วคลาดจากอุบัติภัยต่าง ๆฯลฯ
                               ข้อสังเกตมวลสาร ที่ปรากฏอยู่บนองค์พระสมเด็จ
                            • หากเม็ดสีขาว (เหมือนชอล์ก) แสดงว่าเป็น “ผง” ของบางขุนพรหม
                            • หากเม็ดสีเหลือง (เหมือนนมข้น) แสดงว่าเป็น “เนื้อวัดระฆัง”
    การทำปลอมของเนื้อไม่ใช่เรื่องง่าย โดยมีเหตุผลมาจากเอาปูนขาว (ปัจจุบัน)   ทำมาจากแคลไซต์มาเผาไฟ ขายเป็นกระสอบ ผู้สร้างไปซื้อมาทำพระ แต่สมัยอดีต..ไม่มีโรงแร่ จึงเอาปูนขาวมาจากเปลือกหอย มาเผาไฟ ทำให้ได้ปูนขาว แล้วนำมาตำให้ละเอียด ส่วนพระบางขุนทำไมจึงโทนขาว เนื่องจากการทำพระสมัยก่อน ใช้ดินสอพองผสมปูนขาว เปลือกหอย แล้วนำมาสร้าง เนื้อจึงออกโทนขาว
    ส่วนวัดระฆังที่ออกโทนขาว (เหมือนนมข้น) เกิดมาจากปูนขาวในอดีต (ได้มาจากเปลือกหอย) และธรรมชาติของอายุ เก่าเป็น 100 ปี จึงทำให้เนื้อออกไปในโทนสีนั้น แต่ปัจจุบันพยายามมีการทำปลอม ก็ต้องเอาปูนขาวในอดีตมาสร้างพระ และจะต้องรู้กรรมวิธีการขึ้นพิมพ์พระ การกด การตัด การทำเนื้อให้ดูเก่า หากมีชำนาญจะทำได้ยากมาก      
    “พุทธคุณ” ดีในทางหน้าที่การงาน โชคลาภ แคล้วคลาด ซึ่งตรงกับพระสมเด็จวัดระฆัง และ บางขุนพรหม “ทุกประการ”...

รามเทพ โพสต์ 2019-9-30 11:10

http://img-196.uamulet.com/uauctions/AU299/2017/12/16/6364904928341520001.jpg
http://img-196.uamulet.com/uauctions/AU299/2017/12/16/6364904928350880002.jpg

พระสมเด็จรุ่นแรก หลวงพ่อห้วง วัดสระโพธิ์




หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: สมเด็จทรงเสือคู่ หลวงพ่อห้วง วัดสระโพธิ์ นครศรีธรรมราช